อีสท์ เวสท์ ซีด เผย 3 ปัจจัยก้าวสู่เบอร์1ตลาดธุรกิจเมล็ดพันธุ์

นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด

ผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ตราศรแดงแถลงความสำเร็จตลาดธุรกิจเมล็ดพันธุ์ในปี 2563 นี้ว่ากุญแจสำคัญที่ทำให้อีสท์ เวสท์ ซีดก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ1 ในตลาดธุรกิจเมล็ดพันธุ์นั้นมาจาก 3 ปัจจัย  โดยระบุว่าปัจจัยแรกคือเป็นผลมาจากงานวิจัยหรือ R&D ถือเป็นหัวใจหลักผนวกกับปณิธานของผู้ก่อตั้ง ที่ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ผักเขตร้อนที่ดีที่สุดในโลก ทำให้มีการลงทุนทางด้านนี้หลายร้อยล้านต่อปีและมีพนักงานในฝ่ายนี้รวมทั้งสิ้นกว่า1,200 คนที่คอยคิดและพัฒนาพืชผักสายพันธุ์ใหม่ๆ ออกมา

“บางสายพันธุ์ใช้เวลาพัฒนาหลายปีกว่าจะประสบความสำเร็จ เรามีการทดลองในแปลงทดลอง ทดลองในแปลงเกษตรกร ผนวกกับปณิธานของผู้ก่อตั้งคุณไซมอน กรู๊ท ซึ่งท่านมีปณิธานว่าเมล็ดพันธุ์ที่ดีสามารถเปลี่ยนชีวิตคนนับล้านได้ ทุกคนในองค์กร จึงมีเป้าหมายเดียวกันก็คือทำงานอย่างไรถึงให้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุด”

นายวิชัย กล่าวต่อว่า ปัจจัยต่อมาเรามุ่งเน้นไปที่เกษตรกรรายย่อยเป็นสำคัญ ซึ่งเกษตรกรกลุ่มนี้ถือเป็นพ่อครัวอาหารของโลก สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนารวมถึงโครงสร้างของบริษัทที่พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในชีวิตของผู้คน ในขณะเดียวกันก็สามารถดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ด้วย

ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ย้ำอีกว่า สำหรับปัจจัยสุดท้ายเรามองปัญหาเป็นความท้าทายซึ่งในปีนี้ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ ๆ มากมายทั้งวิกฤติภัยแล้งตอนต้นปีและวิกฤติโควิด -19 ในช่วงที่ผ่านมา โดยช่วงต้นปีนั้น ทางบริษัทก็ได้ริเริ่มโครงการ”ศรแดงพืชน้ำน้อย ทางเลือกในช่วงภัยแล้ง”เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรที่ไม่สามารถปลูกข้าวหรือพืชไร่ได้ให้หันมาปลูกพืชผักที่ใช้น้ำน้อยทำให้เกษตรกรกลุ่มชาวนาและปลูกพืชไร่มีรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัว

ขณะที่การเกิดวิกฤติโควิด-19 บริษัทได้ผุดโครงการ”ชวนเพื่อนรัก ปลูกผักอยู่บ้านต้านโควิด-19” โดยมีการแจกเมล็ดพันธุ์ฟรีให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ ทำให้เกิดกระแสการปลูกผักอยู่บ้านไปทั่วประเทศ

“เป้าหมายที่ผมมุ่งหวังมากที่สุด ประเทศไทยจะต้องเป็น”SEED HUB”ของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกให้ได้”นายวิชัยกล่าวและว่าขณะนี้บริษัทได้ส่งแตงกวาสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด”สปีดแม็ก”ออกสู่ตลาด โดยจุดเด่นแตงกวาพันธุ์นี้ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ใช้ระยะเวลาปลูกเพียง 30 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งเกษตรกร แม่ค้าและผู้บริโภคเป็นอย่างดี”

 

สำหรับ สปีดแม็ก ซึ่งเป็นแตงกวาสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดของอีสท์ เวสท์ ซีดที่ได้พัฒนาให้เก็บผลผลิตได้เร็วที่สุด ให้ผลผลิตที่สูงกว่าพันธุ์อื่นๆ ติดดกโคนต้น มีผลสีเขียวตอง ลักษณะผลยาว  10-12 ซม.ทนต่อโรคไวรัสแมลงหวี่ได้ดีและให้ผลผลิตสูง 400-500 กก.ต่อไร่ มีอายุเก็บเกี่ยว 32-35 วันหลังหยอดเมล็ด โดยเกษตรกรที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้โทร.02-8317714 ในเวลาทำการ