หนองบัวลำภู แนะลดต้นทุนการผลิตโดยงดเผาตอซังข้าว หว่านพืชปุ๋ยสดไถกลบเพื่อบำรุงดิน

นายวรกุล บุตรดาจักร หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่าในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนของทุกปี จะมีสภาพหมอกควันปกคลุมหนาแน่นเป็นบริเวณกว้าง อันมีสาเหตุหลักเกิดจากเผาขยะเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นาและการเผาป่า เพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร ทำให้คุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทำให้ลดทัศนวิสัยการมองเห็น ทำให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายบนท้องถนน ซึ่งผลเสียที่เกิดขึ้น   จากการเผาตอซัง ฟางข้าวและเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นานั้น เกษตรกรหรือประชาชนทั่วไปอาจคาดคิดไม่ถึง  ว่าจะทำให้เกิดฝุ่นละอองเถ้าเขม่า ควันไฟและก๊าซหลายชนิด ฟุ้งกระจายปกคลุมไปทั่วในบริเวณกว้าง ก่อให้เกิดมลพิษเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบ อย่างมากต่อการทำลายโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของดิน ทำให้สูญเสียน้ำในดิน เนื้อดินจับตัวกัน แน่นแข็ง  สูญเสียอินทรียวัตถุ และธาตุอาหารในดิน เป็นการทำลายจุลินทรีย์ในดินตลอดจนไส้เดือนดิน หรือแมลงที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ ทำให้ปริมาณและกิจกรรมของจุลินทรีย์ดินลดลง นอกจากนั้นตัวอ่อน ของแมลงศัตรูพืช เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียน ที่อาศัยอยู่ในดินหรือตอซังพืช รวมทั้งจุลินทรีย์ที่สามารถควบคุมโรคพืชถูกทำลายไป  ซึ่งหากระบบนิเวศน์ของดินไม่สมดุลจะทำให้การระบาดของโรคเกิดได้ง่ายขึ้น ส่งผลเสีย ต่อเกษตรกร ทำให้การเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจได้ปริมาณผลผลิตที่ไม่ดี ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน

ดังนั้นสำนักงานเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู ขอให้อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านร่วมกับหมอดินอาสาประจำหมู่บ้านต่าง ๆ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่เกษตรกรทราบถึงประโยชน์ของการงดเผาตอซัง ฟางข้าว แล้วใช้วิธีไถกลบลงดินแทน  ซึ่งเกษตรกรสามารถทำเองได้โดยมีค่าใช้จ่ายต่ำ เป็นนวัตกรรมพื้นบ้านแบบง่าย ๆ ที่ได้ผลในการปรับปรุงโครงสร้างดินและบำรุงดินได้เป็นอย่างดี ร่วมกับการใช้น้ำหมักชีวภาพที่ผลิตจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.2 ซึ่งข้อดีและผลของการหมักฟางในนาข้าวด้วยน้ำหมักชีวภาพ จะช่วยให้ตอซังอ่อนนิ่มย่อมสลายได้ง่ายขึ้น จะมีจุลินทรีย์และอินทรียวัตถุที่ช่วยคืนชีวิตในพื้นดินได้ทันที ถ้าหากเกษตรกรมีการปลูกพืชปุ๋ยสดร่วมด้วย เช่น ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า ปอเทือง ฯลฯ  ในอัตรา 5 กิโลกรัม/ไร่ ปลูกนานประมาณ 50 วัน แล้วไถกลบลงดิน จะเป็นการเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุที่มีมวลชีวภาพสด ประมาณ 2,500 กิโลกรัม หรือได้ปุ๋ยแห้ง จำนวน 500 กิโลกรัม ให้กับดินได้โดยตรง ทำให้ดินโปร่งร่วนซุยง่ายต่อการเตรียมดิน การระบายอากาศของดิน มีเพิ่มมากขึ้น เป็นแหล่งสะสมธาตุอาหารพืชและเป็นการเพิ่มจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน ช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างของดินเป็นการหมุนเวียนธาตุอาหารพืชกลับคืนสู่ดิน มีผลให้การเจริญเติบโตและผลผลิตพืชมากขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนในการผลิต และช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีหรือสารเคมีลงได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ถ้าหากเกษตรกรหรือประชาชนที่สนใจ วิธีการ ไถกลบตอซังฟาง ร่วมกับการใช้น้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพิ่มปริมาณผลผลิต ให้มีคุณภาพ โดยมีต้นทุนต่ำ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินใกล้บ้าน หรือกลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู โทร.0-4231-6788 หรือสำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอที่ใกล้บ้านท่าน