ชาวสวนลิ้นจี่ปลื้มขายได้หลายแสน จีนทุ่มซื้อ คาดทำเงิน 350 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรนิยมปลูกลิ้นจี่ในพื้นที่ ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมือง มากกว่า 200 ไร่ โดยเฉพาะบ้านนาโดน หมู่ที่ 2, 4, 11 กำลังเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค เนื่องจากลูกโตน้องๆ ไข่ไก่ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ขณะที่มีพ่อค้าชาวจีนมาทำสัญญาจองซื้อทั้งสวน อีกทั้งริมทางหลวงมีแม่ค้า พ่อค้า แห่มาตั้งเพิงร้าน กว่า 20 แห่ง คึกคัก ส่งผลให้มีเงินสะพัดวันละหลายแสนบาท

นางรัตนาพร นอริสาร วัย 41 ปี กล่าวว่า ตนมีเนื้อที่ข้างบ้าน 2 ไร่ จึงปลูกลิ้นจี่พันธุ์ น.พ.1 ไว้ประมาณ 60 ต้น ปลูกมาได้ 7 ปี จึงได้ทยอยเริ่มเก็บผลผลิตเฉลี่ยต้นละ 50 กิโลกรัม ทยอยออกเป็นรุ่นได้ผลผลิตปีนี้ 2-3 ตัน มีพ่อค้าจากตลาดไทมาเหมาซื้อครั้งละ 300-400 กิโลกรัม ช่วงต้นฤดูกาลใหม่ราคาพุ่งกิโลกรัมละ 100 บาท

“ช่วงต้นเดือนเม.ย.มารับซื้อถึงสวน กิโลกรัมละ 80 บาท จำนวน 300 กิโลกรัม ได้เงินเข้ากระเป๋า วันละ 24,000 บาท หลังจากให้ลูกที่ปิดเทอมมาช่วยตัดส่ง 3 วัน มีรายได้มากกว่า 1 แสนบาท ส่งเสียบุตรสาว 3 คนได้สบายๆ”

ขณะที่ คุณยายฮวน นันทพัฒนา อายุ 73 ปี กล่าวว่า ปลูกลิ้นจี่พันธุ์ น.พ.1 ไว้ 3 ไร่ จำนวน 60 ต้น ปีนี้ผลผลิตออกน้อย เฉลี่ยแค่ 70% ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคมของทุกปี ลิ้นจี่อยู่ช่วงที่กำลังติดดอก หากปีไหนอากาศหนาวเย็นผลจะติดง่าย หากอากาศร้อนดอกจะร่วงหล่นหมด โชดดีปีนี้สภาพอากาศเอื้ออำนวย คาดว่าผลผลิตที่สวนจะได้ 2-3 ตัน โดยมีพ่อค้าชาวจีนมาทำสัญญาซื้อล่วงหน้า 5 ปี ในกิโลกรัมละ 70 บาท คาดว่าปีนี้จะทำเงินเข้ากระเป๋าประมาณ 2 แสนบาท

ด้าน นายวีระเดช ซามาตย์ นายก อบต. ขามเฒ่า กล่าวว่า ในปี 2558 เกษตรกรปลูกลิ้นจี่พันธุ์ น.พ.1 จำนวน 143 ราย ใน 245 ไร่ มีผลผลิต 500 ตัน ทำเงินเข้าพื้นที่ 350 ล้านบาท แต่ปีที่ผ่านมาผลผลิตแทบไม่ออก เพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

 

ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด