ครูฝึกสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ไม่รักจริง ทำไม่ได้

คุณสายชล ขันทัง เป็นครูฝึกสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd) หรืออัลเซเชี่ยนระดับแนวหน้าของประเทศ รับรางวัลถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 1 รางวัล, ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 5 รางวัล, ถ้วยรางวัลประจำพันธุ์ 80 รางวัล รวมถ้วยรางวัลอื่นประมาณ 1,000 รางวัล

คุณสายชล เล่าว่า เริ่มเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดอย่างจริงจังตอนอายุ 18 ปี เลี้ยงและฝึกสุนัขมานานกว่า 30 ปี มีสุนัขเลี้ยงที่บ้านประมาณ 10 ตัว เมื่อเรียนจบก็เริ่มทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทำธุรกิจทัวร์ เลี้ยงสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดส่งประกวดเป็นงานอดิเรก สุนัขของเขาส่วนใหญ่เป็นสุนัขพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศ การเลี้ยงสุนัขมานานทำให้อ่านจิตใจของสุนัขออก เขามีลักษณะนิสัยอย่างไรในการต่อสู้ หากจะส่งประกวดควรส่งลงแข่งในสนามไหน หรือควรส่งสุนัขประกวดประเภทใด

การมองสุนัข การฝึกสุนัข ยุคสมัยก่อนเขาไม่สอนกันง่ายๆ สมัยก่อนต้องเป็นเด็กทำความสะอาดคอกสุนัข กว่าจะได้ถือสายจูงสุนัขประกวดใช้เวลานับ 10 ปี ครูฝึกเขาไม่มานั่งสอนเรื่องการฝึกสุนัขเพราะมันไม่มีตำราการฝึก การเริ่มฝึกสุนัขคือการจูงสุนัขเดิน หากมันชอบเรามันจะเดินตามเรา หากมันไม่ชอบก็จะลากเราไปเรื่อยๆ การฝึกสุนัขก็เหมือนการฝนมีดให้คม คือต้องทำการฝึกซ้ำๆ สุนัขจะจดจำตามที่เราฝึก บางคนเปิดโรงเรียนฝึกสุนัข สอนสุนัขแบบผิดๆ นั่นเป็นความเสียหายหรือที่เรียกว่า “เสียหมา” เพราะเวลาส่งประกวดสุนัขจะไม่สามารถปฏิบัติการตามที่เราสั่งการได้

สำหรับการฝึกสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด เป็นไปตามมาตรฐานสมาคม IGP เป็นมาตรฐานโลก กรรมการทั่วโลกสามารถตัดสินได้ และมีข้อกำหนดการสอบ ขั้นตอน ก. สอบการ ชิด หมอบ คอย ขั้นตอน ข. การวิ่ง 10 กิโล ขั้นตอน ค. การสะกดรอย คุมผู้ร้าย สั่งกัดสั่งปล่อย แต่ละปีจะมีการประกวดสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด รูปแบบการประกวดแบ่งออกเป็นการประกวดสุนัขสวยงามกับการประกวดสุนัขอารักขา การประกวดสุนัขประเภทสวยงาม จะเน้นโครงสร้างทางกายภาพตามมาตรฐานของสายพันธุ์เป็นหลัก เยอรมันเชพเพิร์ดเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีส่วนประกอบกระดูกจำนวนมาก กรรมการผู้ตัดสินจะดูโครงสร้าง ส่วนหัวสูง ส่วนหลังต่ำ มุมขาหลังได้มุมฉาก ขาขนานพื้นเส้นหลังโค้งเล็กน้อย กรรมการไม่เน้นการให้คะแนนความอ้วนท้วนสมบูรณ์

คุณสายชล ขันทัง กับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด

ถ้วยรางวัลจะแยกตามเพศตามอายุ เริ่มตั้งแต่อายุ 3-6 เดือน อายุ 6-9 เดือน อายุ 9-12 เดือน อายุ 12-18 เดือน อายุ 18-24 เดือน อายุ 24 เดือน ส่วนการประกวดสุนัขอารักขาหรือสุนัขใช้งานสากล (IGP) สุนัขต้องมีอายุตั้งแต่ 18 เดือนขึ้นไป การให้คะแนนการประกวดจะเน้นความปราดเปรียว ความสามารถในการปฏิบัติตามคำสั่ง กัด ปล่อย

Advertisement

คุณสายชล เล่าต่อว่า เป้าหมายสูงสุดของการเป็นครูฝึกสุนัข ช่วงเวลา 30 ปี เขาส่งสุนัขประกวดจำนวนนับไม่ถ้วน ช่วง 16 ปีหลัง เดินทางประกวดสุนัขทั่วประเทศ ได้ถ้วยรางวัลประมาณ 1,000 ถ้วยรางวัล ถ้วยรางวัลใหญ่ที่เป็นความภูมิใจคือ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 1 รางวัล, ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 5 รางวัล รับรางวัลถ้วยรางวัลประจำพันธุ์ประมาณ 80 รางวัล ส่วนที่เหลือก็เป็นถ้วยรางวัลประเภทอื่นๆ

การฝึกสุนัขภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นการปรับนิสัยเพื่อให้สุนัขเข้าสังคม การพาสุนัขออกนอกบ้านไม่ก้าวร้าว แต่หากเป็นการฝึกสุนัขเพื่อเข้าประกวดจะมีรูปแบบการฝึกที่แตกต่าง หากสุนัขผ่านการฝึกหรือเมื่อพาเข้าประกวดบ่อยๆ มันจะเข้ากับสังคมได้สบายๆ ไม่เห่าคนแปลกหน้า ไม่พุ่งใส่สุนัขตัวอื่น สัญชาตญาณจะเกิดขึ้นเอง คุณสายชลมีสุนัขตัวหนึ่งชื่อปีโป้ เดินอยู่บนถนนคนเดินในเชียงคาน คนเดินจำนวนมาก ใส่สายจูงให้มันคาบเดินตามเรา มันไม่แตกตื่น มันรู้ได้เอง

Advertisement

ปัญหาของสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดคือ คนทั่วไปกลัวโรคข้อสะโพกอ่อน แต่สุนัขของคุณสายชลจะผ่านการเอกซเรย์ข้อสะโพก สุนัขมีปัญหาเขาจะไม่ให้ผสมพันธุ์เพราะมันถ่ายทอดถึงลูกหลานได้ เวลาจะหาซื้อสุนัข เราต้องมีใบพันธุ์ประวัติเพราะส่วนใหญ่จะได้รับรองจากสมาคม บางคนเห็นสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่ แต่จริงๆ แล้วเขาเข้ากับเด็กได้ดีมาก ไม่ทำร้ายเจ้าของ ดุแบบมีเหตุผล เช่น ถ้ามีคนหรือสุนัขผ่านหน้าบ้าน เมื่อมีเจ้าของอยู่ในบ้านมันจะไม่เห่าเพราะมันรู้ว่าผู้มาเยือนเป็นแขก สุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดฝึกง่ายมาก สุนัขสายพันธุ์อื่นใช้เวลาเป็นปี แต่สุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ใช้เวลา 2-3 เดือนฝึกได้เลย

ถ้วยรางวัลที่ได้รับ

วัตถุประสงค์ของการเลี้ยงสุนัข มีทั้งการเลี้ยงสุนัขทำสายพันธุ์ ฝึกสุนัขเพื่อการประกวด เลี้ยงสุนัขเพื่อต่อสายเลือด สุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดราคาค่อนข้างสูง ราคาไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงเลี้ยงสุนัขเพื่อเข้าประกวด บางตัวก็เลี้ยงไว้เพราะเป็นความรักชอบส่วนตัว ส่วนใหญ่สุนัขที่ได้รับรางวัลคุณสายชลจะเลี้ยงไว้เพราะถือเป็นเพื่อนและสร้างสุนัขสร้างชื่อเสียงให้ บางคนจะขอซื้อสุนัขของคุณสายชลให้ราคา 300,000 บาท แต่เขาขายให้ไม่ได้เพราะสุนัขตัวนั้นคือเพื่อนของเขา

“สุนัขบางตัวผมซื้อมาเพราะมองเห็นโครงสร้าง จึงตัดสินใจซื้อสุนัขเพราะมองเห็นโครงสร้าง หลังจากเลี้ยงและฝึกจึงส่งสุนัขเข้าประกวด สนามแรกได้รางวัลที่ 3 สนามที่ 2 ผู้ตัดสินชาวเยอรมันตัดสินให้ได้รางวัลที่ 1 สนามที่ 3 ผู้ตัดสินชาวเยอรมันตัดสินให้ได้รางวัลที่ 1 อีกครั้ง มีเพื่อนเดินทางจากภาคใต้เพื่อขอซื้อไปเลี้ยง แต่เมื่อเดินทางถึงกรุงเทพฯ เขาตัดสินใจขายให้กับคนพม่าแต่สุนัขตัวนั้นก็ยังได้รางวัลที่ 1 ที่ในการประกวดที่ประเทศพม่าอีก 2 ครั้ง”

โรงเรียนฝึกสุนัขส่วนใหญ่เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สุนัขอยู่ร่วมกับสังคม ส่วนการฝึกของคุณสายชลเป็นการฝึกสุนัขเพื่อการประกวด หรือเพื่อการอารักขา การฝึกหรือการคัดเลือกต้องมีการยิงปืน การเดินฝ่าฝูงชน หากสุนัขไม่ได้รับการฝึกจะขาดสมาธิ สุนัขต้องมีความนิ่ง มีจิตประสาทที่ดี

“ปัจจุบัน ความนิยมสุนัขจะเป็นเรื่องสวยงาม สุนัขกระเป๋า เพราะมันกินน้อย เลี้ยงง่าย พาไปไหนได้สะดวก สุนัขพันธุ์ใหญ่เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน สุนัขยาม สุนัขใช้งาน การฝึกก็แล้วแต่ว่าจะใช้ประโยชน์อะไร สุนัขฝึกง่ายสุดคือสายพันธุ์คอลลี่ สายพันธุ์พุดเดิ้ล สายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ถ้าเป็นสุนัขอารักขาต้องเยอรมันเชพเพิร์ดกับมาลินอยส์ ประเภทดมกลิ่นดมยาเสพติดต้องสายพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์”

คุณสายชล ขณะนำสุนัขเข้าแข่งขัน

การเลี้ยงสุนัขกลายเป็นเรื่องแฟชั่น สุนัขที่ทำการตลาดราคาสูงบางสายพันธุ์ ราคาตัวละ 70,000-80,000 บาท เมื่อความนิยมลดลงราคาก็จะลดลงตาม แต่สายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดราคาไม่ตกเพราะลักษณะนิสัย ความนิ่ง สามารถรับฟังคำสั่งได้ดี ต่างกับสุนัขสายพันธุ์อื่น ข้อคิดสำหรับคนอยากเลี้ยงสุนัข ถ้าเราจะเลี้ยงสุนัขสักตัวเขาจะอยู่กับเราเป็น 10 ปี ขอให้เลี้ยงเขาอย่างดี อย่ามองเรื่องราคาการขายเพราะสุนัขไม่ใช่สัตว์เศรษฐกิจ เมื่อตายก็กินเนื้อกินหนังไม่ได้ ถ้าจะเลี้ยงเราต้องมีใจรัก ไม่ควรเลี้ยงสุนัขตามแฟชั่น คุณสายชล ทิ้งท้ายให้ได้คิด