ที่มา | เทคโนโลยีเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
เผยแพร่ |
ทุกวันนี้ ต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่อยู่ในทิศทางขาลง หากเกษตรกรคนใดต้องการลดต้นทุนการผลิต ขอแนะนำวิธีที่ทำได้ง่ายและต้นทุนถูก คือ ปลูกปุ๋ยพืชสด ที่สามารถตอบโจทย์ 3 ข้อ ที่เกษตรกรต้องการมากที่สุด คือ ช่วยให้มีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิต และช่วยปรับปรุงบำรุงดินไปพร้อมๆ กัน

รู้จัก “ปุ๋ยพืชสด” กันรึยัง?
ปุ๋ยพืชสด คือปุ๋ยอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่ให้ธาตุไนโตรเจนสูง ย่อยสลายง่าย โดยใช้วิธีการไถกลบ ต้น ใบ และส่วนต่างๆ ของพืชที่ยังสดอยู่ลงในดิน เพื่อให้ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย ระยะเวลาที่พืชปุ๋ยสดจะให้คุณประโยชน์สูงสุด คือช่วงระยะออกดอก เพราะเป็นช่วงที่พืชมีธาตุอาหารสูงสุด โดยจะตัดส่วนเหนือดินไถลบลงดินแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ย่อยสลายเป็นอาหารแก่พืชหลักที่จะปลูกตามมา
พืชปุ๋ยสดที่คนส่วนใหญ่รู้จักและได้รับความนิยมมากที่สุดคือ พืชตระกูลถั่ว เพราะหาเมล็ดพันธุ์ปลูกได้ง่าย เมื่อนำไปจำหน่ายก็ได้ราคาดี พืชที่ใช้ปลูกเป็นปุ๋ยพืชสด ได้แก่ โสนแอฟริกัน โสนอินเดีย ปอเทือง อัญชัน ไมยราบไร้หนาม พืชตระกูลถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วพร้า ถั่วพุ่ม เป็นต้น

การปลูกปุ๋ยพืชสด จะช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดินที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช (Function of Organic Matter in Soil) อาทิ เป็นแหล่งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส สำหรับการเจริญเติบโตของพืช มีผลอย่างมากต่อการทำงานของจุลินทรีย์ในการช่วยย่อยสลายซากพืช ซากสัตว์ ช่วยเสริมโครงสร้างดินให้ดีขึ้น เพิ่มอากาศ กักเก็บความชื้น เพิ่มประจุความสามารถของดินในการแลกเปลี่ยนเกลือ แร่ธาตุ และการปรับสมดุล กรด-ด่าง ในดินได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ของปุ๋ยพืชสด
ประโยชน์ของปุ๋ยพืชสดมีมากมาย เช่น เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน เพิ่มธาตุไนโตรเจน ซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักให้แก่พืช กรดที่เกิดจากการผุพังของพืชสดจะช่วยละลายธาตุอาหารในดินให้แก่พืชได้มากยิ่งขึ้น บำรุงและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินโดยพืชปุ๋ยสดจะใช้ประโยชน์จากปุ๋ยที่ตกค้างจากการใส่แปลงปลูกพืชเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นพืชหลัก เป็นการป้องกันการสูญเสียธาตุอาหารไม่ให้ถูกชะล้างไป พืชตระกูลถั่วที่มีระบบรากลึกก็สามารถดูดดึงธาตุอาหารที่อยู่ในดินชั้นล่างขึ้นมาในลำต้น กิ่ง ก้าน และใบได้ เมื่อไถกลบพืชปุ๋ยสด และสลายตัวแล้วธาตุอาหารเหล่านั้นก็จะตกอยู่ในดินชั้นบน อันจะเป็นประโยชน์แก่พืชเศรษฐกิจหลักต่อไป
นอกจากนี้ การใช้ปุ๋ยพืชสดจะช่วยทำให้ดินร่วนซุย สะดวกในการเตรียมดินและไถพรวน อุ้มน้ำได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการรักษาความชุ่มชื้นในดินอีกทางหนึ่ง ช่วยควบคุมวัชพืชบางชนิดได้เป็นอย่างดี ช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้บางส่วน ช่วยลดอัตราการสูญเสียดิน อันเกิดจากการชะล้าง และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิตของพืชให้สูงขึ้นด้วย
“ปุ๋ยพืชสด” ดีกว่า “ปุ๋ยเคมี” อย่างไร?
คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือ ต้นทุนค่าใช้จ่ายของปุ๋ยพืชสดต่ำกว่าปุ๋ยเคมีอย่างมหาศาล เพราะปุ๋ยพืชสดสามารถผลิตได้เองโดยไม่ต้องง้อพ่อค้าในช่วงสถานการณ์ปุ๋ยแพง รวมถึงเมล็ดพันธุ์ก็สามารถขอรับฟรีได้ ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ จะมีก็เพียงการไถเตรียมแปลงที่เกษตรกรต้องลงทุนเองเท่านั้น
ส่วนทางด้านปฏิกิริยาต่อดินนั้น พบว่า การใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน จะทำให้ดินสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ไปอย่างรวดเร็ว ดินจะแข็ง ไม่ร่วนซุย ดูดซับน้ำและแร่ธาตุอาหารพืชได้น้อยลง ส่งผลทำให้ผลผลิตที่ได้รับไม่ดี…ท่านทั้งหลายคงไม่แปลกใจที่หลังจากใช้ปุ๋ยเคมีเป็นเวลานาน หน้าดินจะแข็งและเกิดภาวะดินไม่กินปุ๋ย ทำให้ต้องใส่ปุ๋ยในอัตราที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต้นทุนค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
หากพิจารณาในภาพรวมทางด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงิน แรงงาน และเวลา ในการผลิตปุ๋ยพืชสดยิ่งชนะปุ๋ยเคมีขาดลอย แม้กระทั่งปุ๋ยคอกยังสู้ไม่ได้ โดยเฉพาะในแปลง/ไร่นา ที่มีขนาดใหญ่ เพราะการใช้ปุ๋ยเคมีแต่เพียงอย่างเดียวจะสูญเงินไปมาก เพราะทุกวันนี้ปุ๋ยคอกเริ่มหาซื้อได้ยาก ราคาก็แพงขึ้นเรื่อยๆ หากจะใช้ปุ๋ยคอกจริงๆ ก็ต้องใช้เป็นตันๆ ถึงจะเห็นผลดี ไหนจะต้องหาแรงงานในการช่วยหว่าน นึกแล้วลำบากแทน ไฉนเลยจะสู้ปุ๋ยพืชสด-พระเอกตัวจริงได้…
พืชปุ๋ยสด ชนิดไหนดีที่สุด?
คำถามนี้ตอบได้ยาก เพราะแต่ละชนิดดีใกล้เคียงกัน…เกษตรกรคงต้องเลือกชนิดที่เหมาะกับตนเองมากที่สุดจะดีกว่า แต่ด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกันของพืชปุ๋ยสด ก่อนตัดสินใจปลูก…เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลคุณสมบัติของพืชปุ๋ยสดแต่ละชนิดให้เหมาะกับลักษณะพื้นที่ สภาพดิน และฤดูกาลปลูกเสียก่อน รวมทั้งคำนึงถึงแหล่งจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ จำนวนเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ปลูก วันออกดอก และวันไถกลบด้วย
สำหรับคุณสมบัติของพืชปุ๋ยสดแต่ละชนิด พิจารณาได้จากชนิดของพืชปุ๋ยสด ลักษณะของพื้นที่ที่เหมาะสม ฤดูปลูกที่เหมาะสม จำนวนเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ปลูก วันออกดอก (วัน) วันไถกลบ (วัน) เพื่อการไถกลบ เพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ หว่านไถกลบ กิโลกรัม/ไร่ ปลูกขยายพันธุ์ กิโลกรัม/ไร่
ปอเทือง ชอบที่ดอนที่มีการระบายน้ำดี ปลูกก่อนหรือปลายฤดูฝน กลางหรือปลายฤดูฝน
โสนอินเดีย ชอบดินเหนียว ทนเค็ม ปลูกก่อนฤดูฝน
โสนแอฟริกัน ชอบดินที่ดอนและลุ่ม ทนเค็ม ปลูกก่อนฤดูฝน
ถั่วพุ่ม ชอบที่ดอน ทนแล้ง ปลูกก่อนหรือปลายฤดูฝน

ถั่วพร้า ชอบดินเหนียวและดินกรด ทนแล้ง ปลูกก่อนฤดูฝน หรือปลายฤดูฝน
ถั่วเขียว ชอบดินที่ดอน ทนแล้ง ปลูกก่อนฤดูฝน หรือปลายฤดูฝน
หากเกษตรกรท่านใดสนใจ อยากลองผลิต “ปุ๋ยพืชสด” : สุดยอดเมนูเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ดิน ดินที่เกษตรกรไทยไม่ควรมองข้าม สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศได้ เพราะคุณประโยชน์ที่ได้ นอกจากเพิ่มความสมบูรณ์ให้ดินแล้ว ยังสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรผู้ผลิต จากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมีลดลง เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีในปริมาณมากเหมือนเคย รวมทั้งมีรายได้เสริมจากการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ให้แก่สถานีพัฒนาที่ดิน เพื่อนำไปขยายผลแก่เกษตรกรที่สนใจ นำไปปลูกเพื่อปรับปรุงดินต่อไป…
ขอบคุณ ข้อมูลและภาพประกอบข่าว จาก กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เผยแพร่ออนไลน์ล่าสุด เมื่อวันพฤหัสที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2565