ที่มา | เก็บมาเล่า |
---|---|
ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
เผยแพร่ |
ข้าวหอมมะลิเป็นอีกหนึ่งสินค้าทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อของเกษตรกรผู้ทำนา เพราะจะเห็นได้จากการค้าขายทั้งในและต่างประเทศ ผู้บริโภคต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความอร่อยและมีรสสัมผัสที่ดี ซึ่งข้าวหอมมะลิที่ปลูกในแถบอีสานเป็นอีกหนึ่งผลผลิตที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องของความนุ่มและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว พร้อมทั้งมีการผลิตแบบอินทรีย์ส่งผลให้ข้าวหอมมะลิอินทรีย์เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีคุณภาพตามที่ตลาดมีความต้องการ
“ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้” เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีคุณภาพ เพราะข้าวที่ปลูกในพื้นที่แห่งนี้จะเป็นข้าวที่ค่อนข้างมีความหอมเป็นอย่างมาก ด้วยสภาพพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้เป็นแอ่งกระทะขนาดใหญ่ ดินเป็นดินร่วนปนทราย พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ จึงทำให้การปลูกข้าวที่เป็นทั้งที่ดินแห้งแล้งและดินที่มีความเค็มนี้เอง ทำให้ข้าวเกิดความเครียดและหลั่งสารหอมออกมาทำให้มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และมีความพิเศษ

คุณเจนณรงค์ ศรีอินทร์ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ให้ข้อมูลว่า ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคามได้จับมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร ได้ทำการผลักดันให้ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ GI จังหวัดมหาสารคาม เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2550 มีตั้งแต่ข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และข้าวขาวที่แปรรูปมาจากข้าวเปลือกพันธุ์ข้าวหอมที่ไวต่อแสงคือ พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ข้าว กข15 ซึ่งปลูกในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ในฤดูนาปี

ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคามได้เห็นถึงความสำคัญในด้านนี้ จึงได้เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะช่วยให้ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ GI จังหวัดมหาสารคาม มีการผลิตที่เข้มแข็งตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยได้มีการดำเนินในเรื่องของการทำตลาดออนไลน์ ให้เกษตรกรได้นำข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพส่งจำหน่ายส่งตรงถึงมือผู้บริโภคได้อย่างมั่นใจ

คุณสิริชัย ปราบมาตย์ ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์ผลิตข้าวพันธุ์บ้านสระแคน ตำบลราษฎร์พัฒนา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้ข้อมูลว่า ทางกลุ่มได้มีการทำข้าว GI ที่เป็นสินค้าของกลุ่มในชื่อแบรนด์ ข้าวบุญตา ที่มีผลผลิตตั้งแต่ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวกล้อง และข้าวลืมผัว โดยทางกลุ่มได้มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย และสามารถขนส่งแบบการซื้อขายในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
คุณสิริชัย เล่าให้ฟังอีกว่า การทำนาในพื้นที่มีการทำนาปีละ 1 ครั้ง ซึ่งการผลิตข้าวของกลุ่มจะมีการลดต้นทุนเข้ามาช่วย โดยเฉพาะการลดต้นทุนการผลิตในเรื่องปุ๋ย ได้มีการนำปุ๋ยคอกต่างๆ เข้ามาเสริมการผลิต จึงทำให้การผลิตข้าวสามารถมีต้นทุนการผลิตที่ลดลง

“สมัยก่อนที่ผมทำนา ข้าวก็ค่อนข้างที่จะได้ผลผลิตไม่มาก โดยเฉลี่ยผลผลิตต่อไร่อยู่ที่ 350 กิโลกรัม ต่อมาเมื่อได้มีการปรับเปลี่ยน โดยยึดการลดต้นทุน จะทำนาแบบอินทรีย์ ซึ่งกลุ่มก็มีการผลิตปุ๋ยชีวภาพต่างๆ ไว้ใช้ภายในกลุ่ม จึงทำให้ช่วยได้มากในเรื่องของการประหยัดต้นทุน และที่สำคัญเราทำแบบอินทรีย์ ก็ยิ่งทำให้ข้าวของกลุ่มมีความเป็นเอกลักษณ์ อย่างน้อยในเรื่องของต้นทุนต่ำลง แต่เราได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น บางช่วงได้ถึง 400 กิโลกรัมต่อไร่” คุณสิริชัย กล่าว
โดยข้าวเปลือกหลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว ส่วนหนึ่งก็จะกันไว้เพื่อเป็นข้าวปลูกในฤดูกาลต่อไป ส่วนที่เหลือก็จะนำส่งจำหน่ายให้กับโรงสี และนำอีกส่วนหนึ่งมาทำการจำหน่ายเอง ซึ่งการจำหน่ายเป็นสินค้า GI นับว่าเป็นการการันตีในเรื่องของคุณภาพ เพราะข้าวที่มีสัญลักษณ์ GI ช่วยในเรื่องของการทำราคาได้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นตัวบ่งชี้ว่าการผลิตข้าวของที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์
สำหรับการทำตลาดเพื่อจำหน่ายข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ GI จังหวัดมหาสารคาม คุณสิริชัย บอกว่า นอกจากจะมีพ่อค้าแม่ค้าติดต่อเข้ามาซื้อขายจากภายในวิสาหกิจชุมชนศูนย์ผลิตข้าวพันธุ์บ้านสระแคนโดยตรงแล้ว ทางกลุ่มเองก็ได้มีการจัดทำตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาติดต่อขอซื้อได้โดยตรง เพราะด้วยระบบการขนส่งที่ทันสมัยในยุคปัจจุบันนี่เอง ทำให้กลุ่มมีการปรับตัวและเรียนรู้ในเรื่องของการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
“กลุ่มเราได้ดำเนินการทำตลาดออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงของดีอย่างข้าวหอมมะลิในพื้นที่ของเรา ซึ่งเราก็มีจำหน่าย ทั้งข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวลืมผัว และข้าวกล้อง โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 59 บาท พอข้าวเราได้เป็นสินค้า GI ก็มองเห็นอนาคตมากขึ้น ว่าเราจะทำยังไงต่อไปในเรื่องของการตลาด เพราะเรามีของดีแล้ว เราต้องพัฒนาต่อไป ก็ต้องขอบพระคุณทางพาณิชย์จังหวัดที่ช่วยส่งเสริมในครั้งนี้” คุณสิริชัย กล่าว

สำหรับท่านใดที่สนใจข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ของวิสาหกิจชุมชนศูนย์ผลิตข้าวพันธุ์บ้านสระแคน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 084-786-8659
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก วันพฤหัสที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2565
ถ้าอยากรู้จัก “ข้าวให้มากขึ้น” พบกันได้ที่ #งานมหัศจรรย์ข้าวไทย 2024 งานที่มัดรวมข้าว GI ที่หายากจากทุกสารทิศทั่วไทยมาไว้ในงานเดียว!
พร้อมเดินทัวร์ให้รู้ว่าข้าวไทยทำถึง กับนิทรรศการข้าวสุดอลัง ฟังเสวนาที่ครบรสทั้งความรู้และความบันเทิง จัดเต็มกับเวิร์กช็อป และการสาธิตสารพัดเมนูจากข้าวทั้งคาว-หวานครบรส #ข้าวไทย ก็ทำได้จริง แถมได้ช้อปปิ้งสินค้าเกี่ยวกับข้าวที่หลากหลายกันให้หนำใจ
มาชิมให้รู้ มาชมให้เห็นกับตาว่า #ข้าวไทยอร่อยที่สุดในโลก เตรียมตัวพบกันวันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 2 มิถุนายนนี้ ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เดินทางสะดวกด้วยรถโดยสารสาธารณะ, รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสามย่าน ทางออกที่ 2 เข้าฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย…