มก. จัดเกษตรแฟร์ปีนี้ยิ่งใหญ่ “80 ปี เกษตรนนทรี นำวิถีใหม่ ไทยยั่งยืน”

เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เชิญชวนสถานเอก อัครราชทูตต่างประเทศในไทยและองค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมจัดงานออกร้านในงานเกษตรแฟร์ ประจำปี 2566 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษของปีนี้ที่มหาวิทยาลัยริเริ่มจัดขึ้นเพื่อสื่อสารภาพลักษณ์ความเป็นนานาชาติของมหาวิทยาลัย รวมทั้งเพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกับประเทศพันธมิตรต่าง ๆ ในหลายภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะ เอเชีย ยุโรป อเมริกา และแอฟริกา

โดยพื้นที่ออกร้านของสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศจะจัดไว้ในโซน H บริเวณหน้าอาคารจักรพันธ์เพ็ญสิริ รวมจำนวน 16 บูธ ประกอบด้วยสถานเอกอัครราชทูต 11 แห่ง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บาร์เรน บังคลาเทศ จีน ฝรั่งเศส ฮังการี เคนยา มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย และแอฟริกาใต้ ที่ให้ความร่วมมือในการนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมของแต่ละประเทศ สินค้าพื้นเมือง สินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น ของที่ระลึก สินค้าอุปโภคบริโภค และจัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม รวมถึงองค์การระดับภูมิภาค คือ ศูนย์พืชผักโลก World Vegetable Center ซึ่งจะมาจัดแสดงผลงานและผลิตภัณฑ์ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน หรือ Tropical Vegetable Research Center  (TVRC) ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน 

ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า งานเกษตรแฟร์ เป็นงานใหญ่ ประจำปี ที่ประชาชน เกษตรกร รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศรอคอย เป็นตำนานวิถีชีวิตของคนเกษตร ที่จะได้มีโอกาสเปิดการเรียนรู้นอกชั้นเรียน ร่วมกัน ระหว่างอาจารย์ นิสิต และบุคลากร  มีการนำผลงานวิจัย นวัตกรรมที่ค้นคิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์สังคมและช่วยเหลือประชาชนในมิติต่าง ๆ ออกเผยแพร่โดยวิธีการที่เข้าใจและเข้าถึงง่าย เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและประชาชน

ซึ่งนิสิตก็จะได้นำความรู้ในห้องเรียน  มาฝึกใช้จริงในงานเกษตรแฟร์ ทั้งใน ด้านการจัดการความรู้ การจัดแสดงนิทรรศการ การตลาด ธุรกิจเชิงพาณิชย์ การบริหารจัดการร้านอาหาร  การบริการ การแสดงทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม นาฎศิลป์ และดนตรี นอกจากนี้ ก็ยังจัดให้มีการประกวดทางด้านพืช และ สัตว์เศรษฐกิจ เพื่อแสดงความก้าวหน้าด้านการปรับปรุงพันธุ์   ได้แก่ การประกวดปลากัด การประกวดแพะและแกะ การประกวดผลไม้ การประกวดไม้ประดับ การประกวดกล้วยไม้ตัดดอก การประกวดผลไม้

การจัดงานเกษตรแฟร์ ในปีนี้ นับว่าเป็นการจัดยิ่งใหญ่ในโอกาสครบรอบ 80 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2 กุมภาพันธ์ 2566 และ หลังมหันตภัยโควิด ทำให้การจัดงานมีส่วนร่วมของนิสิต อาจารย์ บุคลากร ทุกคณะ สำนัก สถาบัน เต็มรูปแบบในปีนี้ มีร้านค้านิสิต 221 ร้าน (ชมรมกิจกรรมนิสิต 21 ร้าน / นิสิตทั่วไปรวมกลุ่มกัน อีก 200 ร้าน) ร้านอาหารนิสิต 15 สโมสรนิสิต  และ ทุกคณะสำนัก สถาบัน จัดแสดงผลงานและถ่ายทอดความรู้ ตลอดเส้นทางของการจัดงานเกษตรแฟร์  เป็นการพลิกฟื้นบรรยากาศการจัดงานเกษตรแฟร์แบบดั้งเดิมให้ทุกท่านได้มาสัมผัสผลงานนวัตกรรม สอบถามข้อมูลความรู้กันกับอาจารย์ และ นิสิตโดยตรง

นอกจากนี้ ยังสร้างบรรยากาศความเป็นนานาชาติของมหาวิทยาลัย และยกระดับงานเกษตรแฟร์สู่สากล คือการออกร้านของสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศ 11 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บาร์เรน บังคลาเทศ จีน ฝรั่งเศส ฮังการี เคนยา มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย และแอฟริกา นำสินค้าพื้นเมือง สินค้าท้องถิ่นมาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รวมถึง ศูนย์พืชผักโลก ก็มาร่วมจัดแสกงผลงานและลิตภัณฑ์ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน คณะเกษตร กำแพงแสน

อีกหน่วยงานสำคัญ คือกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรม ยังได้นำโครงการ U2T for BCG จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมาร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าและแสดงสินค้า ในโซน A ประตูพหลโยธิน ประมาณ 30 บูธ

“ในนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผมหวังว่า งานเกษตรแฟร์จะช่วยให้คนไทยและคนต่างประเทศมีความสุขมากขึ้น กับผลงานทางการเกษตร อุตสาหกรรม และอาหารของประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อย่างไรก็ตามขอให้ทุกท่านได้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร ของการจัดงานเกษตรแฟร์ ประจำปี 2566 และร่วมมือกันปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งด้านผู้จัดงาน ผู้ประกอบการร้านค้า และผู้มาชมงาน”  ดร.จงรัก กล่าว

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังเปิดโอกาสให้นิสิตต่างชาติที่กำลังศึกษาอยู่ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในทุกระดับการศึกษา มีส่วนร่วมจัดงานออกร้านและแสดงกิจกรรมได้ตามความถนัดและความสนใจ เช่น การขายอาหารประจำชาติ  การแสดงศิลปวัฒนธรรม ดนตรี นาฏศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละประเทศ โดยพื้นที่จัดงานของนิสิตต่างชาติอยู่ในโซน M ซึ่งส่วนหนึ่งของโซนร้านค้านิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่จัดไว้เป็นประจำทุกปีเพื่อให้นิสิตได้ฝึกประสบการณ์ในการทำงานเป็นทีม การเป็นผู้ประกอบการ การเป็นจิตอาสา และฝึกความอดทนในการทำงานจริง