ที่มา | เทคโนฯ เกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | ณัชชา เต็นภูษา |
เผยแพร่ |
เข้าสู่ช่วงกลางถึงปลายปี ผลไม้จากหลากหลายสวนเริ่มออกดอกออกผลกันอย่างมากมาย รวมทั้งกระท้อนปุยฝ้าย และกระท้อนอีล่า หอม หวาน ชื่นใจของ “สวนคุณแป้ว” ที่ตำบลตะลุง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสได้พูดคุยกับทายาทเจ้าของสวน คุณภัทร หรือ นางสาวธัญญชล เหมอินทร์ อายุ 26 ปี ที่ครอบครองปริญญาจากมหาวิทยาลัยมหิดล

โดย คุณภัทร กล่าวว่า ย้อนไปประมาณ 8 ปีก่อน คุณพ่อและคุณป้าที่เป็นชาวสวนแต่ดั้งเดิมมีความสนใจอยากจะปลูกกระท้อน และเล็งเห็นว่าที่อยู่อาศัยติดริมแม่น้ำทำให้มีแหล่งน้ำใช้อย่างเพียงพอ ซึ่งเหมาะแก่การปลูกกระท้อน ที่เป็นพืชที่ชอบความอุดมสมบูรณ์ จึงริเริ่มลงมือปลูกกระท้อน โดยทำเป็นงานอดิเรก จำนวน 20 ต้น ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ เป็นกระท้อนพันธ์ปุยฝ้าย (พื้นเมือง) สายพันธุ์เดิมมาจากจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นกระท้อนที่มีรสชาติหวาน หอม เนื้อสัมผัสเป็นปุยนุ่มเหมือนฝ้าย และกระท้อนพันธุ์คานหาม (อีล่า) สายพันธุ์เดิมมาจากจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นกระท้อนที่มีรสชาติหวาน เนื้อเยอะ หลังจากปลูกและดูแลอย่างดีโดยปราศจากสารเคมี ผลผลิตก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความท้าทายที่จะจำหน่ายผลผลิตอย่างไรให้คุ้มค่าและสนุกไปพร้อมๆ กัน

กระท้อน ปลูกไม่ยาก
คุณภัทร ให้ข้อมูลสำหรับผู้ที่อยากปลูกกระท้อน ว่า เริ่มแรกให้ไถพรวนปรับหน้าดินแล้วคลุกด้วยปุ๋ยคอก มูลแพะ มูลวัว จากนั้นทิ้งไว้ 10 วัน แล้วไถพรวนอีกครั้งให้ดินละเอียดร่วนซุย เพื่อที่ดินจะได้โปร่ง โดยจะส่งผลให้น้ำและอากาศผ่านได้ดีและรากจะไม่เน่า ขั้นตอนต่อมาให้ขุดหลุมให้มีขนาด 0.5×0.5×0.5 เมตร (กว้าง ยาว ลึก) รองก้นหลุมด้วยดินที่ขุดขึ้นมาผสมกับปุ๋ยคอก และวางกิ่งพันธุ์ลงไป จากนั้นก็ดูแลให้น้ำและกำจัดวัชพืชตามปกติ ไม่เกิน 3 ปี กระท้อนจะเริ่มออกดอกออกผล ช่วงก่อนเก็บผลผลิตจะให้น้ำ โดยต้องระวังไม่ให้มากจนแฉะ เพราะกระท้อนไม่ชอบน้ำเยอะจนเกินไป อาจให้วันเว้นวัน กระท้อนจะเริ่มออกดอกช่วงหน้าหนาว พอลมหนาวมาต้นจะเริ่มติดดอก ถ้ามีฝนหรือลมกรรโชกแรงจะทำให้ดอกร่วง โดยคุณภัทรและครอบครัวมีข้อสังเกตว่า หากกระท้อนในช่วงติดดอกเกิดมีการแตกยอดอ่อนจะทำให้ปีนั้นได้ผลผลิตน้อย เป็นการคาดคะเนผลผลิตของปีนั้นๆ เมื่อออกผลแล้วจึงเลือกห่อผลที่สมบูรณ์
ในช่วงหลังจากเก็บผลแล้วจะทำการตัดแต่งกิ่งที่ยื่นออกมา เพื่อช่วยให้ปีต่อไปต้นมีลักษณะเป็นพุ่ม พร้อมทั้งพรวนดินบริเวณโดยรอบแล้วใส่ปุ๋ยคอกบำรุงต้น โดยจะใส่แค่ปีละ 1 ครั้ง

เทคนิคปลูกพืชผสมผสาน
ลดแรงคน ให้พืชดูแลกันเอง
คุณภัทร มีความรู้เรื่องการปลูกพืชผสมผสาน โดยจะปลูกพืชที่มีความเกื้อกูลกันไว้ในสวนด้วย เช่น มะนาว ตะไคร้ กล้วย เพื่อเป็นการจำลองสภาพแวดล้อมให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด โดยการใช้ทรัพยากรในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พืชจะเกื้อกูลกัน โดยรากพืชแต่ละชนิดจะช่วยค้ำกัน นอกจากนี้ ยังมีธาตุอาหารหมุนเวียนตามธรรมชาติ และดินไม่เสียจากการใช้สารเคมี ก่อให้เกิดความสมดุลของสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ปลอดสารเป็นสิ่งสำคัญ
เริ่มแรก ปลูกเองกินเอง
โดยส่วนใหญ่สวนกระท้อนที่ทำเพื่อการค้าจะมีการใส่ฮอร์โมนเร่งดอก และใส่ปุ๋ยเพื่อให้กระท้อนมีรสชาติหวาน แต่ด้วยการดูแลตามข้างต้น จึงทำให้สวนคุณแป้วเป็นสวนปลอดสารโดยแท้จริง เพราะใช้เทคนิกการปลูกพืชผสมผสานและการดูแลตามธรรมชาติ ในด้านของศัตรูพืช เพลี้ยและวัชพืชนับเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเสียหายต่อต้นกระท้อนเป็นอย่างมาก ต้องคอยดูแลและกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ และกำจัดเพลี้ยเมื่อเกิดขึ้น แต่โดยส่วนมากทางสวนคุณแป้วจะประสบปัญหาอยู่เพียงช่วงหนึ่ง เมื่อถึงฤดูฝนปัญหานี้ก็หมดไป นอกจากนี้ สภาพอากาศก็มีผลต่อผลผลิตของกระท้อนเป็นอย่างมาก
“มาเปิดสวนแบบบุฟเฟ่ต์กันดีกว่า อยากให้คนได้ชิมกระท้อนตะลุงของแท้”

เริ่มจากการปลูกกระท้อนเป็นงานอดิเรกไว้ทานและแจกจ่ายกันในหมู่ญาติพี่น้อง เมื่อดูแลได้ถูกวิธีจึงได้เริ่มขายผ่านพ่อค้าคนกลางแต่รายได้ก็ไม่แน่นอน เพราะแล้วแต่จะถูกตีราคาตามสภาพเศรษฐกิจ ยิ่งช่วงโรคระบาด 1-2 ปีให้หลังมานี้ก็ส่งผลต่อราคาที่อาจจะได้น้อยลง ไม่สม่ำเสมอ แต่ในทางผลผลิตกลับสวนทาง เพราะ 1-2 ปีนี้ผลผลิตของสวนคุณแป้วเยอะกว่าที่คาดไว้ จึงทำให้ทางครอบครัวต้องจับเข่าคุยกัน จนได้ข้อสรุปว่า หากจะเก็บผลจากต้นมาขายเองก็กลัวจะขายไม่ทัน และหากจะขายผ่านคนกลางก็อาจจะไม่ได้ราคาที่น่าพอใจ

คุณภัทรและครอบครัวจึงผุดไอเดีย ในเมื่อกระแสบุฟเฟ่ต์มาแรง และกอปรกับที่บ้านมีบรรยากาศที่ดีเหมาะแก่การเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเชิงธรรมชาติ จึงอยากริเริ่มเปิดสวนให้ลูกค้าเข้ามาทานแบบบุฟเฟ่ต์เป็นปีแรก นับเป็นการบูรณาการทางการขายได้ทันยุคสมัย
“มีโซเชียลอยู่ในมือ เริ่มจากโพสต์สนุกๆ จนตกใจไม่คิดว่าจะมีคนสนใจมากมายขนาดนี้”
กระแสตอบรับจากการที่จะเปิดสวนแบบบุฟเฟ่ต์ถือว่าดีเกินคาด เดิมทีคุณภัทรใช้สื่อโซเชียลโพสต์ไปสนุกๆ เป็นธุรกิจเล็กๆ แต่กระแสคนที่ติดต่อเข้ามามีเยอะจนน่าตกใจ ด้วยไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจขนาดนี้ จึงอยากลงมือทำให้เป็นกิจลักษณะ โดยค่าเข้าชมสวนและทานกระท้อนได้ไม่อั้น อยู่ที่ท่านละ 119 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่มีค่าใช้จ่าย

หากใครสนใจ ติดต่อโทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 084-163-2964 (คุณภัทร) Facebook : pas napas สามารถโทร.มาแจ้งก่อนเข้ามาชมได้ ทางสวนมีกระท้อนแปรรูป (ลอยแก้ว) ขึ้นชื่อ ที่ทำวันต่อวันให้ได้อุดหนุนอีกด้วย
สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354