มทร.ธัญบุรี เรียนรู้ศาสตร์พระราชา ใช้เทคนิคชีวภาพแก้ปัญหาเกษตรกร

ฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดโครงการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของนักศึกษาในศตวรรษที่ 21 : ตามรอยวิถีเกษตรชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ณ หมู่ที่ 7 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ลงชุมชนหมู่ที่ 7 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี พัฒนาด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืนด้วยการใช้เทคนิคทางชีวภาพในการแก้ปัญหาการเกษตร ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มทร.ธัญบุรี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี “มุ่งผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติมืออาชีพ” บนพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อนำองค์ความรู้ที่เกิดจากการเรียนรู้ไปถ่ายทอดให้กับชุมชนสังคมของประเทศ โดยในการดำเนินการด้านพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม (Social Engagement) ทางมหาวิทยาลัยได้มอบหมายให้แต่ละคณะดำเนินการลงพื้นที่ในชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการมามากกว่า 10 ปี เข้าไปรับถ่ายทอดองค์ความรู้ งานวิจัยและนวัตกรรม การเข้าไปในแต่ละชุมชนไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนวิถีชีวิตของชุมชน แต่เข้าไปยกระดับชุมชน นำองค์ความรู้ที่เกิดจากการวิจัยของอาจารย์ไปต่อยอด โดยนักศึกษาเข้าไปมีส่วนร่วมผ่านกิจกรรมของนักศึกษา นำจิตวิญญาณเข้าไปช่วยเหลือ มีความเอื้ออาทรกับสังคม เป็นการพัฒนา Soft Skill ของนักศึกษาทุกคนภายในมหาวิทยาลัย เป็นการปลูกจิตสำนึกแบบถาวรให้กับนักศึกษา

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุกาญจน์ รัตนเลิศนุสรณ์ ผู้ดำเนินโครงการ เล่าว่า ทางคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลงพื้นที่ชุมชน 7 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โดยการนำวัสดุเหลือใช้จากการทำนามาแปรรูปด้วยหัวเชื้อจุลินทรีย์นาโน สำหรับการปรับสภาพดินกรดให้เหมาะสมกับการปลูกข้าว ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตข้าวที่ปลอดภัยและอุดมด้วยสารอาหารเสริมเกลือแร่และวิตามินสูงกว่าข้าวที่ปลูกด้วยปุ๋ยเคมีต่อผู้บริโภค ในการนี้คณะวิชาชีพ 10 คณะ 1 วิทยาลัย ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยี ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในการพัฒนาการปลูกข้าวอินทรีย์ การแปรรูปและการบริหารจัดการดำเนินการด้านตลาดของวิสาหกิจชุมชน อาทิ การลงแขกหว่านสารอาหารเสริมจุลินทรีย์นาโน การแปรรูปผลผลิต ตลอดจนจัดกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมการลงแขก/วิถีไทยแบบมีส่วนร่วมชุมชน สถานประกอบการ มหาวิทยาลัย เครือข่ายภาครัฐและเอกชน ผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ประกอบไปด้วยอาจารย์ของคณะวิชาชีพต่างๆ 10 คณะ 1 วิทยาลัย นักศึกษา เจ้าหน้าที่ เครือข่ายชุมชนบึงกาสาม เครือข่ายชุมชนบึงบา องค์การบริหารส่วนตำบลบึงกาสาม องค์การบริหารส่วนตำบลบึงบาและเจ้าหน้าที่อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี

เกษตรชุมชนหมู่ที่ 7 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ นายเล็ก พวงต้น เล่าว่า บนเส้นทางเกษตรอินทรีย์ ตนเองคิดเสมอว่า “ทำอย่างไรก็ได้ให้มีรายได้พอกินพอใช้ ไม่สร้างหนี้ มีเงินใช้เหมือนตอนที่รับเงินเดือนของข้าราชการ” โดยแรงบันดาลใจของตนเองคือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พ่อของคนไทยทั้งแผ่นดิน เมื่อครั้งได้เดินทางไปดูงานในโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ นำศาสตร์พระราชามาเป็นจุดเริ่มต้นในการบริหารจัดการประยุกต์พื้นที่ 50 ไร่ เกษตรอินทรีย์เข้ามาใช้ “แรกๆ ที่ทำอาจจะเห็นผลช้า แต่ดีกับธรรมชาติ” เรียนรู้บนเส้นทางของเกษตรพอเพียง ค้นสูตรปุ๋ยชีวภาพเอง ผสมโน้นผสมนั้น ศึกษาหาข้อมูล พยายามหาข้อมูลตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาข้อมูลมาปรับใช้ในชุมชน โดยจากการหาข้อมูลทางคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีการนำชีวภาพมาใช้ ตนเองจึงได้ทำเรื่องไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี อาจารย์และทีมงานลงพื้นที่สำรวจ และเข้ามาทำการวิจัยและทำการทดลองนวัตกรรมชีวภาพจากความหลากหลายทางชีวภาพ มาใช้นาข้าว ปาล์ม และได้เข้ามาบริการองค์ความรู้ให้กับศูนย์การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ตำบลบึงกาสาม “ต้องขอขอบคุณทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ได้สร้างองค์ความรู้รวมไปถึงอาจารย์ นักศึกษา เจ้าหน้าที่ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือ” ในการหว่านปุ๋ยในวันนี้เป็นการปลูกฝังนักศึกษา ได้เห็นถึงวิถีชีวิตชาวนา เกิดจิตสำนึกในอาชีพเกษตรกร

“ชะเอม” นางสาวประภาภรณ์ จงเจริญชัยสกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ เล่าว่า ในส่วนของผู้นำนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ตนเองมีหน้าที่ในการจัดเตรียมอุปกรณ์และดูแลนักศึกษาในการลงพื้นที่ตำบลบึงกาสาม เรียนรู้วิถีชาวนา “อาจารย์สาขาวิชาชีววิทยาทำปุ๋ยจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรามาใช้แทน ตามศาสตร์พระราชา” หลังจากที่ได้ทำกิจกรรมหว่านปุ๋ยทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรม คือการถอดบทเรียนมีการระดมความคิดร่วมกัน ได้รับองค์ความรู้ใหม่ๆ 10 คน 10 ความคิด แตกต่างกันออกไป แต่มาทำกิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมที่ดีมาก ถ้าไม่ใช่ลูกชาวนาจะไม่ได้สัมผัสชีวิตวิถีชาวนา

เช่นเดียวกับ “บี” นายเบญจพล ประมวลทรัพย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ เล่าว่า อยากนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์เข้าไปช่วยชาวนา ความรู้ทางด้าน สมาร์ทฟาร์มเมอร์ องค์ความรู้ในการทำนา เกษตรอินทรีย์เป็นองค์ความรู้ส่วนหนึ่งในบทเรียนไม่มี มาวันนี้ได้เห็นต้นข้าวในทุ่งนา ได้เห็นปุ๋ยที่ใช้ในการทำนา ได้ช่วยนาหว่านปุ๋ย ทำให้รู้เลยว่าชาวนาลำบาก ต้องทนร้อนในการทำนา ให้พวกเรามีข้าวกินทุกวันนี้

สาวน้อยจากสาขาวิชาคณิตศาสตร์ “ปิ่นโต” นางสาวพรรณพร เฉลยจิตร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 เล่าว่า การเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ ได้เรียนรู้ “ศาสตร์ของพระราชา” อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ลงพื้นที่ในการวิจัยจากดินในพื้นที่ที่เป็นกรด นำปุ๋ยที่ได้คิดค้นมาช่วยเหลือชาวบ้าน อาจารย์บอกว่าสัดส่วนของปุ๋ยใช้วิชาคณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณสูตรของปุ๋ย ตลอดจน “การใช้พืชช่วยพืช” การเดินตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่พอเพียง นำความรู้ที่ได้มาใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง

“เซ้นซ์” นายก้องปภณ สังข์รุ่ง นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาสถิติประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล่าว่า “กว่าที่จะได้ข้าวมากิน ต้องเหนื่อยมาก ชีวิตชาวนา” ในการมาทำกิจกรรมในวันนี้ เป็นสิ่งที่ดีมาก ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ซึ่งตอนเด็กๆ ตนเองไปวิ่งที่ทุ่งนาของคุณตา ที่จังหวัดปราจีนบุรี แต่ไม่เคยทำนา พื้นที่บึงกาสามเป็นชุมชนต้นแบบที่มีการทำนาเกษตรอินทรีย์อีกด้วย

เช่นเดียวกับ “ไออ้อน” นางสาวสิริรักษ์ บุญมา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล่าว่า เป็นลูกชาวสวนที่จังหวัดขอนแก่น เคยช่วยยายใส่ปุ๋ยผักหลังบ้าน วันนี้มาช่วยหว่านปุ๋ยให้กับชาวบ้าน เป็นจิตอาสาที่ดี เข้าใจชีวิตชาวนาต้องทำนาตากแดด ถ้ามีกิจกรรมอีกจะเข้าร่วม นอกจากนี้ ยังได้รับความรู้จากวิทยากรอีกด้วย

โครงการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของนักศึกษาในศตวรรษที่ 21 : ตามรอยวิถีเกษตรชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ณ หมู่ที่ 7 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เพื่อพัฒนาด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืนด้วยการใช้เทคนิคทางชีวภาพในการแก้ปัญหาการเกษตร สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่จะสร้างความเข้มแข็งแบบยั่งยืน