บิ๊กฉัตร ปลื้มเกษตรแปลงใหญ่ฉลุย กล่อม ‘โมเดิร์นเทรด’ ขนสินค้าขึ้นห้าง

พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การดำเนินการแปลงใหญ่ ปี 2559 ที่วางเป้าหมายไว้ 600 แปลง 33 ชนิดสินค้า 9 ประเภท 1.53 ล้านไร่ จากเกษตรกรทั้งหมด 96,697 ราย เสร็จสิ้นและมีผลสัมฤทธิ์ออกมาแล้ว โดยผลสัมฤทธิ์จากแปลงใหญ่ 9 กลุ่มสินค้า มีส่วนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ อาทิ แปลงใหญ่กลุ่มข้าวสามารถลดต้นทุนได้ 19% จากเป้าหมายที่วางไว้ 20% ผลผลิตเพิ่มขึ้น 13% ในขณะที่พืชไร่ ต้นทุนลดลง 22.7% ผลผลิตเพิ่มขึ้น 27.8% โดยมีมูลค่าเพิ่มจากผลผลิต 3,437 ล้านบาท มูลค่าจากการลดต้นทุน 1,427 ล้านบาท สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร รวม 4,864 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2560 กระทรวงเกษตรฯ ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มแปลงใหญ่อีก 1,512 แปลง โดยขณะนี้มีการรับรองแล้ว 1,417 แปลง เหลือประมาณ 95 แปลง อยู่ระหว่างดำเนินการรับรอง อย่างไรก็ตาม ภายใน 5 ปี กระทรวงเกษตรฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มแปลงใหญ่ จำนวน 7,000 แปลง

“การดำเนินการแปลงใหญในปัจจุบันเดินหน้าไปมาก คาดว่าภายใน 3 ปี จะถึงเป้าหมาย 7,000 แปลงได้ นอกจากนี้ ยังมีแปลงข้าวหรือกลุ่มข้าวที่กระทรวงเกษตรฯ สั่งปรับขนาดของพื้นที่ จาก 1,000 ไร่ เหลือ 300 ไร่ เพื่อให้สามารถรวมเป็นแปลงใหญ่ ซึ่งขณะนี้เกิดขึ้นแล้ว 700 แปลง ทั้งนี้ เมื่อแปลงใหญ่ข้าวมีขนาดใหญ่และจำนวนมากขึ้น สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือเรื่องของคุณภาพการดำเนินการตามมาตรการของแปลงใหญ่ ซึ่งจะต้องให้ผลผลิตมีคุณภาพและปลอดภัยกับผู้บริโภค” พล.อ. ฉัตรชัย กล่าว

นายสมชาย ชาญณรงค์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สำหรับการเตรียมตัวแผนการพัฒนาแปลงใหญ่ในปีการผลิต 2560/61 ทางกรมส่งเสริมฯ ได้มีการเตรียมความพร้อม ทั้งการอบรมให้ความรู้เกษตรกรก่อนเริ่มปลูก รวมทั้งการประสานงานด้านการตลาดกับโมเดิร์นเทรดที่ติดต่อเข้ามาซื้อสินค้าโดยตรงกับเกษตรกร อาทิ เทสโก้โลตัส ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต บิ๊กซี โดยแต่ละรายต้องการสินค้าเกษตรหลากหลายชนิดและต่างพื้นที่จำนวนกว่า 100,000 ตัน ทั้งนี้ ทางกรมส่งเสริมฯ จึงประสานกับแปลงใหญ่ระดับจังหวัด ให้ประสานกับอำเภอ และเกษตรกรรายแปลง เพื่อกำหนดแผนการผลิตก่อนฤดูการผลิตใหม่จะมาถึง เพื่อให้มีผลผลิตจากแปลงใหญ่ส่งเข้าห้างสรรพสินค้าได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้

 

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน