สวนเอกอำไพ ลำปาง ปลูกมะม่วงและทุเรียนสายน้ำแร่ สำเร็จ

มนต์รักสวนทุเรียน

สวนเอกอำไพ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 132 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านค่า อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เริ่มสร้างสวนเมื่อราวปี 2546 โดย คุณเอกภพ และ คุณอำไพ วิญญาภาพ สองสามีภรรยา ซึ่งได้รับที่ดินจาก คุณพ่อองอาจ วิญญาภาพ นำมาพัฒนาปรับปรุงเป็นพื้นที่สวนผลไม้ ที่มีการบริหารจัดการสวนเป็นแปลงไม้ผลต่างๆ รวมถึงมีการขุดสระเก็บน้ำ เพื่อให้มีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรกรรมจันทบุรี วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตเกษตรลำปาง และสาขาไม้ผล คณะผลิตกรรมการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้หรือมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน (เรียนรุ่นเดียวกันสาขาเดียวกันกับผู้เขียน) โดยได้พัฒนาปรับปรุงจากเดิมที่เป็นสวนส้ม นำบางส่วนมาปลูกมะนาว ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง และทุเรียนโดยคัดเลือกไม้ผลสายพันธุ์ที่สามารถปลูกและเจริญเติบโตได้ดีในจังหวัดลำปาง บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ จนได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice) จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

ให้ความรู้กับผู้เยี่ยมชมสวน

ปัจจุบันสวนเอกอำไพ ดำเนินกิจการโดยใช้แนวคิดท่องเที่ยวเชิงเกษตร ส่งเสริมให้เกษตรกรในจังหวัดลำปางและใกล้เคียง สามารถเข้าศึกษาหาความรู้ภายในสวนเอกอำไพ เพื่อนำไปต่อยอดสวนของตนเองได้ สวนเอกอำไพแบ่งพื้นที่ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวน 22 ไร่ทุเรียนหมอนทองสายน้ำแร่เนื่องจากพื้นที่อยู่ใกล้เคียงกับอำเภอแจ้ซ้อน และอำเภอแจ้ห่ม ซึ่งมีน้ำแร่ธรรมชาติอยู่

ทุเรียนหมอนทอง (Monthong Durian) เป็นทุเรียนสายพันธุ์หนึ่ง เป็นที่นิยมรับประทานกันมาก ผลเป็นผลเดี่ยว ผลมีขนาดใหญ่ มีก้านขั้วแข็ง ผลมีลักษณะทรงกลม ยาวรี ผิวเปลือกหนาแข็ง มีหนามแหลมยาว ผลอ่อนมีสีเขียว ผลสุกมีสีน้ำตาลปนเขียว มีเนื้อสีเหลืองอ่อน แยกอยู่เป็นพู มีเมล็ดสีน้ำตาลอยู่ข้างในเนื้อ ส่วนมากจะมีเมล็ดน้อยและลีบ เนื้อหนาค่อนข้างแห้ง มีรสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่นิยมปลูกกันมาก ในหลายประเทศที่มีอากาศร้อน ที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีหลายสายพันธุ์ มีคุณประโยชน์และมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง นำมาเป็นผลไม้ใช้รับประทาน ใช้ประกอบอาหารต่างๆ ทำเครื่องดื่มต่างๆ ได้

ทุเรียนสายน้ำแร่คุณภาพ

ทุเรียนหมอนทอง พืชผลไม้สมุนไพรทุเรียนหมอนทอง : Monthong Durian ชื่อวิทยาศาสตร์ : Durio zibthinus murray อยู่ในวงศ์ : Bombacaceae Malvaceae ทุเรียนหมอนทอง (Durio-Mon-Thong) เป็นทุเรียนสายพันธุ์หนึ่ง เป็นที่นิยมรับประทานกันมาก เป็นไม้ยืนต้น ผลเป็นผลเดี่ยว ผลมีขนาดใหญ่ มีก้านขั้วแข็ง ผลมีลักษณะทรงกลม ยาวรี ผิวเปลือกหนาแข็ง มีหนามแหลมยาว ผลอ่อนมีสีเขียว ผลสุกมีสีน้ำตาลปนเขียว มีเนื้อสีเหลืองอ่อน แยกอยู่เป็นพู มีเมล็ดสีน้ำตาล อยู่ข้างในเนื้อ ส่วนมากจะมีเมล็ดน้อยและลีบ เนื้อหนาค่อนข้างแห้ง มีรสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นที่นิยมปลูกมากในประเทศไทย

ลำต้น เป็นไม้ยืนต้น มีทรงพุ่มสูงโปร่ง ลำต้นมีลักษณะกลม เป็นไม้เนื้อแข็ง มีเปลือกแข็งขรุขระจะลอกหลุดออก มีสีเทา

ราก เป็นระบบรากแก้ว แทงลงลึกในดิน มีลักษณะกลม มีรากแขนงรากฝอยเล็กๆ มีสีน้ำตาล ลึกในดิน

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน ใบมีลักษณะรูปไข่ ปลายเรียวแหลม ผิวใบเรียบลื่น ใบด้านบนมีสีเขียว มีนวล ใบด้านล่างมีสีน้ำตาล

ดอก ออกดอกเป็นช่อ มีลักษณะรูปทรงระฆัง กลีบดอกมีสีขาว มีกลิ่นหอม มีก้านดอกยาว ดอกจะออกบนลำต้นและบนกิ่ง

ผล เป็นผลเดี่ยว ผลมีขนาดใหญ่ มีก้านขั้วแข็ง ผลมีลักษณะทรงกลม ยาวรี ผิวเปลือกหนาแข็ง มีหนามแหลมยาว ผลอ่อนมีสีเขียว ผลสุกมีสีน้ำตาลปนเขียว มีเนื้อสีเหลืองอ่อน แยกอยู่เป็นพู มีเมล็ดสีน้ำตาล อยู่ข้างในเนื้อ ส่วนมากจะมีเมล็ดน้อยและลีบ เนื้อหนาค่อนข้างแห้ง มีรสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

เมล็ด ส่วนมากจะมีเมล็ดน้อยและลีบ เมล็ดมีลักษณะทรงรีแข็งอยู่ข้างในเนื้อ เปลือกเมล็ดมีสีน้ำตาลอ่อน มีผิวเรียบลื่น ข้างในเปลือกเมล็ดมีสีขาว

ประโยชน์และสรรพคุณทุเรียนหมอนทอง มีวิตามินเอ วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 1 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 โปรตีน ธาตุเหล็ก ธาตุแมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โพแทสเซียม พลังงาน โซเดียม สังกะสี ไขมัน แมงกานีส กรดอะมิโน ซัลเฟอร์ แก้ฝี ช่วยทำให้ฝีแห้ง ช่วยทำให้หนองแห้ง ช่วยรักษาแผลพุพอง ช่วยสมานแผล ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ช่วยขับพยาธิ ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยบำรุงฟัน มีภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยรักษาโรคมะเร็ง ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยลดไขมันอุดตันในเลือด ช่วยระบบขับถ่าย แก้ดีซ่าน แก้ไข้ แก้ซาง ช่วยรักษาโรคคางทูม ช่วยรักษาโรคบวมน้ำ ใช้ไล่ยุง ใช้ไล่แมลงต่างๆ แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ท้องร่วง แก้ท้องเสีย

ข้อควรระวัง ทุเรียนหมอนทองมีน้ำตาลสูง มีไขมันสูง มีความร้อนสูง ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ควรระวังในการรับประทาน

การปลูกขยายพันธุ์ ทุเรียนหมอนทองสามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด ดินร่วนปนทรายจะเติบโตได้ดี การปลูกทำได้หลายวิธี โดยใช้การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง การติดตา การทาบกิ่ง การเสียบยอด โดยนำกิ่งพันธุ์ไปเพาะในถุงเพาะชำ รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่แดดร่มๆ ใช้เวลาเพาะชำประมาณ 2-3 เดือน แล้วจึงนำมาปลูกลงในแปลง ให้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10×10 เมตร

การดูแลรักษา ทุเรียนหมอนทองชอบอากาศร้อน ชอบแสงแดดเพียงพอ ต้องให้น้ำเพียงพอ ระบายน้ำดี ไม่ชอบดินชื้น ดินไม่แฉะ ช่วงปลูกแรกๆ ให้รดน้ำวันละครั้ง เมื่อทุเรียนเติบโตขึ้นก็ให้เว้นการให้น้ำได้ ให้ทำการตัดแต่งกิ่งบ้าง

การเก็บเกี่ยวผลผลิต ทุเรียนหมอนทองจะให้ผลผลิตใช้เวลาประมาณ 5-6 ปี หลังปลูกลงแปลง จึงจะเริ่มออกผลผลิต และจะให้ผลผลิตมากเต็มที่ เมื่อมีอายุประมาณ 10 ปี เมื่อผลสุกตาหนามจะขยายเต็มที่ เปลือกจะมีสีน้ำตาลปนเขียวทั่วผล ดมดูมีกลิ่นหอม ให้เก็บผลยังแข็งอยู่ โดยให้ใช้กรรไกรตัดทั้งขั้ว แล้วต้องระวังการทำหล่น อาจทำให้เสียหายได้

การเก็บรักษา เราจะนำทุเรียนหมอนทองที่สุกเต็มที่ แล้วนำมาวางไว้ในที่อากาศถ่ายเท จะเก็บรักษาไว้ได้นาน โดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น

สวนเอกอำไพปลูกทุเรียน  22 ไร่ ประมาณ 500 ต้น เป็นระยะเวลา 5 ปี เริ่มมีผลผลิตในปี 2564 เป็นปีแรก ปีที่แล้วมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวน 6 ตัน และปีนี้มีผลผลิตจำนวน 17 ตัน ขายในราคา 250 บาท ปีนี้รายได้ประมาณ 4 ล้านกว่าบาท

ทำไมต้องทุเรียนสวนเอกอำไพ การแบ่งสวนทุเรียนนั้น ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าของสวนเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นการดูแลสวนก็แตกต่างกันออกไป

ทุเรียนส่งออก เน้นรูปทรงผลใหญ่ ฟูเต็ม น้ำหนักมาก จึงต้องมีการดูแลรักษาอย่างดี เพื่อให้มีคุณภาพดีสำหรับการส่งออก เมื่อความแก่ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถตัดชุบน้ำยาและบรรจุตู้ส่งออกไปต่างประเทศได้

ทุเรียนตลาด มีที่มาจากสวน เหมือนทุเรียนสวน การบำรุงดูแลอาจไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างคือการตัด และการขาย ทุเรียนเหล่านี้พอถึงระยะวลาหนึ่ง ความแก่ประมาณ 50 หรือ 60 เปอร์เซ็นต์ ก็จะมีพ่อค้าเข้ามาตีราคา นับต้นเหมาสวนกันไป เรียกว่าเหมาทุกหนาม แก่-อ่อนตัดเกลี้ยง ตัดเสร็จชั่งขึ้นรถ หากทุเรียนยังไม่แก่จัด ถึงแก่ก็แก่ไม่ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ก็จะใช้วิธีการแต้มน้ำยาเร่งสุก เพื่อให้สุกแก่เร็วๆ (ทุเรียนไม่แก่จะไม่ยอมสุกต้องมีสารเคมีมาเร่ง) และผลของน้ำยาเร่งสุก จะทำให้ไส้ทุเรียนร้อนเนื้อนิ่ม แต่เปอร์เซ็นต์แป้งในเนื้อมีไม่พอทำให้รสชาติไม่หวานเหมือนทุเรียนที่ไม่แต้มขั้วแบบทุเรียนสวน

ทุเรียนสวน เป็นทุเรียนที่ชาวสวนขายเอง ส่งตรงถึงมือผู้บริโภค เพราะทุเรียนประเภทนี้จะไม่มีวางขายตามตลาด ไม่มีการส่งออก ราคาสูงกว่าราคาท้องตลาดมาก เพราะชาวสวนเฝ้าดูแลตั้งแต่ดอกบาน มีการทำเครื่องหมายรุ่น เพื่อตัดผลที่แก่จัด เรียงตามรุ่นที่ดอกบานไม่มีผิดพลาด คัดลูกที่แก่ ตัด และผูกเชือกหรือใส่ตะกร้าหย่อนลงพื้นดิน ให้คนที่อยู่ด้านล่างคอยรับวางบนรถ ห้ามวางลงพื้นดิน เพราะเชื้อราบนพื้นดินจะเกาะติดเข้าไปทำลายลูกทุเรียนทางแผลที่ปลายหนามได้ จึงต้องพิถีพิถันกันสุดๆ ห้ามกระแทก เพราะทุเรียนจะช้ำหลังตัดทุเรียนจะสุกโดยธรรมชาติภายใน 1-2 วัน และไม่มีการแต้มสารเร่งสุกใดๆ ทั้งสิ้น แต่ที่สวนเอกอำไพจะแตกต่างจากทุเรียนทางภาคตะวันออก แม้ทุเรียนจะมีกลิ่นแล้วจะต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 2 วัน จึงจะสุกพร้อมรับประทาน ทุเรียนสวนเอกอำไพ ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันคัดแล้วคัดอีก เพื่อให้ได้ทุเรียนที่มีคุณภาพส่งถึงมือผู้บริโภคโดยตรงรับรองว่าไม่ผิดหวัง แต่ในฤดูกาลผลิตปี 2567 ลูกค้าอาจไม่ได้ลิ้มลอง เพราะขณะนี้มีพ่อค้าจากจีนเข้ามาติดต่อขอซื้อเหมาสวนแล้ว หากตกลงกันได้ลูกค้าอดแน่

นอกจากนี้ ทางสวนเอกอำไพยังปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองประมาณ 20 ไร่ อยู่ที่บ้านห้วยฮี ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งน้ำดอกไม้สีทอง อยู่ในวงศ์ : Anacardiaceae ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mangifera indica L. มะม่วงชนิดนี้ เกิดจากการเอาเมล็ดของมะม่วงน้ำดอกไม้พระประแดง เพาะเป็นต้นกล้าแล้วปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล ปรากฏว่า มีความแปลกจากพันธุ์ดั้งเดิมคือ ขณะผลยังอ่อนได้ 1-2 เดือน สีผลจะเป็นสีเขียว แต่พ้น 1-2 เดือนไปแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนตลอดทั้งผล และจะเป็นเช่นนี้ไปจนกระทั่งผลแก่หรือสุกสีเหลืองจะเข้มขึ้น ทำให้เวลาติดผลดกทั้งต้นดูสวยงามมาก เนื้อสุกรสชาติหวานหอม เมล็ดบางเสี้ยนน้อย รับประทานอร่อยมาก สามารถติดผลดกได้ตลอดทั้งปี หรือนิยมเรียกว่าทวายนั่นเอง

อาจารย์สันติ (แม่ช้อยนางรำ) เยี่ยมสวนสรรค์สร้างเมนูทุเรียนย่าง

เจ้าของผู้เพาะเมล็ดคือ พ.อ.อ. สมาน เอมอ่อง เชื่อว่าเป็นมะม่วงกลายพันธุ์ จึงปลูกทดสอบพันธุ์อยู่หลายวิธีและหลายครั้งจนมั่นใจว่าเป็นพันธุ์ใหม่อย่างถาวรแน่นอนแล้ว จึงตั้งชื่อว่า “มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง” พร้อมจดลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย และขยายพันธุ์ออกวางขายได้รับความนิยมจากผู้ซื้อไปปลูกอย่างแพร่หลายและต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบัน ถิ่นกำเนิด และการแพร่กระจาย มะม่วงน้ำดอกไม้เป็นมะม่วงท้องถิ่นในไทย ปัจจุบันพบปลูกในทุกภาค และมีการปลูกเพื่อการค้ามากในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ความบริบูรณ์ 80 เปอร์เซ็นต์ (100-120 วันหลังดอกบาน) อุณหภูมิในการเก็บรักษา 12 องศาเซลเซียส การเพาะพันธุ์ ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลรับประทานในครัวเรือน หรือปลูกเพื่อเก็บผลขาย ขุดหลุมกว้าง 1 ฟุต ลึกเท่ากับปากถุงดำของกิ่งตอนหรือปากกระถาง จากนั้นนำต้นลงปลูกโดยรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกกลบหน้าดินให้แน่น รดน้ำพอชุ่มเช้าเย็น พร้อมบำรุงปุ๋ยสม่ำเสมอเดือนละครั้ง เมื่อต้นโตมีดอกและติดผลจะคุ้มค่ามาก

ผลผลิตของสวนนอกจากจะจำหน่ายผลสดแล้ว ยังมีการแปรรูป เช่น ไอศกรีมทุเรียน ไอศกรีมมะม่วง ข้าวมันทั้งทุเรียนและมะม่วง น้ำมะนาว จำหน่ายทั้งที่สวน และร้านง่ายง่ายชาบู ของลูกสาวในตัวเมืองลำปาง และตลาดนั่งก้อม

หากสนใจเยี่ยมชมสวนศึกษาหาความรู้ หรืออุดหนุนผลผลิตของสวน เชิญที่ 163 หมู่ที่ 2 บ้านค่ากลาง ตำบลบ้านค่า อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง 52100 โทรศัพท์ 063-935-4666 เฟซบุ๊ก : สวนผลไม้เอกอำไพ มาตรฐาน GAP หรือ ไลน์ : orangelampang  กระซิบส่งท้ายชื่อสวน เป็นชื่อที่อดีตท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ท่านทรงพล สวาทธรรม เป็นผู้ตั้งให้

รถนำเที่ยวภายในสวน