เกษตรกรขานรับ “รถเร่ผลไม้ไทยน่าช้อปภาคตะวันออกสู่ผู้บริโภค”

นายปิยะ สมัครพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง (สสก.3 จ.ระยอง) เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ร่วมกับ สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี จัด “โครงการรถเร่ผลไม้ไทยน่าช้อปภาคตะวันออก” ผลไม้มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัย ครั้งที่ 3 ขึ้น ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี

ทั้งนี้ เพื่อกระจายผลไม้ผ่านระบบรถเร่ โดยเฉพาะช่วงผลผลิตผลไม้กระจุกตัว จะทำให้กระจายได้เร็วขึ้นสามารถเพิ่มราคาให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น ในครั้งนี้มีรถเร่เข้าร่วม จำนวน 15 คัน มีผลไม้ ได้แก่ ทุเรียน ลองกอง เงาะ มังคุด และสับปะรด

“ภาคตะวันออก เป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญของประเทศไทย ในปี 2564 ไม้ผลที่สำคัญ 4 ชนิด คือ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง จาก 3 จังหวัด คือจังหวัดจันทบุรี ตราด และระยอง มีผลผลิตรวมทั้งสิ้น 900,126 ตัน ดังนั้น กลไกหนึ่งในการกระจายออกสู่ตลาดภายในประเทศ คือ รถเร่ผลไม้ ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง” นายปิยะ สมัครพงศ์ กล่าว

ทางด้าน นางสาวปัทมา นามวงษ์ เกษตรจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดจันทบุรีมีผลไม้หลักๆ 4 ชนิดประกอบด้วย ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง โดยทุเรียนมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุดเกือบ 400,000 ตัน มังคุด ประมาณ 70,000 ตัน เงาะประมาณ 90,000 ตัน ลองกอง 15,000 ตัน รวมทั้ง 4 ชนิด ประมาณกว่า 580,000 ตัน ซึ่งต้องบริหารจัดการให้ผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างทันท่วงที

“ในปีนี้ ผลกระทบจากสถานการณ์ covid-19 ทำให้ผู้ซื้อเดินทางมายังแปลงปลูกของเกษตรกรลำบาก เนื่องจากมาตรการป้องกันการระบาดของโรค สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี จึงร่วมกับสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง จัดโครงการรถเร่ผลไม้ไทยน่าช้อปภาคตะวันออก ผลไม้มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัยขึ้น เพื่อกระจายผลไม้จากสวนของชาวสวนจันทบุรี ออกสู่ท้องตลาดซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเป็นอย่างดี” นางสาวปัทมา นามวงษ์ กล่าว

ส่วน นายมนูศักดิ์ จัตุชัย เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ เปิดเผยว่า ดีใจที่มีโครงการนี้ ทำให้นำผลไม้ไปขายได้ ในสวนจะปลูกสับปะรด มังคุด และทุเรียน ที่ผ่านมาจะส่งขายแผงริมถนน แม่ค้าที่ตลาด และผู้ค้าเร่จากจังหวัดนครราชสีมา เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี  สระแก้ว  สุรินทร์ และมุกดาหาร  มาปีนี้ผู้ค้าเร่ไม่สามารถเดินทางมารับผลไม้ได้ เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19

“ที่เข้าร่วมโครงการฯ เห็นว่าดี เป็นการเพิ่มช่องทางตลาด ทำให้ผลไม้ไม่ตกค้างเกิดความเสียหาย” นายมนูศักดิ์ จัตุชัย กล่าว

ด้าน นางวรันธร ศรีทองคำ อีกหนึ่งเกษตรกรจากอำเภอท่าใหม่ เจ้าของสวนศรีทองคำ ที่เข้าร่วมโครงฯ เปิดเผยว่า มีพื้นที่ทำการเกษตร 32 ไร่ ปลูกทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ผลผลิตปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้วเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย แต่เน้นการผลิตผลไม้คุณภาพ ทำให้ผลผลิตออกมาดี ขายได้ราคา แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19

“ที่ผ่านมาพี่ชายจะนำผลไม้ขึ้นรถไปขายที่กรุงเทพฯ ตามลานจอดรถ ซึ่งปีนี้ทางห้างใจดี ให้จอดขายฟรีเพื่อช่วยเกษตรกร และให้ผู้บริโภคได้ซื้อผลไม้ดีมีคุณภาพไปบริโภค โครงการฯ นี้ของภาครัฐก็เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะทำให้สามารถนำผลผลิตที่ส่งออกไม่ได้เนื่องจากติดโควิด-19 มาขายได้ และที่สำคัญในการผลิตเกษตรกรสวนผลไม้จะต้องเอาใจใส่กับการผลิตเพื่อให้ผลผลิตออกมาดีมีคุณภาพ ผู้บริโภคก็จะประทับใจสินค้าของเราก็จะขายได้ดี ทั้งนี้เกษตรกรจะต้องช่วยเหลือตัวเอง และยืนด้วยตัวเองให้ได้ก่อน ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ  เช่นครั้งนี้หากผลผลิตเราดีและภาครัฐมาช่วยเรื่องการตลาดด้วย ผลไม้ก็จะขายได้ดีมากยิ่งขึ้น” นางวรันธร ศรีทองคำ กล่าว

สำหรับโครงการรถเร่ผลไม้ไทยน่าช้อปภาคตะวันออก ผลไม้มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัย นี้จัดขึ้น จำนวน 3 ครั้ง ด้วยกัน โดยครั้งที่ 1 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ณ สหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคเกษตรจังหวัดตราด อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ครั้งที่ 2 วันที่ 15 มิถุนายน 2564 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลตะพง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

และครั้งที่ 3 วันที่ 17 มิถุนายน 2564 ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี  มีรถเร่เข้าร่วมงานฯ ครั้งละ 15 คัน รวม 45 คัน มีผลไม้ที่กระจายในรถเร่ ได้แก่  เงาะ  มังคุด ทุเรียน และลองกอง  ตลาดปลายทาง ได้แก่ ชลบุรี สระแก้ว กรุงเทพมหานคร พิษณุโลก และนครปฐม ซึ่งการจัดกิจกรรมทั้ง 3 ครั้ง สามารถกระจายผลไม้จากแหล่งผลิตภาคตะวันออก ได้ไม่น้อยกว่า 100 ตัน