กรมเจรจาการค้าฯ แนะชาวสวนลำไยใช้ประโยชน์ FTA ขยายตลาดสู่การค้าเสรี

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ และหอการค้าจังหวัดลำพูน จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการแนะนำเกษตรกรชาวสวนลำไยใช้ประโยชน์ FTA และยกระดับสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า   กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์  หอการค้าไทย. สหกรณ์จังหวัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน. จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2562.  เพื่อให้คำแนะนำสหกรณ์และเกษตรกรชาวสวนลำไยในพื้นที่เรื่องการใช้ประโยชน์เอฟทีเอ และการยกระดับสหกรณ์ไทยในโลกค้าเสรี ซึ่งน่าจะช่วยให้เกษตรกรและสหกรณ์ลำไยสามารถเข้าถึงการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอได้มากขึ้น เกิดการพัฒนามาตรฐานการผลิตสินค้าให้สามารถเจาะตลาดเป้าหมาย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ให้ความสำคัญกับสินค้าลำไยและผลิตภัณฑ์ เพราะเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกไปประเทศคู่ค้าโดยได้รับยกเว้นภาษีภายใต้ FTA หลายฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลำไยสดและลำไยแช่แข็ง มีเพียงสินค้าลำไยกระป๋อง ที่ยังคงการเก็บภาษีอยู่แต่ในอัตราที่ลดลง เช่น จีนเก็บภาษีภายใต้ FTA อาเซียน-จีนอยู่ที่ 5% ส่วนญี่ปุ่นเก็บภาษีภายใต้ FTA ไทย-ญี่ปุ่นในอัตรา 0 – 9.3% ส่วนลำไยอบแห้ง มีเพียงลาวที่ยังคงเก็บภาษีในอัตรา 5% ภายใต้อาเซียน และญี่ปุ่นเก็บภาษีในอัตรา 0.8% ภายใต้ FTA อาเซียน-ญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ลำไยยังเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่มีมูลค่าการส่งออกสูง โดยในปี 2561 ไทยส่งออกลำไยสดมูลค่า 17,219 ล้านบาท ปริมาณ 551,454 ตัน ตลาดสำคัญคือ เวียดนาม (57.88%) จีน (25.59%) อินโดนีเซีย (11.54%) ลำไยแห้งมูลค่า 10,504 ล้านบาท ปริมาณ 205,320 ตัน ตลาดสำคัญคือ เวียดนาม (57.53%) จีน (37.05%) เมียนมา (2.23%) ลำไยกระป๋องมูลค่า 556 ล้านบาท ปริมาณ 9,629 ตัน ตลาดสำคัญ คือ มาเลเซีย (33.79%) อินโดนีเซีย (20.19%) สิงคโปร์ (15.07%) และลำไยแช่แข็งมูลค่า 3.3 ล้านบาท ปริมาณ 37.1 ตัน ตลาดสำคัญ คือ ญี่ปุ่น (48.48%) จีน (32.71%) และฮ่องกง (18.84%)

สำหรับการสัมมนาในช่วงเช้า จะเป็นการพูดคุยในหัวข้อ “ติดอาวุธสหกรณ์ไทย ใช้ประโยชน์ FTA” เน้นเรื่องความตกลง FTA มาตรการทางภาษีและมาตรการที่มิใช่ภาษีต่างๆ ภาพรวมสถานการณ์สินค้าลำไยของไทย บทบาทและการดำเนินการของภาครัฐทั้งฝั่งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมไปถึงภาคเอกชนโดยผู้แทนจากหอการค้าไทย และช่วงบ่ายจะเป็นหัวข้อ “ยกระดับการแข่งขันสหกรณ์ไทย ให้ก้าวไกลในโลกค้าเสรี” ที่เกษตรกรทุกท่านจะได้ทราบถึงพฤติกรรมผู้บริโภคและลักษณะตลาด โอกาสการส่งออก รวมไปถึงตัวอย่างความสำเร็จในการในการส่งออกลำไยและผลิตภัณฑ์

นางอรมน มั่นใจว่า การสัมมนาในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้เกษตรกรได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะกับวิทยากร ทำให้เกษตรกรชาวสวนลำไยและสหกรณ์การเกษตร ได้เรียนรู้เรื่องแต้มต่อเรื่องการนำลำไยสดไปแปรรูปเพื่อส่งออก  และประโยชน์ทางภาษีที่ไทยได้รับจาก FTA ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรของไทยในการขยายตลาดส่งออกสินค้าลำไยและผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ ในอนาคต