วิสาหกิจชุมชนกล้วยเงินล้าน ที่จุน พะเยา

คุณปฏิวัติ ดาวไธสง คือหนุ่มอิเล็กทรอนิกนักซ่อมคอมพิวเตอร์แห่งเมืองหลวง ประเทศไทย พ.ศ. 2556 เขากลับบ้านและเริ่มทำการเกษตรบนทุ่งลอ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ประเทศไทย ทำการเกษตรในยุคเฟื่องฟูของสารเคมีและยาฆ่าแมลง เป็นยุคการตลาดที่เราจะมองเห็นพนักงานขายสินค้าเปิดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรเพื่อขายสินค้า ขายกล้าพันธุ์พืช ขายปุ๋ย ขายสารเคมีและยาฆ่าแมลง พวกเขาโฆษณาชวนเชื่อว่า เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวจะมีพ่อค้ารับซื้อผลผลิตในราคาสูง สุดท้ายแล้วเกษตรกรก็ต้องผิดหวัง

คุณปฏิวัติ ดาวไธสง

มองกล้วยเป็นธุรกิจจึงจะเข้าใจการตลาด คุณปฏิวัติ เล่าว่า เรียนจบอิเล็กทรอนิก ทำธุรกิจร้านซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 15 ปี พ.ศ. 2556 กลับมาเริ่มทำธุรกิจเหมืองทรายที่จังหวัดพะเยา ช่วงเย็นหลังเลิกงานเขาศึกษาทำการเกษตร โดยเริ่มศึกษาการปลูกกล้วย ก่อนหน้านั้นมีคนส่งเสริมเกษตรกรปลูกกล้วย พวกเขาจัดอบรมให้ความรู้ ขายกล้าพันธุ์ ขายปุ๋ย ขายสารเคมี พร้อมกับให้สัญญาว่า เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวพวกเขาจะรับซื้อผลผลิต แต่แล้วพวกเขาก็ผิดสัญญา เกษตรกรหลายคนได้รับความเสียหายเพราะขายผลผลิตไม่ได้ พวกเขาตัดสินใจตัดต้นกล้วยสายพันธุ์อื่นทิ้งแล้วหันมาปลูกกล้วยน้ำว้าเช่นเดียวกับผม

ต้นกล้วยทุ่งลอมีเรื่องราวมากมาย เมื่อลองศึกษาเราจะมองเห็นการตลาด มองเห็นการแข่งขัน มองเห็นคู่แข่ง มองเห็นพ่อค้าคนกลางและนายทุน หลายคนมองข้ามตลาดกล้วย พวกเขามองกล้วยเป็นเรื่องเกษตรกรรม แต่สำหรับคุณปฏิวัติมองกล้วยเป็นธุรกิจ เขาค้นหาตลาดกล้วยน้ำว้าจนพบคนรับซื้อ เขารับออร์เดอร์จากโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีแนวคิดว่า ถ้ายังฝืนทำการเกษตรแบบเดิม เราจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถต่อยอดพัฒนาสินค้า ไม่สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าได้

ปุ๋ยหมักไว้ใช้ในแปลงกล้วยลดต้นทุนการผลิต

ปลูกกล้วยน้ำว้าพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อทำการตลาด คุณปฏิวัติรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยน้ำว้าเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยไม่จูงใจเกษตรกรมากเกินไป ไม่สร้างความคาดหวังให้กับเกษตรกรมากเกินไป ไม่หลอกเกษตรกรว่าปลูกกล้วยพื้นที่ 1 ไร่ จะขายกล้วยได้เงิน 100,000 บาท ไม่สัญญากับเกษตรกรในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่สัญญาว่าจะรับซื้อผลผลิตกล้วยน้ำว้าในราคาสูงเกินความจริง เพราะเกษตรกรหลายคนผิดหวังกับการปลูกกล้วยสายพันธุ์อื่นมาแล้ว เขาคงไม่อยากผิดหวังอีกครั้ง เกษตรกรเปลี่ยนมาปลูกกล้วยน้ำว้าเพราะพวกเขามีพื้นฐานด้านการเกษตร พวกเขามีแปลงกล้วย มีระบบน้ำที่ดี มีดินที่ดีเหมาะสำหรับการปลูกกล้วย เมื่อรวมกลุ่มเกษตรกรเป็นวิสาหกิจชุมชน “กล้วยเงินล้าน” กล้วยน้ำว้าจึงเติบโตเป็นธุรกิจอย่างรวดเร็ว

นำสมาชิกทำน้ำหมักชีวภาพ

ประโยชน์ของการกำหนดสถานะเป็นวิสาหกิจชุมชนคือ เราสามารถต่อยอดความรู้ ขอความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การแสดงตัวตนทางธุรกิจ ตอนกลับจากกรุงเทพฯ เพื่อเริ่มธุรกิจการเกษตร คุณปฏิวัติขอเข้าพบเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอจุน สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา ค้นหาตลาดสินค้าการเกษตร เขาไม่จำหน่ายสินค้าเกษตรให้กับพ่อค้าคนกลาง แต่ตัดสินใจนำส่งผลผลิตจำหน่ายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมโดยตรง ชีวิตของเราต้องวิ่งเต้นแสวงหาโอกาส แสวงหาความรู้ เพราะไม่มีพื้นฐานด้านการเกษตร จึงเดินทางไปศูนย์วิจัยการเกษตรปากช่อง เดินทางไปศึกษาอบรมจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาลำปางเพื่อแสวงหาความรู้

ต้นพันธุ์กล้วยน้ำว้า

การตลาดการขาย หรือการหลอกลวงเกษตรกร เมื่อทำธุรกิจด้านเกษตร อยู่ในวงการค้าขายผลผลิตทางการเกษตรเป็นเวลานาน เราจะมองเห็นกลุ่มคนที่แสวงหาประโยชน์จากเกษตรกร ขายกล้าพันธุ์ ขายปุ๋ย ขายสารเคมี หลอกลวงว่าจะรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรในราคาสูง ตัวอย่างเช่น ขายกล้าพันธุ์โกโก้ ขายกล้าพันธุ์กระท่อม ขายกล้าพันธุ์ต้นตะโก ขายกล้าพันธุ์ต้นฉำฉา ขายกล้าพันธุ์ต้นกฤษณา (ไม้หอม) เกษตรกรถูกหลอกลวงเพราะถูกจูงใจด้วยเงิน เชื่อใจว่าเมื่อได้ผลผลิตจะมีผู้รับซื้อในราคาสูง ตัวอย่างเช่น การขายกล้าพันธุ์กล้วยโดยรับประกันว่า เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตจะรับซื้อในกิโลกรัมละ 15 บาท เกษตรกรคำนวณยอดขายสินค้าเกษตรว่าจะได้รับเงิน 60,000 บาทต่อไร่ ก็แย่งกันซื้อกล้าพันธุ์

แปลงปลูกกล้วยน้ำว้า

กลุ่มผู้ส่งเสริมทำการเกษตรมีหลายกลุ่ม คนบางกลุ่มหวังผลประโยชน์จากการส่งเสริม หวังผลประโยชน์จากเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งจากยอดขาย กล้าพันธุ์ ปุ๋ย สารเคมี เกษตรกรมีบทเรียนกับเรื่องนี้ พวกเราจึงรวมกลุ่มเน้นหาตลาดเพื่อกำหนดทิศทางการผลิต พวกเรากำหนดราคารับซื้อกล้วยน้ำว้าตามกลไกการตลาด รับซื้อกล้วยน้ำว้าในราคากิโลกรัมละ 3-12 บาท ผลผลิตร้อยละ 80 หรือประมาณ 40 ตัน ถูกนำส่งให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนที่เหลือร้อยละ 20 เป็นผลผลิตตกเกรด ถูกนำมาผลิตเป็นสินค้าภายใต้แบรนด์ “กล้วยเงินล้าน” มีหลายหน่วยงานรัฐเข้ามาส่งเสริม เช่น สำนักงานเกษตรอำเภอจุน สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สถาบันราชมงคลวิทยาเขตล้านนาลำปาง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ทำให้วิสาหกิจชุมชนสามารถต่อยอดได้อย่างต่อเนื่อง เป้าหมายต่อไปของเราคือการสร้างโรงงานขนาดเล็ก

ผลผลิตกล้วยน้ำว้าพร้อมจำหน่ายเข้าโรงงานและแปรรูป

ตรารับรองคุณภาพสินค้าแบบใดเหมาะสำหรับธุรกิจการเกษตร วิสาหกิจชุมชนกล้วยเงินล้านกำหนดตนเองเป็นเกษตรปลอดภัย พวกเราได้มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice) เป้าหมายของเราคือทำให้เกษตรกรรมกลายเป็นธุรกิจการเกษตร เราต้องการผลกำไรจากการเกษตร อยากเป็นนักธุรกิจการเกษตร อยากมีผลกำไรจากสิ่งที่เราทำโดยมีพื้นฐานแห่งความพอดี จึงเข้ารับการอบรมและคบหากับกลุ่มเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ ทดลองทำเกษตรอินทรีย์แต่ก็ไม่สามารถทำตามเงื่อนไขการรับรอง เคยขอใบรับรองจาก IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movements) โดยสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ แต่ก็พบว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ได้รับข้อมูลจากสื่อมวลชนอยู่เสมอเรื่องสินค้าเกษตรอินทรีย์ พวกเราเข้าใจว่าผู้บริโภคต้องการสินค้าออร์แกนิกจำนวนมาก โดยความจริงแล้ว ข้อมูลดังกล่าวอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้

กล้วยน้ำว้าอบเนย

เกษตรอินทรีย์เป็นการทำการเกษตรที่เพิ่มต้นทุนการผลิต หากเราทำเกษตรอินทรีย์แต่ไม่สามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ได้เอง เราต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก สำหรับเราเกษตรอินทรีย์ไม่สามารถตอบโจทย์การเพาะปลูกหรือทำการเกษตรพื้นที่ขนาดใหญ่ ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์เล็กมาก ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ต้องเกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยน มีผลกำไร ธุรกิจถึงจะขับเคลื่อน สำหรับเราการรับรองมาตรฐาน GAP หรือเกษตรปลอดภัย สามารถตอบโจทย์คนทำการเกษตรได้ดีที่สุดในเวลานี้

สนใจข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมศึกษาเรียนรู้ ติดต่อ คุณปฏิวัติ ดาวไธสง วิสาหกิจชุมชนกลุ่มกล้วยเงินล้าน เลขที่ 297 หมู่ที่ 9 ตำบลห้วยข้าวก่ำ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา โทร. 0891438967

ขอบคุณข้อมูลและภาพ จาก ร.ต.อ. ทรงวุฒิ จันธิมา (กระจอกชัย)

……………………………………….

สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิงก์ https://shorturl.asia/0zJwQ – Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354