วว. สร้างโอกาสทางธุรกิจให้ SME ด้านเกษตร/อาหารปลอดภัย วิจัยพัฒนา/ทดสอบ ข้าวที่มีสารสำคัญของถั่งเช่า

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ขับเคลื่อนนโยบาย BCG พัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมและนวัตกรรมอาหารปลอดภัย ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ณ พื้นที่จังหวัดพิษณุโลก บูรณาการวิจัยประสบผลสำเร็จพัฒนาและทดสอบ “ข้าวสมุนไพรที่มีสารสำคัญถั่งเช่า” ที่มีคุณสมบัติเด่นช่วยต้านอนุมูลอิสระ สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย พร้อมต่อยอดแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ สร้างงาน สร้างเงินให้เกษตรกร สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจประเทศ

ข้าวสมุนไพรที่มีสารสำคัญถั่งเช่า

ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. โดย ศูนย์ทดสอบและมาตรวิทยา กลุ่มงานบริการอุตสาหกรรม ภายใต้การดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมและนวัตกรรมอาหารปลอดภัย ได้ลงพื้นที่ ณ จังหวัดพิษณุโลก นำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) มาพัฒนารวมกับเกษตรกร เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ต่อยอดฐานความเข้มแข็งเดิม นั่นก็คือ ผลผลิตทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ด้วยการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีสารสำคัญของถั่งเช่า ซึ่ง วว. ได้ดำเนินการวิเคราะห์ทดสอบปริมาณสารสำคัญถั่งเช่า Cordycepin และ Adenosine ที่เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดและช่วยเรื่องภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ป้องกันภัยคุกคามจากเชื้อโรคในปัจจุบัน โดยการทดสอบสารสำคัญนี้นำไปสู่การพัฒนาเชิงนวัตกรรมในการผลิตข้าวที่มีสารสำคัญของถั่งเช่า รวมถึงการทดสอบปริมาณสารสำคัญอื่นๆ เช่น สารแกมมา โอริซานอล (Gamma Oryzanol) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ช่วยผ่อนคลายความเครียดและหลับสบาย ร่วมถึงช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. สนับสนุนการกล่าวอ้างทางสุขภาพ (Health claim) บนฉลาก เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ เพิ่มช่องทางการขายด้วยการหาเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

ชาจากใบข้าว

โดยขณะนี้ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีสารสำคัญของถั่งเช่า ในรูปผลิตภัณฑ์ “ข้าวสมุนไพรที่มีสารสำคัญถั่งเช่า” ในแปลงนาปลูกข้าวโดยใช้ปุ๋ยที่ผลิตจากเศษเหลือใช้จากการเพาะเห็ดถั่งเช่าของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ คือ นายบัณฑิต ศิริสัมพันธ์ และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ตำบลหนองพระ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นอกจากนั้น ยังส่งเสริมการต่อยอดโดยการแปรรูปการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่าที่สุด ที่สำคัญคือการมุ่งไปที่ ZERO WASTE โดยมีการนำต้นข้าวอ่อนที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวข้าวมาแปรรูปและเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในรูป “ชาใบข้าว” เพื่อสร้างทางเลือกแก่ผู้บริโภค สร้างงาน สร้างเงินให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน

“ข้าวสมุนไพรที่มีสารสำคัญถั่งเช่า ซึ่ง วว. เข้าไปช่วยพัฒนาดังกล่าว ขณะนี้ได้มีการจดอนุสิทธิบัตรในรูปการปลูกข้าวให้มีสารสำคัญของถั่งเช่า และผลิตภัณฑ์ข้าวที่ปลูกได้วางจำหน่ายในท้องตลาดแล้วภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ คอร์ดี้พาวเวอร์ไรซ์ (Cordy Power Rice) เป็นหนึ่งในผลงานพัฒนานวัตกรรมอาหารปลอดภัยที่ วว. ภาคภูมิใจและร่วมขับเคลื่อนนโยบาย BCG สามารถนำองค์ความรู้ที่เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยตอบโจทย์ให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการได้อย่างเป็นรูปธรรม” ผู้ว่าการ วว. กล่าว

ต้นข้าวอ่อน นำไปทำชา

ดร.พัชทรา มณีสินธุ์ รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า วว. พัฒนาข้าวสมุนไพรที่มีสารสำคัญถั่งเช่าร่วมกับเกษตรกรตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกข้าว โดยใช้เศษเหลือจากการเพาะเห็ดถั่งเช่าในรูปปุ๋ยที่มีการควบคุมโดยเกษตรกรและทดสอบปริมาณสารโดย วว. ทำให้ผลผลิตมีปริมาณถั่งเช่าในอัตราที่เหมาะสมและมีประโยชน์ต่อร่างกาย จากการทดสอบปริมาณสารอาหารพบว่า ข้าวสมุนไพรที่มีสารสำคัญถั่งเช่า มีสารแกมมา โอริซานอล (Gamma Oryzanol) ในปริมาณสูง โดยมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีคุณสมบัติเด่น ได้แก่ ช่วยป้องกันการเกิดการเปลี่ยนแปลงแป็นเซลล์ผิดปกติหรือเซลล์มะเร็ง ป้องกันเซลล์ผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด ลดระดับไขมันในเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอุดตัน เพิ่มการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินช่วยผ่อนหลายความเครียดและหลับสบาย กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนสำหรับการเจริญเติบโต ลดการสูญเสียแคลเซียมทำให้ลดอัตราการเกิดโรคกระดูกพรุน และลดอัตราการเกิดภาวะวัยทอง (Menopause) นอกเหนือจากสารสำคัญในถั่งเช่าแล้ว พบว่ามีสารคอร์ไดเซปิน (Cordycepin) ที่มีคุณสมบัติเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด บำรุงและฟื้นฟูระบบการทำงานของไตและปอด ช่วยบรรเทาอาการไตอักเสบและนิ่วในไต นอกจากนั้น ยังมีสารอะดีโนซีน (Adenosine) ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งความผิดปกติของวงจรในหัวใจ ที่เป็นเหตุให้หัวใจเต้นผิดปกติ

สอบถามรายละเอียดและรับบริการจาก วว. ติดต่อได้ที่ โทร. 02-577-9000, 02-323-1672-80 (ศูนย์ทดสอบและมาตรวิทยา) โทรสาร 02-577-9362 อีเมล [email protected]