สาวอุตรดิตถ์ พลิกวิกฤตโควิดเป็นโอกาส สร้างรายได้จากสวนมะม่วงหิมพานต์ แปรรูป

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยังคงเป็นที่นิยมตลอดกาล ด้วยรสชาติที่ดี มีความอร่อย และมีราคาสูง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ประโยชน์และรสชาติความมันของเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้น คุ้มค่า คุ้มราคาจริงๆ

คุณจิราพร เคหะลูน

มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ไม่ผลัดใบ ลำต้นมีความสูง 10-12 เมตร ต้นเตี้ย กิ่งก้านสยายไม่สม่ำเสมอ ใบเรียงเป็นแบบเกลียว ผิวมันลื่น รูปโค้งจนถึงรูปไข่ มีความยาว 4-22 เซนติเมตร และกว้าง 2-15 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ ดอกมีสีเขียวซีด จากนั้นเปลี่ยนเป็นแดงจัด มี 5 กลีบ ปลายแหลม เรียว ยาว 7-15 มิลลิเมตร ผลมีรูปไข่หรือรูปลูกแพร์ เมื่อสุกจะมีสีเหลืองหรือส้มแดง มีความยาวประมาณ 5-11 เซนติเมตร

เม็ดมะม่วงหิมพานต์สามารถนำมาแปรรูปได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาอบ ทอดเป็นของขบเคี้ยว หรือนำมาประกอบอาหารก็ทานได้อย่างเพลิดเพลิน ด้วยความมันที่ได้ลิ้มรส ทำให้พากันคิดว่า เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับถั่ว ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่

ต้นกล้ามะม่วงหิมพานต์

มะม่วงหิมพานต์ หรือ Cashew nut เป็นไม้ดอกยืนต้น กลุ่มเดียวกับมะม่วง และถั่วพิสตาชิโอ มะม่วงหิมพานต์เป็นพืชพื้นเมืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล นำเข้ามาปลูกครั้งแรกที่ภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2444

เป็นพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง ประกอบด้วยโปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันที่ส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว (เมื่อบริโภคเข้าไปจะไม่เพิ่มไขมันในเส้นเลือด) คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ, บี, อี และเกลือแร่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก

เก็บเม็ดมะม่วงหิมพานต์

คุณจิราพร เคหะลูน หรือ คุณตุ๊กตา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ที่ 2 บ้านตีนดอย ตำบลหาดล้า อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรปลูกมะม่วงหิมพานต์และแปรรูป คุณจิราพร กล่าวว่า ครอบครัวของตนเองปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์มานานแล้ว แต่ไม่ได้ทำธุรกิจด้านนี้อย่างจริงจัง

ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คุณพ่อและคุณแม่เดิมทีเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายของตามตลาด ส่วนคุณจิราพรกำลังอยู่ในช่วงที่เรียนจบการศึกษา ช่วงนั้นเป็นช่วงที่โควิดกำลังระบาดครั้งแรก ทำให้ธุรกิจหลายด้านต้องหยุดตัวลง ทำให้คุณจิราพรต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเพราะเนื่องด้วยตอนนั้นเริ่มเกิดการล็อกดาวน์เกิดขึ้น และคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถไปขายของที่ตลาดได้ เนื่องจากตลาดทุกที่ในตอนนั้นปิดตัวลงหมด

ตากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เพิ่งเก็บ

ทำให้ทั้งครอบครัวอยู่ในช่วงที่ว่างงาน คุณจิราพรและครอบครัวจึงกลับไปมองสิ่งที่ตัวเองมีเพื่อสร้างรายได้กับมัน นั่นก็คือสวนมะม่วงหิมพานต์ที่เคยปลูกไว้ ประจวบเหมาะกับช่วงเวลานั้นอยู่ในฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้มีผลผลิตออกมาให้เก็บเกี่ยวจำนวนมาก ทุกคนในครอบครัวจึงหันกลับมาทุ่มเทและตั้งใจในการทำธุรกิจมะม่วงหิมพานต์

ปอกเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยอุปกรณ์

ฤดูการเก็บเกี่ยวเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เริ่มตั้งแต่มีนาคม-พฤษภาคม เป็นระยะเวลา 3 เดือน ปัจจุบัน คุณจิราพรปลูกมะม่วงหิมพานต์ถึง 12 ไร่ และรับซื้อผลผลิตจากชาวบ้านในชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน และให้ราคาที่สูงกว่าการไปขายพ่อค้าคนกลาง ตลอดระยะเวลา 3 เดือน จึงจำเป็นต้องกักตุนสินค้าเพื่อให้มีจำหน่ายในช่วงที่หมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวไปแล้ว

ปอกเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยเครื่องกะเทาะ

โดยสินค้ามีทั้งเม็ดมะม่วงหิมพานต์ (แบบเต็มเม็ด ดิบ) ราคา 350 บาทต่อกิโลกรัม, เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (แบบครึ่งซีก ดิบ) ราคา 260 บาทต่อกิโลกรัม, เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (แบบเศษหักท่อน ดิบ) ราคา 180 บาทต่อกิโลกรัม

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (แบบเต็มเม็ด อบพร้อมทาน) ราคา 400 บาทต่อกิโลกรัม, เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (แบบครึ่งซีก อบพร้อมทาน) ราคา 300 บาทต่อกิโลกรัม, เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (แบบเศษหักท่อนน อบพร้อมทาน) ราคา 200 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีเมล็ดพันธุ์, ต้นกล้ามะม่วงหิมพานต์ และเครื่องกะเทาะ อุปกรณ์ปอกเปลือกมะม่วงหิมพานต์

อบเม็ดมะม่วงหิมพานต์

คุณจิราพร เล่าว่า ต้นมะม่วงหิมพานต์ของทางสวนมีทั้งหมด 2 สายพันธุ์ 1. สายพันธุ์ M23 เป็นสายพันธุ์จากต่างประเทศ ที่นิยมนำเข้ามาปลูก 2. สายพันธุ์พื้นเมือง เป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากในประเทศไทย

เม็ดมะม่วงหิมพานต์แปรรูป 7 รสชาติ

การเพาะต้นกล้า

เริ่มจากการคัดเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ที่สุด เนื้อเมล็ดเต็ม นำเมล็ดพันธุ์ที่คัดได้แล้วมาตากแดด (แดดจัด) 4-5 แดด ให้เมล็ดพันธุ์แห้ง จึงจะนำไปแช่น้ำต่อเป็นระยะเวลา 2-3 วัน ให้เมล็ดพันธุ์อ่อน เพื่อง่ายต่อการเพาะปลูก เมื่อเมล็ดพันธุ์แช่น้ำเรียบร้อยแล้ว นำเมล็ดพันธุ์ที่เตรียมไว้ลงถุงเพาะต้นกล้า โดยใส่ดินเพาะปลูกลงไปครึ่งหนึ่งของถุง จากนั้นใส่เมล็ดพันธุ์ลงไปในถุงเพาะ โดยวางส่วนที่เว้าโค้งของเมล็ดพันธุ์ลงดิน และจึงจะนำดินใส่เติมลงไปให้เต็มทั้งถุง เมื่อเมล็ดพันธุ์ลงถุงเพาะแล้วนำไปไว้ในโรงเรือนเพาะต้นกล้าที่มีแดดรำไร โดยรดน้ำให้ต้นกล้าทุกวันเป็นระยะเวลา 6-8 สัปดาห์ จึงสามารถนำลงดินแปลงปลูกได้ และในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของการลงดินปลูกควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ

แพ็กสินค้าเตรียมจัดส่งให้ลูกค้า

ช่วงฤดูกาลเพาะพันธุ์ต้นกล้ามะม่วงหิมพานต์จะอยู่ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม และจะนำต้นกล้าลงแปลงปลูกในช่วงฤดูฝน ต้นมะม่วงหิมพานต์เป็นพืชอายุยืน ปัจจุบัน ต้นมะม่วงหิมพานต์ของทางสวนอายุมากกว่า 30 ปี (อายุมากขึ้นผลผลิตอาจลดลง) มะม่วงหิมพานต์เป็นพืชทนแล้งได้ดี การดูแลในระยะยาวเมื่อต้นโตแล้ว ก็เพียงกำจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ยบำรุง ปีละ 1-2  ครั้งเท่านั้น

คุณจิราพร กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเน้นเข้ามาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ทำให้ 95% คือลูกค้าตลาดออนไลน์ที่เข้ามาสั่งซื้อสินค้าจากทางเฟซบุ๊ก และอีก 5% เป็นกลุ่มคนในพื้นที่ จังหวัดใกล้เคียงที่เข้ามารับซื้อ และกลุ่มลูกค้าที่สนใจเกี่ยวกับธุรกิจนี้เข้ามาศึกษาดูงาน เพราะทางสวนเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาข้อมูลให้เกษตรกรหรือผู้สนใจในธุรกิจมะม่วงหิมพานต์ เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

“เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจในต้นมะม่วงหิมพานต์ สามารถปลูกได้ ดูแลไม่ยาก เป็นพืชอายุยืน ทนแล้ง หากใครมีพื้นที่ว่างเปล่าก็สามารถปลูกทิ้งไว้ได้ มะม่วงหิมพานต์ถือเป็นผลผลิตที่มีความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีราคาที่สูง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน”

สำหรับท่านใดที่สนใจมะม่วงหิมพานต์ดิบ อบ ต้นกล้า เมล็ดพันธุ์มะม่วงหิมพานต์ อุปกรณ์ปอกเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณจิราพร เคหะลูน หรือ คุณตุ๊กตา อายุ 25 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ที่ 2 บ้านตีนดอย ตำบลหาดล้า อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ โทรศัพท์ 080-859-9764 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก สามเซียน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ราคาโรงงาน