เห็ดถอบ หรือ เห็ดเผาะ อาหารป่าราคาสูง อร่อย มากคุณค่า

ปีนี้ปริมาณฝนมีน้อย เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน จะมีพายุเขตร้อนเข้ามาหลายลูก หลายพื้นที่ ประสบสภาวะลูกเห็บตก เป็นพายุลมแรง ทำความเสียหายแก่ทรัพย์สิน พืชผลการเกษตรมากทีเดียว เคยได้ยินโบราณว่า ปีไหนมีลูกเห็บตกมาก จะมี “เห็ดถอบ” ออกมาให้หาเก็บมาก จะเป็นแค่ความเชื่อที่เชื่อและบอกเล่ามา ของชาวบ้านป่าชนบท หรือว่าเป็นวัฏจักรชีวิตของพรรณไม้ในป่าเขา ผืนป่าแถบภาคเหนือ อีสาน หลังจากผ่านความแห้งแล้งมานานพอสมควร ดินแห้ง ต้นไม้สลัดใบร่วงหล่นทับถมบนพื้นดินใต้ต้น บางแห่งเกิดไฟป่าลุกลามเผาไหม้ บางแห่งผุย่อยสลาย พอเข้าสู่ฤดูร้อน ต่อฤดูฝน เจอฝนห่าใหญ่ๆ สักห่าสองห่า เป็นอันได้เห็ดป่าได้เก็บมากินกัน โดยเฉพาะ “เห็ดถอบ” ซึ่งปีหนึ่งจะผุดออกมาให้ลิ้มรสกันสักช่วงหนึ่ง ก็คือช่วงฤดูฝนนี้แหละ และเชื่อไหมว่า ปีนี้ออกมาเยอะมาก จะเป็นเพราะมีลูกเห็บตกมามาก อย่างที่เคยเชื่อมาก่อนหรือเปล่านะ

“เห็ดถอบ” คือชื่อเรียกของคนทางภาคเหนือ ของ “เห็ดเผาะ” บางพื้นที่เรียก “เห็ดเหียง” หรือ “เห็ดหนัง” หรือ “เห็ดเผาะหนัง” หรือ “เห็ดดอกดิน” แต่ละที่แต่ละถิ่นเขาเรียกต่างกันไป เห็ดถอบมีขึ้นในหลายพื้นที่ของเมืองไทย ยกเว้นภาคใต้ เพราะสภาพป่าและภูมิอากาศแตกต่างกัน สองสามปีที่ผ่านมา โหยหารสชาติของเห็ดถอบหรือเห็ดเผาะ เป็นเพราะมีออกมาต้นฤดู อยู่นิดหนึ่ง ชาวบ้านนำเข้าตลาดเสนอขายในราคาแพงมาก ด้วยความเคยชิน คาดการณ์กะเก็งเองว่า คงจะออกตามมาอีกมาก ราคาคงไม่แพงมาก เปล่าเลยสองปีมานี่ ไม่มีมาให้ลิ้มรสเลย แต่ปีนี้มีมาให้กินอิ่มแล้ว ถึงแม้ฝนจะตกน้อย เดือนมิถุนายน เห็ดถอบออกมากในแถบชายแดนอีสาน และป่าเหนือ ราคานะเหรอ ยังสูงอยู่มาก ตวงขายเป็นลิตร หนึ่งกระป๋องลิตร ถ้าเห็ดที่ไม่เปียกชื้น หนัก 5 ขีด หรือครึ่งกิโล ขายกัน กระป๋องละ 240-250 บาท ก็กิโลกรัมละ 480-500 บาท แค่นั้นเอง

เห็ดถอบเมื่อเก็บมาใหม่ๆ หรือซื้อหามาจากคนหาเห็ดจากป่า จะมีเศษดินเศษทรายติดมาเยอะมาก เพราะชาวบ้านไปขุดคุ้ยเขี่ยหามาจากป่าละเมาะ โดยเฉพาะป่าสน ป่าเต็งรัง และดินร่วนปนทรายเป็นผงฝุ่น พอเจอฝนจะจับตัวเหนียวติดก้อนเม็ดเห็ดหรือดอกเห็ด ต้องนำมาแช่ล้างขัดเศษดินออกให้หมดก่อนนำมาทำกิน เห็ดถอบจะเจริญเติบโตอยู่บนพื้นดินใต้ต้นไม้ป่าเต็งรัง ด้วยการอาศัยอยู่ร่วมกันกับรากไม้พวกไม้สน ไม้ยาง ไม้พลวง ไม้เต็ง ไม้รังทั้งหลาย จะคอยเป็นตัวเสริมช่วยการดูดธาตุอาหารและน้ำของต้นพืช เพราะเห็ดถอบเป็นเห็ดราชนิดดี ที่เป็นประโยชน์แก่ต้นพืช จะช่วยการดูดซับธาตุอาหาร โดยเฉพาะฟอสฟอรัส และต้นพืชก็จะสนับสนุนธาตุอาหารที่รากฝอยดูดซับเอามาจากใต้ดิน ที่สังเคราะห์แสง เป็นคาร์โบไฮเดรตแบ่งปันให้เป็นอาหารแก่เห็ดถอบ บริเวณรากและโคนต้น เห็ดถอบก็อาศัยเลี้ยงชีวิตเจริญเติบโต เป็นการเกื้อกูลกันทางธรรมชาติ

เห็ดถอบ หรือเห็ดเผาะ หรือ Puff Ball Mushroom ชื่อสามัญ HIGROSCOPIC EARTHSTAR  เป็นพืชชั้นต่ำตระกูลเห็ดรา วงศ์ Diplocystaceae สกุล Astracus เป็นเห็ดราชนิด ไมคอร์ไรซ่า มีลักษณะดอกเห็ดเมื่ออ่อน จะยังไม่เปิดบาน จะมีลักษณะเป็นลูกกลมๆ สีดำหม่น ข้างในเป็นถุงเนื้อคล้ายวุ้นสีขาวขุ่น คืออาหารเลี้ยงดอกเห็ด เปลือกนอกที่กลมๆ เป็นคล้ายก้อนกรวดแม่น้ำ ถ้ายังอ่อนจะนุ่มนิ่มไม่แข็งกระด้าง ส่วนนี้แหละอร่อยมากๆ เมื่อเห็ดถอบเริ่มแก่ตัว เนื้อในจะเปลี่ยนสี เป็นสีเทาคล้ำๆ จนถึงสีดำ และแห้งเป็นผงสปอร์สีดำ เปลือกนอกจะแข็ง และแตกเปิดออกเป็นรูปดาว 6-8 แฉก สปอร์ที่เป็นผงสีดำก็จะปลิวออกไปติดตามพื้นดิน รากต้นไม้เกาะอาศัยอยู่กับรากพืชป่า แล้วก็บ่มฟักตัวจนผ่านหนาว ผ่านแล้ง ผ่านร้อนมามากๆ แล้วเจอฝนตกห่าใหญ่ๆ ก็จะเจริญเติบโตเป็นลูกเห็ดกลมๆ เล็กๆ ให้ชาวบ้านไปเก็บมากินมาขายในปีถัดไป ส่วนดอกเมื่อแก่แห้ง จะหุบเปลือกเข้าที่เดิม แบบนั่นเอง

เห็ดถอบเมื่อก่อนโน้น นักวิทยาศาสตร์ เขาจัดไว้ในกลุ่มเห็ดราทั่วไป หรือกลุ่ม Geastrum Hygrometricus ต่อมาอีกนับร้อยปี มีการเสนอให้แยกกลุ่มใหม่ เพราะค้นพบความแตกต่างตามวิวัฒนาการชาติพันธุ์เห็ด จัดให้เห็ดถอบเป็นกลุ่ม Astracus ซึ่งเห็ดถอบ มีลักษณะที่เห็นนั้น มีลักษณะคล้ายเหมือนเห็ดในกลุ่ม Geastrum มาก แต่มีข้อแตกต่าง ที่เป็นสาเหตุให้นักวิทยาศาสตร์แยกกลุ่มออกมา เพราะต่างที่ การดูดคายความชื้นตามธรรมชาติของดอกเห็ด และไม่มีเนื้อเยื่อเจริญพันธุ์ เขาวิจัยตรวจพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ นะครับ และได้แบ่งเห็ดถอบหรือเห็ดเผาะ ในกลุ่มใหม่นี้ เป็น 2 ชนิด คือ 1. เห็ดถอบหรือเห็ดเผาะหนัง (A.odoratus) และ 2. เห็ดถอบหรือเห็ดเผาะฝ้าย (A.asiaticus)

คิดถึงบรรยากาศย้อนหลังครั้งหลายปีที่ผ่านมา ป่าทางเหนือแถวอุทยานแห่งชาติสักใหญ่ อุตรดิตถ์ ชาวบ้านเขาออกหาเก็บเห็ด เขาสื่อสารกันอย่างไรไม่อาจทราบได้ คนหลายทิศมาหาเก็บเห็ดกันเป็นกลุ่ม สอบถามบางคน เขาว่าเป็นเหมือนสัญชาตญาณ เมื่อถึงเวลาก็เริ่มเตรียมอุปกรณ์หาเห็ดถอบ มีไม้ไผ่สักอัน เหลาแต่งเป็นรูปไม้พายเรือ แต่อันเล็กๆ ยาวศอกกว่า ถุงย่ามผ้ารักษ์โลกร้อน ขวดน้ำกิน ห่อข้าว ยาหม่องไว้ทาถูนวดหรือทาตอนแมลงสัตว์กัดต่อย และโทรศัพท์มือถือ ขาดอย่างอื่นพอขาดได้ อย่าให้ขาดสิ่งสุดท้ายเชียวนา ปีนี้แม้จะพกพาโทรศัพท์ติดตัวก็แล้ว ยังมิวาย มีเหตุการณ์ชาวบ้านเข้าป่าหาเห็ดถอบ พัดหลง เจอแล้วบ้าง อีกหลายรายยังหาตัวไม่เจอ แนะนำให้ไปบนบานศาลกล่าวเจ้าที่เจ้าทางผีป่าให้ช่วยหากันละนะ หากินกับของป่าต้องติดต่อเจ้าถิ่นเขาด้วยนะ

อาหารจากเห็ดถอบ เห็ดถอบชาวบ้านหาได้มาจากป่าเขาลำเนาไพร อาหารที่ทำกินก็คงหนีไม่พ้นจากอาหารพื้นบ้าน ชาวบ้านนำเห็ดถอบได้หลากหลายชนิด แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็น “เห็ดถอบ” ไว้อย่างดี แกงเห็ดถอบ สุดยอดเมนูพื้นบ้าน แกงป่า แกงแค แกงคั่ว แกงหน่อไม้สด แกงหน่อไม้ดอง แกงเผ็ด แกงส้ม แกงเลียง หรือไม่ก็ประเภทผักต้มเห็ดต้มเห็ดนึ่ง จิ้มน้ำพริกตาแดง น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกข่า น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกกะปิ น้ำพริกอ่อง น้ำพริกน้ำปู แจ่วบอง แจ่วหม้อ หรือนำมาหั่นซอยผ่าผัดใส่หมูน้ำมันหอย ผัดพริกแกง ผัดพริกสด ผัดกระเทียมพริกขี้หนูสวน ผัดกะเพราเห็ด หรือไม่ก็ต้มเค็ม ต้มส้ม แต่บอกไว้ก่อนนะ ของมันแพง ตักกินทีละน้อย ความอร่อยอยู่ที่ปลายลิ้น

ส่วนการเลือกเห็ดถอบมาทำกิน แนะนำให้เลือกเห็ดถอบหนัง ลูกกลมๆ ผิวสีคล้ำนิดๆ บีบเบาๆ จะรู้สึกนุ่ม คล้ายลูกยางลมอ่อน ต้มสุกกัดกิน เนื้อในเป็นคล้ายเจลชื่นชุ่มฉ่ำหอมหวาน ส่วนเห็ดถอบฝ้ายหรือฝ้าย ส่วนใหญ่จะผิวขาว เปลือกนอกบางกรอบ บีบแตกง่าย มีขนปุยขึ้นรอบตัว รสชาติไม่ค่อยอร่อย ราคาถูกด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนชอบอย่างใดก็อย่างนั้นนะ

เห็ดถอบหรือเห็ดเผาะ ให้คุณค่าทางอาหาร กินเห็ดถอบ 100 กรัม หรือ 1 ขีด ให้พลังงานแก่ร่างกาย มากถึง 47 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย เส้นใยอาหาร 2.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 8.6 กรัม โปรตีน 2.2 กรัม ไขมัน 0.4 กรัม มีแร่ธาตุและวิตามิน ได้แก่ ฟอสฟอรัส 85 มิลลิกรัม แคลเซียม 39 มิลลิกรัม เหล็ก 36 มิลลิกรัม วิตามินบีสาม หรือไนอะซิน 0.7 มิลลิกรัม วิตามินซี 12 มิลลิกรัม และมีสารพอลิแซ็กคาไรด์ (AE2) สารควบคุมการตอบสนองภูมิคุ้มกัน และต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง

เห็ดถอบหรือเห็ดเผาะ มีคุณประโยชน์ทางยาสมุนไพร ตำรายาแผนไทยระบุว่า เห็ดมีรสเย็นหวาน กินเป็นยาบำรุงร่างกาย ยาชูกำลัง ป้องกันวัณโรค สมานแผลทำให้ผิวเรียบเนียน ลดอาการบวม อักเสบ แก้ร้อนใน แก้ไข้ บรรเทาอาการคันตามมือตามเท้า ห้ามเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว และแก้ช้ำในได้ดีมาก ว่ากันว่าเห็ดถอบมีสารยับยั้งการเกิดมะเร็ง แพทย์แผนจีน ใช้สปอร์เห็ดถอบ เป็นยารักษาบาดแผล หยุดการไหลของเลือด ลดภาวะมือและเท้าอักเสบ ชนเผ่าอินเดียใช้สปอร์เห็ดถอบ ผสมน้ำมันเมล็ดมัสตาร์ด เป็นขี้ผึ้งรักษาแผลไฟไหม้ ชาวเผ่า Black foot อเมริกาเหนือ เรียกเห็ดถอบว่า “Fallen Stars” เพราะเชื่อว่าเป็นดาวตกมาจากฟ้า ระหว่างเกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ เป็นของดีมีคุณสมบัติเป็นยาวิเศษ นะซิ

พบว่ามีเกษตรกรเอาเห็ดแก่ ก็คงเป็นเห็ดที่เมื่อมีราคาถูกลงมากแล้ว นำไปผ่าหรือบีบให้แตกแช่น้ำเอาสปอร์ที่สีดำๆ ใช้แช่ชุบกิ่งพันธุ์ไม้ผลไม้ยืนต้น นักวิชาการเกษตรที่ผลิตพันธุ์กล้าไม้ ได้นำไปใช้ช่วยเร่งราก และการเจริญเติบโตของกล้าไม้ โดยเฉพาะพืชตระกูลสน ยาง ซึ่งช่วยเร่งการเจริญเติบโตได้ดีมาก ก็เป็นอย่างที่บอกไว้ ว่าเห็ดถอบหรือเห็ดเผาะ เป็นพืชที่อยู่อาศัยเกื้อกูลกันกับต้นไม้ โดยมีคุณสมบัติเฉพาะ คือการดูดคายความชื้น ซึ่งเป็นความโดดเด่นของเห็ดถอบ ดูดซับ และถ่ายเท พืชอื่นๆ ก็อยากคบหาเพื่อนมาเป็นตัวช่วยการเจริญทั้งนั้น

มีหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไม ไม่มีใครเลยหรือ ที่คิดจะทำการเพาะเห็ดถอบเป็นเห็ดเศรษฐกิจบ้าง ก็เคยทราบมาว่ามีนักเพาะเห็ด นักเกษตร ที่คิดค้นหาวิธีเพาะขยายพันธุ์เห็ดถอบ พยายามแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ เพียงพอที่จะนำออกเผยแพร่ ให้ทำการเพาะเลี้ยงเป็นการค้าได้ มีแต่ข่าวเผยแพร่เป็นระยะๆ ว่ามีผู้คนทำสำเร็จ เพาะเห็ดถอบได้แล้ว บางข่าวเพาะเห็ดถอบได้โดยบังเอิญ บ้างก็ว่าเพาะแบบศึกษาหลักการทางพฤกษศาสตร์มาอย่างดีแล้ว บางคนกล้าแนะนำออกมาให้คนอื่นอิจฉา โดยเฉพาะคนที่กำลังโหยหารสชาติสุดเด็ดของเห็ดถอบ เสพข่าวได้ตามกระแส ว่ากันไป ใครที่เพาะเห็ดถอบ สร้างเงิน สร้างรายได้ ก็เชิญรวยตามสะดวก ผมเองก็คงหากินเห็ดป่าที่มีปีละหนต่อไป ในราคากระป๋องละ 240-250 บาท คิดแล้วก็ตกกิโลกรัมละ 480-500 บาท อย่างนี้ไปก่อน ถ้าใครเพาะขายได้ดังข่าวละก็ คงจะได้รวยอื้อ แต่ปีนี้โชคดีมีเห็ดถอบออกมาเยอะ ราคาแพงช่างมันละนะ ขอบคุณคนหาเห็ด ขอบคุณคนขายเห็ด แต่ฝากบอกไว้หน่อยนะว่า ถ้าเป็นไปได้ เห็ดถอบที่ดอกยังลูกเล็กๆ อ่อนอร่อยก็จริง ใจคอจะเก็บมาหมดเลยหรือ ไม่หวังไว้ให้แก่แพร่ขยายพันธุ์เชียวรึน้องพี่ลุงป้าน้าอา