บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด นครราชสีมา ต้นแบบธุรกิจโรงงานมันสำปะหลังครบวงจร

ธุรกิจโรงงานมันสำปะหลังครบวงจร ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม นำกากที่เหลือมาใช้เป็นพลังงาน ปั่นเป็นกระแสไฟฟ้าใช้ ผลพลอยได้ สุดท้ายกากเป็นปุ๋ยชั้นยอด

บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด จังหวัดนครราชสีมา

ต้องขอย้อนอดีตนานเกือบ 20 ปี ที่เข้าชมกิจการโรงงานมันสำปะหลังของบริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด ได้รับการต้อนรับจากเจ้าของคือ คุณทศพล-คุณวลีพร ตันติวงษ์ ผู้บุกเบิก ผลิตมันอัดเม็ด แป้งมัน ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมือง จังหวัดนครราชสีมา อย่างดียิ่ง

การได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมชมอีกครั้งของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาข้าวโพด มันสำปะหลัง โดยมี คุณอนันต์ ผลอำนวย เป็นผู้นำพาเข้าเยี่ยมชมโรงงานในฐานะเจ้าของบ้าน

ผลิตภัณฑ์ที่โชว์ในตู้ บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด ทำจากมันสำปะหลัง

เรื่องที่น่าแปลกของโรงงานแห่งนี้ ได้ขยายกิจการเจริญก้าวหน้าของการผลิตแป้งมันและมันอัดเม็ดส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งเอเชียและยุโรป ทำให้เกษตรกรตื่นตัวปลูกมันสำปะหลังกันเกือบทั้งจังหวัด

ไม่เพียงแต่ผลิตผลทางด้านการผลิตแป้งมันแล้ว กากมันที่เหลือเคยนำไปใช้อย่างอื่นเป็นอาหารสัตว์ แต่วันนี้โรงงานสงวนวงษ์ นำกากแป้งมันมาใช้ต่อเพื่อนำไปใช้ประโยชน์เอากากไปบ่มเป็นไบโอแก๊ส จนเกิดเป็นแก๊สมีเทนขึ้นมา

หลังจากนั้นก็นำแก๊สดังกล่าวไปใช้เป็นพลังงานปั่นเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อนำไปจ่ายเป็นไฟฟ้าใช้กันในโรงงาน

คุณธิดารัตน์ รอดอนันต์ กล่าวต้อนรับคณะอนุกรรมาธิการที่เข้าฟังบรรยายสรุปสถานการณ์มันสำปะหลังไทย

แล้วกากที่เหลือสุดท้ายก็กลายเป็นปุ๋ย เอ็น พี เค (N P K) มีเนื้อปุ๋ยที่ได้มาอย่างพิเศษมาใช้เป็นปุ๋ย มันสำปะหลังหรือต้นไม้ได้ทุกชนิด เพราะมันสำปะหลังใช้ได้ทุกส่วนของต้นเลยทีเดียว

ใครจะคิดว่าอดีตกว่ากึ่งศตวรรษ มันสำปะหลังเป็นพืชขี้เหร่นำมาจากแอฟริกา ทนฝน ทนแล้ง ต้านทานโรค และราคาถูกสุด

เปรียบเทียบต้นมันสำปะหลังในอดีตเสมือนเจ้าเงาะรูปชั่วตัวดำ บัดนี้มันถอดรูปมาเป็นทองคำ เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไปแล้ว และมีเกษตรกรปลูกกันทั้งประเทศ รวมแล้ว 51 จังหวัด ได้ผลผลิตประมาณปีละ 30-32 ล้านตันต่อปี ประโยชน์ส่วนใบมันสำปะหลังใช้เป็นอาหารสัตว์ ได้ประโยชน์หลายอย่าง เลี้ยงวัวด้วยใบสดๆ ก็มีประโยชน์ คงไม่มีใครกล้าดูถูกอีกต่อไปแล้ว

ประธานอนันต์ ผลอำนวย โชว์ภาพถ่ายสมัย 20 ปี ที่เป็นวุฒิสภา เคยมาเยี่ยมโรงงานนี้ มีคุณทศพร ตันติวงษ์ เจ้าของ ต้อนรับมาก่อน

กลับมายังบริษัท สงวนวงษ์ เป็นธรรมเนียมที่มีอาคันตุกะมาเยือนถึงถิ่น เจ้าภาพให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม สมกับเป็นบริษัทชั้นนำของเมืองย่าโม

ได้เวลาเจ้าภาพก็จัดให้ลูกสาวคนเก่ง คุณธิดารัตน์ รอดอนันต์ เชิญเข้าห้องประชุม เพื่อขอเวลาเล็กน้อย ในการเข้าไปบรรยายสรุปของสถานการณ์มันสำปะหลัง ในอดีตถึงปัจจุบัน มิใช่นำเอากิจการของตนเองมาเล่าสู่กันฟัง

เป็นเรื่องน่ายินดีครับ เพราะลูกสาวเจ้าภาพเป็นอดีตนักเรียนร่ำเรียนวิชาระดับสูงมาแล้ว การนำเสนอเรื่องมันสำปะหลังมาเล่าให้พวกเราส่วนใหญ่เป็นคนนอกวงการ ยกเว้น ส.ส. เจ้าบ้าน เท่านั้นที่ประกอบอาชีพทำไร่มันสำปะหลัง ซึ่งไม่แปลกที่อยากทราบถึงปัญหาและแนวทางแก้ไขเรื่องมันสำปะหลัง

คุณธิดารัตน์ รอดอนันต์ บรรยายสรุปสถานการณ์มันสำปะหลัง

เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ของอาชีพมันสำปะหลังกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต่างประสบปัญหาเรื่องเดียวกันทุกแห่งก็คือโรคไวรัสใบด่างของมันสำปะหลังกับโรคระบาดข้าวโพด หนอนกระทู้ลายจุดที่ทางราชการเร่งปราบกำจัดอยู่

แต่คุณธิดารัตน์ได้นำเสนอคือสถานการณ์มันสำปะหลัง ในหัวข้อ “การบริหารจัดการธุรกิจโรงแป้งมัน”

ไม่มีตัวเลขมากมายให้อ่านกัน เพียงแต่มีประเด็นนี้น่าสนใจหลายข้อด้วยกันที่ภาครัฐไม่ควรมองข้ามไป หรือนักวิชาการก็ต้องหันมาสนใจด้วย เพื่อไม่ให้ปัญหานี้เป็นภาระให้กับผู้ทำธุรกิจหรือรวมทั้งเกษตรกรที่มีปัญหาด้วย

ถ่ายภาพระลึกร่วมกัน

ก่อนเข้าห้องประชุม คุณธิดารัตน์อธิบายถึงเรื่องคุณสมบัติของมันสำปะหลังที่แปรรูปได้หลายอย่าง และผลิตภัณฑ์ที่โชว์อยู่ในบริษัทชั้นล่าง ล้วนทำมาจากมันสำปะหลังทั้งนั้น ไม่ว่าเป็นกาวหรือภาษาลาตินเรียกว่า กลูเตน (glutan) ลักษณะเหนียว ยืดหยุ่นและไม่ละลายน้ำ และการนำไปใช้กับส่วนผสมเครื่องสำอาง การทำอุปกรณ์การศึกษา อาหารสำเร็จรูป ล้วนมาจากมันสำปะหลัง ได้รับความสนใจจากผู้มาเยือนไถ่ถามกันอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำอธิบายของเธอ

การนำเสนอของมันสำปะหลังที่ผู้เขียนบันทึกไว้พอสังเขป ว่าผลิตภัณฑ์การผลิตมันสำปะหลังของไทย แป้งมัน 3.9 ตัน มันเส้น 3.9 ตัน กากมัน 0.310 ตันต่อวัน

ประธานกล่าวขอบคุณหลังบรรยายสรุป

แต่ปัจจัยที่มีผลต่อการค้าผลิตภัณฑ์ มีสถานการณ์มาจากฝนตก ฝนแล้ง ทำให้เชื้อแป้งลดลง มีการลักลอบนำเข้ามาจากเพื่อนบ้าน ทำให้การค้าไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่นำเข้ามา ของใช้ วัตถุดิบต้องสม่ำเสมอ ราคาใช้ได้

และเวียดนามขายมันเส้น แป้งมัน ทำให้เป็นเหตุ เราต้องขายราคาถูกลง และข้าวโพด ข้าวสาลี ก็ใช้แทนน้ำตาลที่บ้านก็ได้ ไม่ใช้แป้งมัน เอาน้ำตาลมาแทนมันเช่นกัน

ข้าวสาลีใช้โปรตีนจากแป้งมัน ในยุโรป อเมริกา ปลูกข้าวสาลีกันมาก กระทบกับแป้งมันไทย

ค่าเงินบาทแข็งหรือสูงขึ้น ซื้อมันสำปะหลังได้ถูกลง ซื้อหัวมันได้ถูกลง ราคาถูกๆ ตกลงราคาระหว่างไทย เพื่อให้เงินบาทถูกลงจะขายแป้งมันสำปะหลังได้มากขึ้น เป็นผลดีกับไทย

กองหัวมันสำปะหลังที่ใช้ปริมาณวันละ 4,000-5,000 ตันต่อวัน

มันอัดเม็ดไทยไปญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ไทเป ในขณะที่ไทยมีผลิตผลมันสำปะหลัง 30 ล้านตันต่อปี เวียดนาม 9.7 ล้านตันต่อปี กัมพูชา 7.6 ล้านตันต่อปี และลาว 1.06 ล้านตันต่อปี

ตลาดส่งออกแป้งมันไทย โต 9 เปอร์เซ็นต์ เวียดนาม 3 เปอร์เซ็นต์ จีนซื้อจากไทยมากสุดกว่าเวียดนาม

ตลาดมันเส้น ไทยลดลง 62 เปอร์เซ็นต์ เวียดนาม 32 เปอร์เซ็นต์ ส่งไปจีน แต่เวียดนามส่งออกไป เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) 0 เปอร์เซ็นต์ ส่วนไทยส่งออกไปจีนที่เดียวกัน เสียค่า vat 13 เปอร์เซ็นต์

ลำเลียงหัวมันดิบของมันสำปะหลัง ทำแป้งมัน

การขนส่งทางเรือไทยแพงกว่าเวียดนามไปจีน เพราะที่เวียดนามอยู่ใกล้จีนมากกว่าไทย จีนเคยซื้อมันเส้นจากไทย 7 ล้านตัน ปี 2563 เหลือ 2 ล้านตัน

ปัญหาเงินบาทไทยแข็ง 1 ใน 3 ของโลก ทำให้ได้เงินน้อยเวลาส่งออก จึงขอให้ทางรัฐบาลหรือแบงก์ชาติดูแลค่าเงินบาทด้วย

ฉะนั้น ถ้าขายในค่าเงินบาทอ่อนลงจะขายของได้มากขึ้น เป็นผลดีต่อเกษตรกรไทยด้วย

การส่งออกของไทย 2 แสนตันของแป้งมันไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าเกินกว่านี้ต้องเสียภาษีให้รัฐบาล

และยังกล่าวถึงสถานการณ์โรคระบาดไวรัสใบด่างของไทยในมันสำปะหลังที่จังหวัดนครราชสีมา มีปัญหา

เศษดินที่ติดจากหัวมันที่ขุดมาจากไร่ สามารถนำไปเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้

ที่โคราชได้รับงบช่วยเหลือ 5 หมื่นไร่ ขณะที่พื้นที่กว้างมาก โรคใบด่างระบาดมา 9 จังหวัดแล้ว ระบาดตัวแมลงหวี่ขาวกับท่อนมัน ทุกหน่วยงานร่วมกันทั้งจังหวัดมาบูรณาการร่วมกัน ทั้งเอกชนและรัฐมาช่วยกันถอนทำลาย จัดหาเทคโนโลยี ใช้ดาวเทียมมาสำรวจพื้นที่ไร่

ทำให้ขาดงบสำรอง ไม่มีน้ำยากำจัด ทดสอบไร่มันที่เป็นโรค ทางโรงงานสนับสนุนค่าเบี้ยเลี้ยงเพื่อช่วยกันประหยัด

แนะนำเกษตรกรใช้พันธุ์ดี ต้านทานโรค เช่น พันธุ์มันสำปะหลัง เคยู 50 ระยอง 13, 72 แช่ท่อนพันธุ์ก่อนปลูก ปลูกต้นเทนนิล แมลงหวี่ขาวไม่ชอบ ชอบใบเหลือง

กองกากมันที่เหลือจากทำแป้งแล้ว เพื่อผลิตเป็นไบโอแก๊ส

บริษัท สงวนวงษ์ พยายามดึงแป้งในหัวมันให้มากสุด จนถึงกากออกให้มาก เพื่อสร้างความยั่งยืนในธุรกิจมันสำปะหลัง โดยเน้นไปถึง “ต้นน้ำ” จากชาวไร่ ได้ราคาดี หัวเชื้อแป้งสูง มีเครื่องจักรทันสมัย ใช้สารชีวภัณฑ์ ใช้โดรนบินสำรวจ ปราบศัตรูพืช

“กลางน้ำ” มีโรงงานประสิทธิภาพในการผลิตและความสามารถ ได้คุณภาพของสินค้ามันสำปะหลัง

“ปลายน้ำ” คือรัฐบาล ควรสร้างระบบนิเวศ แข่งขันสร้างอุตสาหกรรมที่เป็นธรรม สร้างระบบน้ำชลประทานเข้าสู่พื้นที่ไปที่ไร่ “เกษตรกร” การจะเพิ่มขึ้นจากแหล่งน้ำได้อย่างไร ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ มีรายได้มั่นคง ความเสี่ยงน้อย เข้าหาแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ของปัจจัยการผลิต จัดหาแหล่งน้ำ

โรงหมักไบโอแก๊สจากกากมันสำปะหลัง

ข้อปลีกย่อย คุณธิดารัตน์ได้กล่าวถึงมันสำปะหลังที่เป็นพันธุ์ดาวรุ่นสำหรับนำมาประกอบเป็นขนม คือสายพันธุ์ใหม่ ชื่อ “แวกซี่” ที่กำลังได้รับความนิยมสูง ส่งออกต่างประเทศ เป็นอาหารสำเร็จรูป แต่มีปัญหาอ่อนแอต่อโรคใบด่าง ผลิตผลเคยทำได้ 3-5 ตันต่อไร่ เชื้อแป้งสูง แต่ปลูกยาก พื้นที่ปลูกน้อย แข่งขันกันสูงของพ่อค้า ต้องมีตัวกลางดูแล

สิ้นสุดการบรรยายสรุป บริษัทจัดรถเข้าชม เพื่อไปเห็นด้วยตาตัวเองว่า เขาทำอย่างไรกับธุรกิจมันสำปะหลังครบวงจร

กระบวนการได้เริ่มจากโรงงานเก่าที่ผลิตมันอัดเม็ดและแป้งมัน ซึ่งโรงงานนี้มีพนักงานราว 800 คน ปริมาณรับหัวมันสดที่รับเข้ามาวันละเฉลี่ย 4,000-5,000 ตัน เพื่อผลิตแป้งมันและมันอัดเม็ดของธุรกิจที่ทำอยู่แล้ว เมื่อผลิตแล้วกากมันนำมาใช้ประโยชน์

โรงไฟฟ้าที่สร้างมาจากกระแสไฟ แก๊สมีเทน ประหยัดค่าใช้จ่ายจากกากมันสำปะหลัง

จากนั้นกากมันสำปะหลังจะถูกถ่ายเทไปที่โรงบ่มแก๊ส ซึ่งลำเลียงลงไปที่บ่อหมัก เป็นการใช้กากมันเหลือมาเข้าบ่อบ่มไบโอแก๊สจนเป็นแก๊สบีเทน เพื่อไปสร้างเป็นพลังงาน กลายเป็นกระแสไฟฟ้า เพื่อส่งไปที่โรงไฟฟ้าที่เตรียมไว้แล้ว เป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมมันสำปะหลังและที่พัก เป็นไฮเทค ผลผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า

ส่วนกากสุดท้ายที่เหลือนั้น พนักงานเล่าว่า เป็นการนำไปใช้เป็นปุ๋ย N P K มากที่สุด เป็นประโยชน์กับต้นไม้ทุกชนิด เนื้อปุ๋ยของเอ็น พี เค

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่หน้าโรงไฟฟ้าของคณะอนุกรรมาธิการ

การเข้ามาเยือนโรงงานแห่งนี้ เป็นการให้ความร่วมมือทั้งทางโรงงานและสมาชิกสภาผู้แทนที่มีอนุกรรมาธิการเกี่ยวข้องโดยตรง ที่สามารถมานำชมสิ่งมหัศจรรย์ของมันสำปะหลังในครั้งนี้ การผ่านเข้าชมแต่ละตอน ด่านแต่ละด่าน จะมีพนักงานให้ไฟเขียว ผ่านด่านได้ก่อน รถจะนำเข้าไปได้ เพื่อป้องกันความปลอดภัยและรถยนต์ใหม่ป้ายแดงของบริษัท นำพาชมถึง 3 คน รถตู้

ต้องขอกราบขอบพระคุณ ผู้บริหารของบริษัท สงวนวงษ์ ที่อนุญาตให้เข้าชม สวัสดี