มะขามป้อมยักษ์ สมุนไพรยอดฮิต

มะขามป้อม ชื่อพื้นเมือง มะขามป้อม ทางเขมร-จันทบุรี เรียกว่า กันโตด จังหวัดราชบุรี เรียกว่า กำทวด ส่วนทางกะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน เรียกว่า มั่งลู่ สันยาส่า

ผลมะขามป้อม มีวิตามินซีสูงมากที่สุดในบรรดาพืชทุกชนิดที่มีในโลก ในผลมีสารป้องกันการเกิดออกซิไดซ์วิตามินซี ทำให้วิตามินซีคงตัวอยู่ได้นาน ผลแห้ง เก็บไว้ในที่เย็น เช่น ในตู้เย็น นาน 365 วัน จะเสียวิตามินซีไป ร้อยละ 20

ผลสด ถ้าเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง (29-37 องศาเซลเซียส) นาน 365 วัน จะเสียวิตามินซีไป ร้อยละ 67

เนื้อผลตากแดดให้แห้ง จะเสียวิตามินซีไปประมาณ ร้อยละ 60 ถ้าทำให้แห้งที่อุณหภูมิห้อง จะเสียวิตามินซีไปไม่มากนัก เนื้อผลแห้งเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องจะเสียวิตามินซีไป ร้อยละ 25 ในเวลา 2 สัปดาห์ เสียวิตามินซีไป ร้อยละ 50 ในเวลา 4 สัปดาห์ และเสียไป ร้อยละ 60 ในเวลา 48 สัปดาห์

น้ำคั้นจากผล ใส่ขวดเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องนาน 2 สัปดาห์ จะเสียวิตามินซีไปมากกว่า ร้อยละ 50 แต่ถ้าเก็บในตู้เย็นนาน 9 สัปดาห์ จะเสียวิตามินซีไปน้อยกว่า ร้อยละ 50 ในน้ำคั้นจากผลที่ใส่ขวดเก็บไว้ จะมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นและมีความเป็นกรดคงที่ ที่ pH2

ลุงจุน คงนที เกษตรกรที่ปลูกมะขามป้อมยักษ์ เริ่มต้นเก็บมะขามป้อมจากป่ามาขายเป็นอาชีพเสริม เมื่อ 40 ปีก่อน ได้ราคาขายปี๊บละ 1.50 บาท ต่อมาราคาขยับขึ้นเป็นปี๊บละ 4 บาท จึงคิดหามาปลูก และเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

จากการขยายพันธุ์มะขามป้อมยักษ์ด้วยการทาบกิ่ง ทำให้ไม่กลายพันธุ์ เมื่อราคามะขามป้อมยักษ์ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงเปลี่ยนรูปแบบการขาย จากใช้ปี๊บตวง เป็นการชั่งขายเป็นกิโลกรัม

ผลของมะขามป้อมยักษ์ของลุงจุน มีขนาดที่หลากหลาย คือ ผลกลม ผลแหลม ผลลาย ผลสีเหมือนน้ำนม และผลสีกาแฟ ส่วนใหญ่แล้วขนาดของผลมีขนาดใหญ่

ผลมะขามป้อม จะมีองแบ่งระหว่างผลหรือเรียกว่ากลีบก็ได้ บางลักษณะมีช่องแบ่งผล 6 ช่อง บางลักษณะมี 8 ช่อง ส่วนใหญ่แล้วพบ 6 ช่อง หรือ 6 กลีบ มากกว่า

หากคัดผลใหญ่ๆ จะได้มะขามป้อม 28 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม แต่โดยทั่วไป ขนาด 35-40 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม เปรียบเทียบกับมะขามป้อมทั่วไปแล้ว มะขามป้อมของคุณลุงจุน 1 ผล เท่ากับมะขามป้อมทั่วไป 3-4 ผล

ราก น้ำต้มรากของต้นมะขามป้อม กินเป็นยาลดไข้ เป็นยาเย็น ฟอกเลือด และทำให้อาเจียน ถ้ากลั่นรากจะได้สารที่มีคุณสมบัติเป็นยาฝาดสมานที่ดีกว่าสีเสียด

ลำต้น มีเนื้อไม้แข็ง แช่อยู่ในน้ำมีความคงทนมาก ใช้งานได้ดี ใช้ทำเครื่องประดับ เสาเข็ม หรือใช้เป็นเชื้อเพลิง

ต้น เปลือก เป็นยาฝาดสมาน

ใบ น้ำต้มใบใช้อาบลดไข้

ใบแห้ง มีแทนนินมากใช้ย้อมเส้นใย เช่น ไหม ขนสัตว์ ให้สีน้ำตาลเหลือง แต่ถ้าใช้เกลือของเหล็ก เช่น เฟอร์รัสซัลเฟตเป็นตัวช่วยทำให้สีติดทนจะได้สีดำ

ดอก มีกลิ่นหอมคล้ายผิวมะนาว ใช้เข้าเครื่องยา เป็นยาเย็นและยาระบาย

ยางจากผล รสเปรี้ยว ฝาด ขม หยอดตาแก้อักเสบ กินช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ

เมล็ด ชงน้ำร้อนกินแก้ไข้ โรคเกี่ยวกับน้ำดี คลื่นไส้ อาเจียน หืด หลอดลมอักเสบ และใช้ล้างตา แก้โรคตาต่างๆ เมล็ดเผาเป็นเถ้าผสมน้ำมันพืช ใช้ทาแก้หิดและแผลตุ่มคันต่างๆ น้ำมันบีบจากเมล็ดใช้ทาศีรษะ ทำให้ผมดกดำขึ้น ทาครั้งแรกๆ ผมเก่าจะหลุดร่วงไป แล้วผมใหม่จะงอกขึ้นมาดกขึ้น

มะขามป้อม เป็นสมุนไพรที่คนอินเดียใช้มาเป็นพันๆ ปี ในฐานะเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงสายตา บำรุงสมอง ซึ่งคนอินเดียเรียกมะขามป้อมว่า Amla หรือ Amalaka แปลว่า พยาบาลหรือแม่ ซึ่งสะท้อนสรรพคุณทางยาอันมากมายของมะขามป้อมได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน อินเดียมีการเก็บเกี่ยวมะขามป้อมเป็นสมุนไพรส่งออกในรูปแบบต่างๆ ทั้งมะขามป้อมแห้ง มะขามป้อมสด น้ำมะขามป้อมเข้มข้นหรือมะขามป้อมที่ผสมกับสมุนไพรตัวอื่น ทั้งยังมีการจดสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์มะขามป้อมทั้งในและต่างประเทศ