| ผู้เขียน | ธาวิดา ศิริสัมพันธ์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เมื่อลมหนาวมาเยือน ทุกท่านนึกถึงอะไรกันบ้างที่เป็นสัญลักษณ์ของหน้าหนาว ส่วนตัวผู้เขียนเองนึกถึงผลไม้ ลูกเขียวๆ ลักษณะทรงผล คล้ายกับผลแอปเปิ้ล นั่นก็คือพุทรานมสดนี่เอง เพราะเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่ผู้เขียนมีความชื่นชอบส่วนตัว ด้วยรสชาติที่หวานกรอบเป็นเอกลักษณ์ ทุกครั้งที่ได้กินแล้วรู้สึกสดชื่น กินแล้วทำให้รู้สึกอารมณ์ดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเมื่อพูดถึงพุทรานมสด หลายคนจะยกให้พุทรานมสดที่ปลูกในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นนัมเบอร์วัน แต่ครั้งนี้ผู้เขียนจะพาไปแอ่วเหนือ ลองชิมพุทรานมสดที่ปลูกในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ กันดูบ้าง เพราะได้ยินมาว่าพุทรานมสดของที่นี่ก็ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน
คุณธนรักษ์ จันต๊ะ หรือ คุณไทร์ เจ้าของสวนพุทรานมสดสามพี่น้อง ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 199 หมู่ที่ 1 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เกษตรกรอายุน้อยแต่เต็มไปด้วยประสบการณ์การทำเกษตรที่สืบทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น ถือเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีความรักและหวงแหนอาชีพเกษตรกรรมเพราะมีความสำนึกอยู่ตลอดว่า “ที่ตัวเอง มีอยู่ มีกิน มีใช้ ได้เรียนหนังสือ อย่างทุกวันนี้ ก็เกิดจากอาชีพการทำเกษตรกรรมที่สมัยบรรพบุรุษทำสืบทอดกันมา”
คุณไทร์ เล่าให้ฟังว่า ตนเองคลุกคลีกับอาชีพเกษตรกรรมมาตั้งแต่เด็ก หรือพูดง่ายๆ ว่าเติบโตมาท่ามกลางสวนผลไม้ของพ่อกับแม่ โดยปัจจุบันที่บ้านปลูกส้มเขียวหวาน มะม่วง และพุทรานมสด เป็นพืชสร้างรายได้หลักบนพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมดกว่า 60 ไร่ มีพี่น้องอยู่ทั้งหมด 3 คน พี่ชายจะเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลในส่วนของส้มเขียวหวาน ส่วนตนเองเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลจัดการแปลงพุทรานมสดบนพื้นที่เกือบ 5 ไร่ ปลูกพุทราได้ประมาณกว่า 1,000 ต้น ยังไม่รวมกับพื้นที่ที่กำลังขยายแปลงปลูกเพิ่มอีกจำนวนหลายไร่ เนื่องจากพุทรานมสดเป็นพืชที่ตอบโจทย์ในการสร้างรายได้ และค่อนข้างมีวิธีการจัดการดูแลที่ไม่ยุ่งยากแต่ต้องอาศัยประสบการณ์
โดยจุดเด่นพุทรานมสดของที่สวนสามพี่น้อง คือรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ลูกใหญ่ ผิวสวย เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ที่จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
การปลูกพุทรานมสดให้ได้คุณภาพ
สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลเอาใจใส่
คุณไทร์ อธิบายว่า สำหรับขั้นตอนการปลูกพุทรานมสดให้ประสบความสำเร็จถือเป็นเรื่องที่ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน สำคัญที่สุดคือการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ โดยปัญหาหลักๆ ของการปลูกพุทรานมสด คือแมลงวันทอง รวมถึงปัญหาที่เกิดจากสภาพอากาศในช่วงหน้าฝน ที่ทำให้เกิดเชื้อรา มีวิธีป้องกันด้วยการเลือกใช้สารชีวภาพในการป้องกันและกำจัด เช่น เชื้อบิวเวอเรีย ช่วยในการป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้ง, บีเอส ช่วยป้องกันเชื้อรา ด้วยการฉีดพ่นอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ประกอบกับการสังเกตดูสถานการณ์ควบคู่กันไป หากปัญหาของแมลงและโรคพืชเกิดขึ้นเยอะก็จะเพิ่มอัตราการฉีดพ่นถี่ขึ้น
การปลูก พุทรานมสดจัดเป็นผลไม้ที่สามารถปลูกได้เกือบทุกสภาพดิน เพราะฉะนั้นทางสวนจะไม่มีขั้นตอนการเตรียมดิน ก่อนปลูกจะอาศัยเพียงการใส่ปุ๋ยขี้วัวรองก้นหลุมก่อนปลูกเพียงเท่านั้น โดยขนาดความกว้างของหลุมประมาณ 1×1 เมตร ลึก 50 เซนติเมตร จากนั้นนำต้นพันธุ์ที่เตรียมไว้ลงหลุมปลูก โดยขนาดของความสูงของต้นพันธุ์ที่ใช้ปลูกสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร
การดูแลรดน้ำ พุทราเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำแฉะแต่ก็ขาดน้ำไม่ได้เช่นกัน โดยช่วงเวลาปกติจะมีการรดน้ำเดือนละ 1-2 ครั้ง จากนั้นมาเมื่อถึงช่วงทำดอกจะเพิ่มความถี่ในการรดน้ำเป็นทุก 10 วันครั้ง ด้วยระบบน้ำของที่สวนใช้วิธีวางท่อพีวีซีเป็นท่อหลักแล้วใช้สายยางเดินรดตามร่อง หรือให้ดูสภาพอากาศควบคู่ไปด้วย
การดูแลใส่ปุ๋ย หลังปลูกได้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน เริ่มต้นใส่ปุ๋ยครั้งแรกด้วยปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 ปริมาณต้นละ 1 ช้อนชา หลังจากนั้นพอเข้าสู่เดือนที่สองจะเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 เดือนละครั้ง ปริมาณการใส่เพิ่มขึ้นตามขนาดของต้น ใส่สูตรเสมอ 15-15-15 มาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงช่วงระยะทำดอก จะเปลี่ยนมาเป็นปุ๋ยโยกหลังสูตร 8-24-24 ปริมาณ 3-4 กำมือต่อต้น จากนั้นพอเริ่มติดผลจะกลับมาใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 เหมือนเดิมอีกครั้ง แล้วรอเก็บผลผลิตได้เลย ซึ่งเป็นเทคนิคที่ผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้วจนได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ โดยปุ๋ยสูตร 8-24-24 จะช่วยทำให้การติดดอก ออกผลได้ดี ควบคู่กับการฉีดพ่นบำรุงด้วยแคลเซียมโบรอนตั้งแต่ช่วงบำรุงใบก่อนติดดอก และพอหลังจากติดดอกแล้วก็ยังต้องฉีดพ่นอาหารเสริมควบคู่กับการให้ปุ๋ยทางดินเพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้กับผลผลิต
การห่อผลเพิ่มคุณภาพผลผลิต ทางสวนจะให้ความใส่ใจกับผิวของพุทราไม่ต่างจากการดูแลเอาใจใส่ในขั้นตอนอื่นๆ โดยพุทราของที่สวนจะต้องทำการห่อทุกลูก ห่อด้วยถุงพลาสติกใส เพื่อช่วยป้องกันแมลงวันทอง และป้องการสารเคมี โดยจะเริ่มห่อตั้งแต่ขนาดผลเท่านิ้วหัวแม่มือ
ปริมาณผลผลิตต่อต้น พุทรานมสดใช้เวลาปลูกประมาณ 2 ปี สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ครั้งแรก โดยปัจจุบันพุทรานมสดของที่สวนมีอายุประมาณ 3-4 ปี สามารถเก็บผลผลิตได้ปริมาณเฉลี่ยอยู่ที่ 120 กิโลกรัมต่อต้น ขนาดของผลผลิตคัดเป็นเบอร์มีตั้งแต่เบอร์ 0 คือผลใหญ่สุด ถึงเบอร์ 3 คือเบอร์เล็กสุด และสามารถแบ่งขนาดของผลได้ตามช่วงดังนี้ 1. ช่วงต้นฤดูผลผลิตของที่สวนจะเป็นเบอร์ 0 คือขนาดผลอยู่ที่ 7-8 ลูกต่อกิโลกรัม 2. ช่วงกลางฤดู ผลผลิตจะมีเบอร์ 0 คละกับเบอร์ 1 และ 3. ปลายฤดู ผลผลิตจะออกมาแบบคละไซซ์ มีตั้งแต่เบอร์ 0 ถึงเบอร์ 3 ซึ่งส่วนมากแล้วผู้บริโภคจะนิยมกินพุทรานมสดเบอร์ 0 ถึงเบอร์ 1 และในช่วงปลายฤดูจะมีในส่วนของพุทราลูกเล็ก ที่คนแถวนี้เรียกว่า “มุก” ออกมาให้เก็บเป็นสีสันหลังจบฤดูกาลเพราะรสชาติของพุทราลูกเล็กจะมีความหวาน กรอบ กว่าพุทราลูกโตๆ ซึ่ง 1 ปีจะมีให้เก็บแค่รอบเดียวเท่านั้น
ราคา ช่วงต้นฤดูตอนนี้ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท มีทั้งในส่วนที่ขายส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าประจำที่เข้ามารับซื้อถึงในสวน และในส่วนของการขายออนไลน์ ที่ได้รับผลตอบรับดีมากๆ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถทำราคาขายได้ดี โดยการขายออนไลน์มีออร์เดอร์สั่งเข้ามาแต่ละวันไม่น้อยรวมๆ แล้วต่อ 1 ฤดูกาลเฉพาะขายในออนไลน์ก็ได้หลาย 100 กิโลกรัม ทำให้สามารถสร้างรายได้จากการขายพุทราได้ปีละ 350,000-400,000 บาทต่อปี ยกให้เป็นพืชเศรษฐกิจทำเงินของครอบครัวอีกหนึ่งอย่าง ด้วยหนึ่งคือสร้างรายได้ดี สองต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับรายได้ คิดเป็นต้นทุนการผลิตเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือคือกำไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องแลกมากับหยาดเหงื่อและประสบการณ์ที่ผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้วถึงสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ขนาดนี้
ฝากถึงเกษตรกรรุ่นใหม่
“สำหรับเกษตรกรมือใหม่อยากปลูกพุทราเป็นอาชีพหลักหรือเสริมยังถือเป็นอาชีพที่น่าสนใจ เนื่องจากพุทรานมสดเป็นพืชที่ปลูกง่าย สร้างรายได้ดี เพียงต้องอาศัยความขยันและอดทนในการทักหน่อย เพราะการทำเกษตรไม่ใช่เรื่องง่ายในตอนแรก อย่างตัวผมก็เคยผ่านช่วงที่ท้อแท้มาก่อน ที่มีทุกวันนี้ได้เพราะแรงสนับสนุนจากครอบครัวมาประกอบกับงานเกษตรเป็นสิ่งที่ผมมีความชอบเป็นชีวิตจิตใจ จึงเป็นแรงผลักดันให้ผมผ่านช่วงเวลาที่ท้อแท้มาได้ รวมถึงการมองไปถึงวันข้างหน้าว่าอาชีพเกษตรกรรมจะเป็นอาชีพที่สร้างความมั่นคงให้กับเราได้ในอนาคต เพราะจากการที่ครอบครัวทำเกษตรสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่า การเกษตรทำให้ดีก็มั่นคงได้ เพราะทุกวันนี้ที่ผมมีกินมีใช้ พ่อกับแม่มีเงินส่งพวกผมเรียน ก็ใช้เงินจากอาชีพนี้ เพราะฉะนั้นผมจึงรักและหวงแหนในอาชีพเกษตรกรรมที่ทำให้ผมอยู่มาได้ทุกวันนี้อย่างไม่อดอยาก” คุณไทร์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับท่านใดสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 097-974-3732 หรือติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : สวน พุทรา นม สด สามพี่น้อง อำเภอ ฝาง
