สาวเมืองน่าน เลี้ยงโคลูกผสมชาร์โรเล่ส์ แบ่งพื้นที่ปลูกหญ้า สร้างรายได้หลักแสนต่อปี

โคเนื้อ เป็นอีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงที่นอกจากเลี้ยงเป็นอาชีพหลักได้แล้ว บางท่านยังเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมสำหรับสร้างเป็นเงินเก็บรายปี และไม่เกิดความยุ่งยากที่จะทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำ ซึ่งโคเนื้อหากเลี้ยงแบบมีการจัดการที่ดีแบ่งพื้นที่ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของหญ้าอาหารสัตว์ ก็จะช่วยให้ผู้เลี้ยงไม่เหนื่อยต่อการเลี้ยง ซึ่งการเลือกสายพันธุ์โคขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงว่าต้องการสายพันธุ์ใด จึงทำให้การเลือกสายพันธุ์ไม่ใช่เรื่องที่ตายตัว เพราะแต่ละพื้นที่มีความต้องการและทำตลาดที่แตกต่างกันไป  

คุณกชพรรณ กุกไชย ได้นำโคเนื้อลูกผสมชาร์โรเล่ส์มาเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพเสริมรายได้ เพราะด้วยฟาร์มของเธอตั้งอยู่ที่ตำบลอวน อำเภอปัว จังหวัดน่าน ค่อนข้างเป็นพื้นที่สูงบนภูเขา และที่สำคัญครอบครัวของเธอทำการเกษตรเป็นพืชเชิงเดี่ยวมาก่อน ด้วยราคาผลผลิตที่ไม่แน่นอนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ จึงเกิดความสนใจที่อยากจะทำปศุสัตว์ในพื้นที่มาเสริมรายได้ ซึ่งโคลูกผสมชาโรเล่ส์เป็นสายพันธุ์ที่เธอเลือก เพราะในพื้นที่พ่อค้าเข้ามาติดต่อซื้อถึงฟาร์ม จึงเน้นเลี้ยงโคที่ตลาดมีความต้องการเป็นหลัก

คุณกชพรรณ กุกไชย

จากซื้อมาขายไป
สู่เกษตรกรผู้เลี้ยงเต็มตัว

คุณกชพรรณ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวของเธอมีอาชีพทางการเกษตรมานานแล้ว แต่หลังๆ ราคาพืชผลทางการเกษตรที่เป็นพืชไร่จำหน่ายไม่ค่อยได้ราคา พร้อมทั้งครอบครัวทำการซื้อโคเนื้อเข้ามาแล้วขายออกไปทำกำไร แต่ไม่กี่ปีมานี้ผลตอบแทนที่ได้ก็ไม่ดีเท่าที่ควร จึงทำให้ครอบครัวตัดสินใจว่าน่าจะเลี้ยงโคเนื้อเอง อาจช่วยในเรื่องของผลกำไรที่ดีกว่าเดิม จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงโคเนื้อในเวลาต่อมา

“พื้นเพครอบครัวทำเกษตรปลูกพืช ช่วงนั้นก็จะมีซื้อโคพันธุ์พื้นเมืองเข้ามาขายออกไป พอหลังๆ มา ต้นทุนการทำแบบนี้เริ่มสูงขึ้น จึงทำให้คิดว่าไม่น่าจะไปต่อได้ เพราะกำไรที่ได้จากการขายนิดเดียว พอเริ่มรู้สึกว่ามันหมุนเวียนอยู่แบบนี้ และเงินเก็บจากกำไรแทบไม่มี ทีนี้พี่ชายเริ่มสนใจโคสายพันธุ์ลูกผสมชาร์โรเล่ส์ บวกกับในพื้นที่เองก็เริ่มมีการเลี้ยงบ้าง พอเห็นว่าตลาดน่าจะไปได้ ทีนี้เราก็มาจัดสรรพื้นที่ จากเดิมที่เคยทำพืชเชิงเดี่ยว ก็มีการเปลี่ยนมาปลูกหญ้าอาหารสัตว์ และทำให้มันครบวงจรมากขึ้น” คุณกชพรรณ บอก

ในระหว่างวันให้กินอาหารข้น

แปลงหญ้าอาหารสัตว์
ส่วนสำคัญช่วยประหยัดต้นทุน

คุณกชพรรณ เล่าให้ฟังอีกว่า เมื่อต้องการที่จะเลี้ยงโคเนื้อสร้างรายได้แล้ว การแบ่งพื้นที่สำหรับการทำฟาร์มจึงค่อนข้างที่จะสำคัญ เนื่องจากเธอมีงานประจำที่ต้องทำ แต่การเลี้ยงโคเนื้อเป็นเพียงอาชีพเสริม ดังนั้น การแบ่งพื้นที่ให้สัตว์เดินเล่นในแต่ละวันได้จึงสำคัญ โดยในพื้นที่ 12 ไร่ แบ่งปลูกหญ้าสายพันธุ์รูซี่เพื่อให้โคได้เดินกินระหว่างวันเป็นจำนวน 10 ไร่ และอีก 2 ไร่ เตรียมไว้ปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในอนาคต

โดยพื้นโรงเรือนที่ให้โคเนื้อลูกผสมชาร์โรเล่ส์ทำเป็นโรงเรือนให้หลบแดดหลบฝนได้ เมื่อถึงเวลาเช้าโคก็จะออกไปหาหญ้ากินตามทุ่งหญ้าที่ปลูกไว้ในทุ่ง และเวลาเย็นก็จะกลับเข้ามานอนภายในโรงเรือน เพื่อให้เธอผูกเชือกหลังจากที่เธอกลับมาจากทำงานประจำ ซึ่งการผสมพันธุ์โคภายในฟาร์มจะเน้นการใช้พ่อพันธุ์ของเกษตรกรรายอื่นๆ ในพื้นที่เป็นหลักเนื่องจากพื้นที่ที่เธออยู่ยังไม่มีน้ำเชื้อพ่อพันธุ์เข้ามาจำหน่ายสำหรับผสมเทียม จึงเน้นการผสมด้วยวิธีธรรมชาติเป็นหลัก

โรงเรือนสำหรับนอน

“เวลาผสมพันธุ์ถ้าจ้างหมอเข้ามาผสมเทียม ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะเขาไม่ได้มีน้ำเชื้อพ่อพันธุ์เก็บไว้ หลักๆ เราก็จะเน้นใช้พ่อพันธุ์จากเพื่อนเกษตรกรในพื้นที่ มาทับแม่พันธุ์ภายในฟาร์ม มีค่าใช้จ่ายการผสมพันธุ์เป็นจำนวนเงินประมาณ 500 บาท การผสมแบบธรรมชาติแม่พันธุ์ก็ตั้งท้องได้ค่อนข้างดี โดยการผสมของเรา ก็จะเน้นให้โคเนื้อชาร์โรเล่ส์ มีสายเลือดอยู่ประมาณไม่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะอยู่ภายในสภาพแวดล้อมที่นี่ได้” คุณกชพรรณ บอก

เมื่อแม่พันธุ์ลูกผสมชาร์โรเล่ส์ผสมติดและตั้งท้อง 9 เดือน จนคลอดลูกออกมาแล้ว ในช่วงแรกจะให้ลูกโคอยู่กับแม่ หลังจากได้อายุ 3 เดือน ก็จะทำวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ให้กับลูกโค ส่วนแม่โคภายในฟาร์มจะทำวัคซีนทุก 6 เดือนครั้ง ตามแผนการทำวัคซีนที่กำหนดไว้ ซึ่งหลังจาก 6 เดือนไปแล้วลูกโคก็จะเริ่มหย่านม จากนั้นเลี้ยงต่อไปเรื่อยๆ อีก 1 ปี จนลูกโคมีอายุ 1 ปีครึ่ง ก็จะจำหน่ายได้ทันที

อาหารที่ใช้เลี้ยงโคเนื้อภายในฟาร์ม นอกจากปล่อยให้เดินแทะเล็มภายในทุ่งหญ้าแล้ว คุณกชพรรณ บอกว่า ภายในโรงเรือนนอนจะมีฟางไว้ให้กินอยู่ตลอด โดยจะหาซื้อมาในช่วงที่ฤดูนาเก็บเกี่ยว พร้อมทั้งเสริมด้วยอาหารข้นที่มีโปรตีนอยู่ที่ 21 เปอร์เซ็นต์ ให้กิน 1 กิโลกรัม ต่อตัว ต่อวัน เพื่อเป็นการเสริมให้โคที่เลี้ยงได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ

พื้นที่ปลูกหญ้าให้สัตว์ได้เดินแทะเล็ม

ตัวผู้จำหน่าย
ตัวเมียใช้เป็นแม่พันธุ์

สำหรับในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายโคเนื้อภายในฟาร์ม คุณกชพรรณ บอกว่า ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาลูกค้าและทำตลาด เพราะครอบครัวของเธอมีการจำหน่ายโคเนื้อมาก่อนแล้ว เมื่อมาลงมือเลี้ยงเพื่อจำหน่ายเอง จึงทำให้รู้กลไกการทำตลาด โดยตัวผู้ส่วนใหญ่เมื่อเลี้ยงจนได้อายุ 18 เดือนขึ้นไปก็จะจำหน่ายออกทันที ส่วนตัวเมียที่ทรงดีทรงสวยหากไม่เก็บไว้เป็นแม่พันธุ์ทดแทน ก็จะมีจำหน่ายออกบ้างให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ ที่สนใจ ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาซื้อโคภายในฟาร์มส่วนใหญ่ลูกค้าจะรู้จักด้วยวิธีการบอกต่อแบบปากต่อปาก จึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาหมุนเวียนซื้อขายอยู่เป็นประจำ

โดยราคาโคลูกผสมชาร์โรเล่ส์อายุ 18 เดือนขึ้นไป ตัวผู้ราคาเฉลี่ยต่อตัวเริ่มต้นอยู่ที่ 30,000 บาท ส่วนตัวเมียที่ทรงสวยเกษตรกรท่านอื่นๆ สนใจที่จะนำไปทำเป็นแม่พันธุ์ภายในฟาร์ม ราคาเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 40,000 บาท ต่อตัว และตัวเมียบางตัวจะเก็บไว้เป็นแม่พันธุ์ทดแทนภายในฟาร์มต่อไป

“ตั้งแต่มาเลี้ยงโคเนื้อแบบเต็มตัว ไว้จำหน่ายเอง ทำเป็นอาชีพเสริม ต้องบอกเลยว่า เรามีรายได้ที่ดีขึ้น ทำเป็นเงินเก็บได้ เพราะเราสามารถเก็งราคาได้ สมมุติเขามาให้ราคาที่เท่านี้ แต่เรายังไม่ตกลงปลงใจขาย เราก็เลี้ยงต่อไป เพื่อเก็บไว้ขายในราคาที่เราพอใจได้ เวลานี้ การเลี้ยงโคเนื้อ ถ้าเรามีการจัดการที่ดี มีพื้นที่ที่ชัดเจน ระหว่างวันเราก็สามารถไปทำอย่างอื่นได้ ยิ่งเรามีแปลงหญ้าอาหารสัตว์เอง โคเราก็มีอาหารกินตลอดทั้งปี การเลี้ยงเราก็ไม่ยุ่งยาก ประสบผลสำเร็จมีเงินเก็บจากการเลี้ยงได้” คุณกชพรรณ บอก

สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการเลี้ยงโคเนื้อลูกผสมชาร์โรเล่ส์ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณกชพรรณ กุกไชย หมายเลขโทรศัพท์ 093-391-6705

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2565

…………………………………………………..

สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิงก์ https://shorturl.asia/0zJwQ 📲– Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354