ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
---|---|
เผยแพร่ |
ช่วงหน้าร้อนแสงอาทิตย์ในยามนี้ไม้ดอกไม้ประดับที่ทำให้ชวนมองผ่านทางอ่างน้ำอย่างดอกบัว ช่วยทำให้จิตใจเย็นลงได้ไม่น้อยทีเดียว เพราะความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์และสีสันสะดุดตา พรั่งพร้อมไปด้วยเหล่าแมลงที่มาดอมดมเกสร จึงทำให้มีความหลงใหลชวนมองไม่รู้เบื่อทีเดียว จนบางครั้งอาจต้องหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพเก็บความงามบันทึกไว้หรือจะโพสต์อวดเพื่อนๆ ตามสื่อโซเชียลมีเดีย จึงทำให้บัวเป็นอีกหนึ่งไม้น้ำที่ปัจจุบันในเรื่องของการทำตลาดก็สามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีนักพัฒนาสายพันธุ์อยู่เสมอๆ ทำให้เป็นอีกหนึ่งไม้น้ำที่เรียกได้ว่ามีลูกเล่นใหม่ๆ ให้กับผู้เล่นรายเก่าและรายใหม่ที่ชื่นชอบบัวอยู่เสมอ
โดยบัวที่เน้นมาเพื่อเป็นบัวประดับ จะอยู่สกุล Nymphaea ซึ่งในสกุลนี้ยังแบ่งเป็นอีก 6 สกุลย่อย โดยทั้ง 6 สกุลย่อย จะแบ่งตามขอบเขตของต้นกำเนิด ขอบเขตของลักษณะประจำพันธุ์ที่มีแตกต่างกัน อาทิ เวลาของการบานของดอก รูปทรงดอก ลักษณะของใบ ซึ่งใน 6 สกุลย่อยนี้ ที่คนไทยรู้จักดีก็คือ สกุลย่อยพวกบัวผัน บัวเผื่อน ดอกบานเวลากลางวัน สกุลย่อยพวกบัวกินสายที่ดอกจะบานตอนกลางคืน และส่วนอีกสกุลย่อยที่คนไทยรู้จักดีคือ บัวฝรั่ง ดอกสวยแปลกตา ด้วยความที่บัวแต่ละสายพันธุ์มีขนาดและสีสันของดอกเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน จึงได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งไม้น้ำ”
คุณธนธรณ์ ศรีปรางค์ เจ้าของสวนบัวสุรารินทร์ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับสวนเขาดินเฉลิมพระเกียรติ บ้านหนองรังกา ตำบลโคกกรวด อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรตัวยงที่ได้เริ่มปลูกบัวฝรั่งจากความรักความชอบ ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้มีองค์ความรู้ในเรื่องของการทำเกษตรเลย แต่ด้วยโอกาสและการเรียนรู้อยู่เสมอ จึงทำให้เขามีความชำนาญและหมั่นพัฒนาสายพันธุ์อยู่เรื่อยๆ เขาได้ประสบผลสำเร็จสร้างเป็นอาชีพมาจนถึงปัจจุบัน
จากหนุ่มออฟฟิศ
สู่ชีวิตเกษตรกร
คุณธนธรณ์ เล่าให้ฟังว่า ประมาณปี พ.ศ. 2544 มีโอกาสได้ย้ายสาขาของที่ทำงานจากกรุงเทพมหานครมาอยู่ยังจังหวัดนครราชสีมา เมื่อเห็นบริเวณบ้านมีพื้นที่เหลืออยู่จึงได้หาซื้อไม้ประดับเข้ามาปลูก จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้มาเริ่มปลูกบัวฝรั่งในช่วงเวลานั้น โดยในช่วงที่เริ่มต้นปลูกบัวมีเพียง 4 สีเท่านั้น เมื่อปลูกแล้วเห็นว่าประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จึงได้ซื้อสายพันธุ์อื่นๆ เข้ามาอยู่เรื่อยๆ จนเวลาต่อมาประสบผลสำเร็จและสามารถทำการตลาดได้ ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นให้ได้เป็นอาชีพสร้างรายได้ก่อนเกษียณออกจากงานประจำ
“พอผมปลูกจนประสบผลสำเร็จ บัวมีมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถจำหน่ายหน่อพันธุ์ได้ ทีนี้เจ้าของสวนที่เขาเปิดร้านมาก่อน เขาเห็นว่าเราน่าจะเปิดร้านแบบเต็มรูปแบบได้ เขาก็เลยให้เราเซ้งร้านต่อ ทีนี้ก็เลยได้ทำสวนบัวจำหน่ายอย่างเต็มตัว เลยทำเพื่อรองรับการเกษียณจากงานประจำ จึงได้เรียนรู้และฝึกการผสมพันธุ์ให้ได้สายพันธุ์ใหม่ๆ ดอกสวยๆ โดยส่วนใหญ่แล้วที่สวนของผมจะเน้นเป็นบัวฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ มีทั้งผลิตขึ้นมาเพื่อจำหน่ายให้กับคนอื่นๆ สำหรับไปขยายพันธุ์จำหน่ายต่อ และคนที่เป็นลูกค้าทั่วไป” คุณธนธรณ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในการปลูกบัวฝรั่ง
บัวฝรั่ง ขยายพันธุ์ง่าย
ดูแลไม่ยาก ดอกสวยตลอดปี
ในขั้นตอนของการผสมพันธุ์บัวฝรั่งให้ได้พันธุ์ที่ดีและต้นที่สมบูรณ์พร้อมที่จะจำหน่ายได้นั้น คุณธนธรณ์ บอกว่า จะเลือกต้นพ่อแม่พันธุ์ที่มีคุณสมบัติเด่นๆ มาจับคู่ผสมกัน มีตั้งแต่บัวฝรั่งสายพันธุ์ในประเทศไทยและสายพันธุ์ต่างประเทศ นำมาผสมและดูแลจนสมบูรณ์จนเกิดเป็นเมล็ด
จากนั้นนำเมล็ดที่ได้แช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ 2 เดือน เมื่อครบกำหนดแล้วจึงนำเมล็ดมาเพาะลงในดินสำหรับปลูกไม้น้ำ ประมาณ 10 วัน เมล็ดก็จะงอกออกมาเป็นต้นกล้าให้เห็น ดูแลต่อไปเรื่อยๆ จนต้นสมบูรณ์มีดอกออกมาให้เห็น และดอกมีลักษณะเด่นและมีความแตกต่างจากสายพันธุ์ทั่วไปที่มี จะนำมาผลิตให้ได้จำนวนด้วยการแยกหน่อให้มีจำนวนมากๆ โดยขั้นต่ำของการผลิตจนได้จำนวนที่พร้อมจำหน่ายจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีเป็นอย่างต่ำ
สำหรับวัสดุปลูกบัวฝรั่งภายในสวนจะเป็นดินเหนียวเป็นหลัก นำมาปลูกในบ่อซีเมนต์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 80 เซนติเมตร สูง 40 เซนติเมตร พร้อมทั้งใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะเพื่อบำรุงต้น โดยห่อด้วยกระดาษยัดลงไปที่กระถางปลูกให้ห่างจากรากพอประมาณ ก็จะช่วยให้บัวฝรั่งมีอาหารกินอยู่ภายในภาชนะที่ปลูก นอกจากนี้ ยังต้องป้องกันแมลงศัตรูพืชให้กับบัว ส่วนใหญ่จะเป็นเพลี้ยไฟไรแดงและหนอนกินใบชนิดต่างๆ ที่เข้ามาทำลาย สามารถป้องกันด้วยเคมีภัณฑ์ที่หาซื้อได้จากร้านทั่วไป มาทำการฉีดพ่นตามอาการที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงฤดูกาล
“สำหรับคนที่ปลูกบัวไม่มาก การดูแลด้วยการเด็ดใบหรือดอกทิ้งไปเลย เป็นการทำลายที่ง่าย แต่ถ้าคนที่ปลูกในจำนวนมากๆ สามารถกำจัดได้ด้วยการใช้สารเคมี ก็จะช่วยให้ง่ายต่อการจัดการ เพราะฉะนั้นแต่ละรอบที่เราผลิตบัวฝรั่งให้ได้สายพันธุ์บัวพันธุ์ใหม่ๆ ดอกสวยๆ และแตกต่างไปจากที่มี จำนวนนี่ถือว่าสำคัญมาก เราต้องทำให้ได้อย่างต่ำ 50 หน่อขึ้นไป จากนั้นก็ทำการออกจำหน่ายได้ทันที ทำแบบนี้เวียนไปทุกๆ ปี ก็จะช่วยให้บัวในสวนมีลูกเล่นใหม่ๆ ให้กับลูกค้าอยู่ตลอด” คุณธนธรณ์ บอก
ทำตลาดออนไลน์
ช่วยให้จำหน่ายได้ง่าย
ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายบัวฝรั่งนั้น คุณธนธรณ์ เล่าว่า ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของการค้าขาย การทำตลาดเพื่อจำหน่ายก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน โดยจะเน้นให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อภายในสวนอย่างเดียวเหมือนสมัยก่อนไม่ได้ จึงได้มีการลงรูปสายพันธุ์บัวที่มีทั้งหมดภายในฟาร์ม โพสต์จำหน่ายตามสื่อโซเชียลมีเดียในช่องทางต่างๆ จึงทำให้จากที่เคยขายหน้าร้านเพียงอย่างเดียวต้องเปลี่ยนแปลง และมาเน้นจำหน่ายช่องทางออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ มีทั้งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
โดยบัวฝรั่งที่ลูกค้าชื่นชอบและยังเป็นที่ต้องการของตลาด บัวจะต้องมีสีที่เข้มๆ และจำนวนการซ้อนของกลีบดอกจะมีหลายชั้น พร้อมทั้งดอกมีสีสด ซึ่งสีที่นิยมจะเป็นสีชมพู สีแดง ยิ่งปัจจุบันมีการพัฒนาพันธุ์บัวฝรั่งอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บัวฝรั่งไม่ได้หยุดพัฒนา จึงค่อนข้างมีกลุ่มลูกค้าเหนียวแน่นและมีกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ เข้ามาหาซื้ออยู่เป็นประจำด้วยเช่นกัน ซึ่งราคาจำหน่ายบัวฝรั่งที่เป็นสายพันธุ์ที่มีอยู่ในท้องตลาดทั่วไป ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หน่อละ 100 บาท ส่วนบัวฝรั่งสายพันธุ์ใหม่ที่ผ่านการพัฒนาพันธุ์และยังไม่มีในท้องตลาด ราคาจะอยู่ที่หน่อละ 1,500-3,000 บาท โดยลูกค้าที่ซื้อในราคานี้จะนำไปขยายพันธุ์ให้มีจำนวนมากๆ เพื่อจำหน่ายต่อไป
“ช่วงนี้ตลาดบัวก็ถือว่ายังไปได้เรื่อยๆ อย่างช่วงที่โควิดระบาดช่วงแรกๆ ถือว่าลูกค้าสนใจเยอะมาก เพราะช่วงนั้นคนอาจจะอยู่บ้านกัน จึงทำให้มีเวลาหาซื้อบัวมาตกแต่งบ้านเรือน ก็เลยจะฝากถึงคนที่สนใจอยากจะปลูกบัวฝรั่งว่า เมื่อซื้อไปแล้วต้องดูแลให้ดี พร้อมทั้งมีใจรัก ดูแลศึกษาจนเกิดความชำนาญ จากนั้นการเรียนรู้ในเรื่องของการผสมพันธุ์ การขยายพันธุ์ต่างๆ ก็จะไม่ยาก เมื่อบัวภายในบ้านมีจำนวนมากๆ วันหนึ่งก็จะสามารถจำหน่าย เกิดเป็นรายได้เลี้ยงตัวเองได้อย่างแน่นอน” คุณธนธรณ์ บอก
สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการปลูกบัว หรือต้องการพันธุ์บัวสวยๆ เพื่อนำมาปลูกประดับบ้านเรือน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณธนธรณ์ ศรีปรางค์ หมายเลขโทรศัพท์ 096-394-2654