ส้มโอ “นครชัยศรี” ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย ขายได้ลูกละ 180-200 บาท

อยากรู้เรื่อง ส้มโอนครชัยศรี ต้องไปพูดคุยกับปราชญ์ชาวบ้าน ด้านส้มโอ คือ คุณทิม ไทยทวี เจ้าของสวนส้มโอไทยทวี ที่สะสมประสบการณ์ในการปลูกส้มโอมาเกือบ 50 ปี ปัจจุบัน คุณทิม มีพื้นที่ปลูกส้มโอ 2 แห่ง คือ อำเภอสามพราน จำนวน 10 ไร่ และอำเภอนครชัยศรีอีก 30 ไร่ ในจังหวัดนครปฐม

มารู้จัก ส้มโอนครชัยศรี

คุณทิม บอกเล่าถึงที่มาของชื่อ ส้มโอนครชัยศรี ว่า ไม่ทราบที่มาชัดเจน ตนจำความได้ว่าส้มโอแรกเริ่มเดิมทีนั้น ปลูกกันที่ ตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน ทำกันเรื่อยมา จนกระทั่ง ปี 2526 เริ่มเก็บผลผลิตเพื่อการส่งออก เกษตรกรที่อ้อมใหญ่เริ่มต้นปลูกส้มโอเป็นธุรกิจ คือพันธุ์ขาวพวง ทองดี นิยมส่งออกไปยังประเทศจีน ฮ่องกง และแคนาดา เป็นต้น เนื่องจากผลส้มโอพันธุ์ขาวพวงมีลักษณะคล้ายกับน้ำเต้า ซึ่งคนจีนมีความเชื่อว่าจะทำให้เงินทองพอกพูน จึงนิยมนำไปไหว้เจ้าในเทศกาลต่างๆ ส้มโอพันธุ์ขาวแป้น นิยมปลูกเพื่อขายผลผลิตในประเทศ นำไปสู่การขยายพื้นที่ปลูกกันไปทั่ว รวมทั้งพื้นที่นครชัยศรี

สำหรับ คำว่า “ส้มโอนครชัยศรี” นั้น คุณทิม สันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากตอนที่ส้มโอเริ่มขยายมาปลูกในเขตนครชัยศรี ตอนนั้นยังเป็นมณฑลนครชัยศรี ส้มโอ จึงถูกเรียกตามชื่อมณฑล จึงกลายเป็นส้มโอมณฑลนครชัยศรีแต่นั้นมา เรียกกันจนเหลือแค่ ส้มโอนครชัยศรี ซึ่งในภายหลังได้มีการก่อตั้งเป็นจังหวัดนครปฐม มณฑลนครชัยศรีจึงกลายเป็นอำเภอไป

ตลาดส้มโอนครชัยศรี

จังหวัดนครปฐม ปัจจุบัน มีพื้นที่ปลูกส้มโอ ประมาณ 5,000 ไร่ โดยมีผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 100 ลูก ต่อต้น ต่อปี ซื้อขายกันเป็นลูก ราคาจากสวนแตกต่างกันตามสายพันธุ์ เช่น พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง ราคาหน้าสวน อยู่ที่ลูกละ 120-150 บาท ราคาซื้อปลีก ลูกละ 180-200 บาท พันธุ์ทองดี ส่งขายต่างประเทศ ราคาลูกละ 90-100 บาท ราคาในประเทศ ลูกละ 100 บาท

จุดเด่นของส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้ง ของอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม คือรสชาติหวานอมเปรี้ยว ที่เป็นเอกลักษณ์ สังเกตว่าเป็นของแท้หรือไม่ จากต่อมน้ำมันที่ผิว หากเป็นขาวน้ำผึ้งสามพรานแท้จะมีต่อมน้ำมันละเอียด แต่ถ้าขาวน้ำผึ้งจากที่อื่น ต่อมน้ำมันจะโตกว่า และมีเปลือกหนา

สวนส้มโอไทยทวี

คุณทิม เป็นลูกชาวนาในพื้นที่อำเภอสามพราน แต่เนื่องจากการทำนา ได้ผลผลิตแค่ปีละครั้ง แถมอาชีพชาวนาต้องทำงานหนัก แต่มีรายได้น้อย ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน คุณทิมจึงเลิกทำนาและหันมาทำส้มโอบนที่ดินมรดกเนื้อที่ 10 ไร่ เมื่อปี 2512 โดยเลือกปลูกส้มโอพันธุ์ขาวหอม ขาวน้ำผึ้ง และพันธุ์ทองดี ปี 2525 สวนส้มโอเริ่มให้ผลผลิตเต็มที่ ขายในราคาลูกละ 10-20 บาท โดยส่งผลผลิตขายในท้องถิ่นและส่งขายให้พ่อค้าในกรุงเทพฯ และเริ่มส่งออกส้มโอในปี 2527

การปลูกดูแล

คุณทิม ใส่ใจเรียนรู้การดูแลจัดการสวนส้มโอจนประสบความสำเร็จ ผลผลิตส่วนใหญ่ขายผ่านตลาดโมเดิร์นเทรดในประเทศและส่งออกปีละ 100 ตัน โดยพันธุ์ส้มโอที่ขายดีครองตลาด คือ พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง มีราคาขาย ลูกละ 200 บาท ทุกวันนี้มีเกษตรกรผู้สนใจแวะเวียนเข้ามาขอความรู้เรื่องการปลูกส้มโอของคุณทิมอย่างสม่ำเสมอ

คุณทิม ไทยทวี เจ้าของสวนส้มโอไทยทวี

“ช่วงที่ต้นส้มโอเป็นโรค เคยให้ปุ๋ยและใช้สารเคมีแรงๆ เข้าแก้ไข แต่ไม่สำเร็จ ก็ทดลองแก้ไขปัญหาโดยหยุดการให้ปุ๋ยในช่วงที่ต้นส้มโอเป็นโรค ลองปรับเปลี่ยนเป็นการฉีดยาและให้น้ำ เป็นเวลา 1 เดือน ผลปรากฏว่า ใบเขียวขึ้นผิดหูผิดตา จากนั้นค่อยให้ปุ๋ยตาม” คุณทิม กล่าว

สวนส้มโอไทยทวี ได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งปลูกส้มโอคุณภาพที่ได้รับรองมาตรฐาน GAP แล้ว ยังเป็นศูนย์การศึกษาให้นักศึกษามาฝึกงาน สวนส้มโอไทยทวี เน้นดูแลสวนส้มโอโดยใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ เพื่อปรับสภาพโครงสร้างดิน ย่อยสลายธาตุอาหารในดิน ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ถึง 70% อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อผู้ปลูกและผู้บริโภค เมื่อไม่ใช้สารเคมีก็จะลดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว ขณะเดียวกัน ลูกค้าก็ได้บริโภคส้มโอที่มีคุณภาพและปลอดภัย

สวนส้มโอไทยทวี เจอน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554  ต้นส้มโอแช่น้ำนานถึง 2 เดือน แต่ไม่เสียหายอะไรเลย แม้แต่ต้นขนุน ที่ไม่ทนน้ำ ต้องแช่น้ำท่วมเกือบศอกก็ไม่ตาย เพราะที่นี่ทำสวนแบบอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ ปล่อยตามธรรมชาติ ต้นไม้จึงแข็งแรงด้วยตัวของมัน

ชี้ “กาญจนบุรี” ทำเลดี สำหรับปลูกส้มโอ

คุณทิม บอกว่า พื้นที่ภาคเหนือลงมาจนถึงกาญจนบุรี เป็นทำเลที่เหมาะสมกับการปลูกส้มโอ เพราะมีรสชาติอร่อย ทุกวันนี้การซื้อขายส้มโอเพิ่มขึ้นถึง 10% แต่การขยายตัวของพื้นที่ปลูกกลับน้อยกว่า 1% เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยสนใจอาชีพเกษตรกรรม

คุณทิม ได้มีโอกาสชิมรสชาติส้มโอทั่วประเทศไทย ก็ได้ข้อสรุปว่า ส้มโอที่ปลูกในแหล่งที่มีน้ำมากและอากาศหนาว จะมีรสชาติขมและซ่า ทดลองแก้ปัญหาโดยใช้ปุ๋ย สูตร 0-0-60 และ 0-0-50 ลองใส่ไป 1 เดือนกว่าๆ  ปรากฏว่า ส้มโอมีรสหวานเพิ่มขึ้นจาก 9 บริกซ์ เป็น 11 บริกซ์ ก็จริง แต่พอได้ชิมรสชาติด้วยปาก พบว่าจืดชืดไม่มีรสชาติ แม้ไม่มีรสขมซ่าแล้ว แต่รสจืดมาก เพราะความเปรี้ยวหายไปด้วย เหลือแต่รสหวาน ไม่มีรสที่จะมาช่วยชูรสชาติ

หากใครปลูกส้มโอในแหล่งปลูกที่ไม่ค่อยเหมาะสม เนื่องจากมีสภาพน้ำขังหรือมีอากาศหนาว คุณทิมแนะนำให้แก้ไขโดยใส่ปุ๋ยตัวท้ายสูง เพื่อลดรสขมซ่าและช่วยให้ส้มโอมีรสเปรี้ยวน้อยลง แต่อย่าให้รสชาติดังกล่าวหายไป เพราะถ้าหายรสชาติส้มโอจะจืดทันที และควรมีการเสริมด้วยขี้แดดนาเกลือ และกระดูกสัตว์บดละเอียด

สำหรับผู้ที่สนใจ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกส้มโอ สามารถติดต่อได้ที่ คุณทิม ไทยทวี เบอร์โทรศัพท์ (093) 596-5393