แปลงผัก Chia Tai Seed Technology การพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้ก้าวทันโลกที่สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง

Chia Tai Seed Technology ก้าวสำคัญและตรอกย้ำความเชื่อใจ เมื่อบริษัทผู้นำธุรกิจเมล็ดพันธุ์อันดับหนึ่งอย่างเจียไต๋ ได้นำองค์ความรู้มาเปิดเผยเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับเกษตรกรผู้เพาะปลูก ถึงการพัฒนาคุณภาพเมล็ดพันธุ์ด้วยเทคโนโลยี ในขณะที่สภาพแวดล้อมของโลกเปลี่ยนแปลงขึ้น ไม่เพียงแต่เกษตรกรในประเทศที่ต้องตั้งรับและปรับตัวตามสถานการณ์ เกษตรกรจากทั่วโลกก็เจอกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมและสภาวะอากาศไม่แพ้กัน ทำให้มีการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้ก้าวทันโลกที่สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง โดยปัญหาใหญ่ก็คือเรื่องโรคและแมลงที่มากขึ้น และมีความต้านทานที่ทนทานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศที่เผชิญปัญหาเหล่านี้มากกว่าในประเทศไทย เพราะสภาพอากาศที่ร้อนที่สุดก็จะมีสภาพอากาศที่หนาวที่สุด ชื้นก็ชื้นสุด บางที่เจอกับฝนตกหนักทั้งอากาศยังอับไม่ถ่ายเท ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ จึงเป็นที่พึ่งอีกทางสำหรับเกษตรกรเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด

คุณมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติการ บริษัท เจียไต๋ จำกัด

คุณมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติการ บริษัท เจียไต๋ จำกัด เปิดเผยว่า “Chia Tai Seed Technology คือ การทุ่มเทแรงกายแรงใจในการพัฒนาคุณภาพเมล็ดพันธุ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูก ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่จะยังไม่ทราบถึงเทคโนโลยีและการใส่ใจในรายละเอียดในด้านนี้ ที่จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพการเพาะปลูกสูงขึ้น ทนสภาพอากาศร้อน ทนชื้น เพิ่มมากขึ้น มีความทนต่อโรคและแมลงดีเยี่ยม และเป็นที่ยอมรับจากคู่ค้าเมล็ดพันธุ์และเกษตรกรทั่วโลก ทำให้บริษัทเจียไต๋ เป็นผู้นำอันดับ 1 ในการส่งออกเมล็ดพันธุ์และเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 15 เปอร์เซ็นต์ จาก Chia Tai Seed Technology นอกจากนี้ในปีหน้าเจียไต๋ยังมีแพลนที่จะรุกตลาดเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานที่พัฒนาสายพันธุ์และเป็นที่ต้องการออกสู่ตลาดอีกด้วย

“เปอร์เซ็นต์การขายเมล็ดพันธุ์ในประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ และอีก 70 เปอร์เซ็นต์นำส่งออกยังต่างประเทศ ซึ่งการส่งขายตามต่างประเทศ เราก็จะให้พนักงานของเรา ไปศึกษาดูว่าในแต่ละพื้นที่ของประเทศนั้นๆ เขาทานอะไรยังไง มีการประกอบอาหารไปในทิศทางไหน ว่าพืชชนิดไหนที่เขานิยมทาน จากนั้นก็รวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างเป็นพันธุ์พืช และปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้เหมาะสมกับประเทศนั้นๆ ซึ่งผลผลิตที่ได้ออกมา ไม่ได้มีหน้าตาที่ชวนทานอย่างเดียว แต่พืชต้องมีความแข็งแรงต้านทานได้ทั้งโรคและแมลงของประเทศเหล่านั้นได้อีกด้วย” คุณมนัส กล่าว