สศท.6 เปิดผลศึกษา “นวัตกรรมระบบควบคุมคุณภาพน้ำอัจฉริยะ” เพิ่มประสิทธิภาพเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม

นางธีรารัตน์ สมพงษ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ภาคตะวันออกนับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตกุ้งขาวแวนนาไม จากข้อมูลของ สศก. ปี 2565 ภาคตะวันออก 7 จังหวัด (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ) มีพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม จำนวน 86,505 ไร่ ของพื้นที่เพาะเลี้ยงทั้งประเทศ ปริมาณผลผลิตรวม 96,060 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 1,110 กิโลกรัมต่อไร่ มีเกษตรกรผู้เลี้ยง 9,053 ราย แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันยังมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทั้งจากธรรมชาติและจากการจัดการของมนุษย์อย่างรวดเร็ว เกษตรกรจึงนำนวัตกรรม “ระบบควบคุมคุณภาพน้ำอัจฉริยะ” มาบริหารจัดการฟาร์มกุ้ง ส่งผลให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ และผลผลิตมีคุณภาพ

สศท.6 ได้ทำการศึกษาประสิทธิภาพเชิงเทคนิคและการเปลี่ยนแปลงผลิตภาพการผลิตจากการใช้ระบบควบคุมคุณภาพน้ำอัจฉริยะในการผลิตกุ้งขาวแวนนาไม ภาคตะวันออก โดยรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เกษตรกรกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ในพื้นที่รับผิดชอบ (ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา) จำนวนตัวอย่าง 56 ราย เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนของเกษตรกรที่ใช้นวัตกรรมระบบควบคุมคุณภาพน้ำอัจฉริยะในการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม เปรียบเทียบกับเกษตรกรทั่วไปที่ไม่ได้ใช้นวัตกรรมระบบควบคุมคุณภาพน้ำอัจฉริยะ ซึ่งสามารถเพาะเลี้ยงกุ้ง เฉลี่ย 4 เดือนต่อรอบการผลิต ส่วนใหญ่เลี้ยงกุ้งพันธุ์ CP และพันธุ์ Syaqua

ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรที่ใช้นวัตกรรมระบบควบคุมคุณภาพน้ำอัจฉริยะ มีต้นทุนการผลิต 214,178 บาทต่อไร่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 1,773 กิโลกรัมต่อไร่ต่อรอบการผลิต ผลตอบแทนเฉลี่ย 334,390 บาทต่อไร่ต่อรอบการผลิต ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 120,212 บาทต่อไร่ต่อรอบการผลิต ในขณะที่เกษตรกรทั่วไปที่ไม่ได้ใช้นวัตกรรมระบบควบคุมคุณภาพน้ำอัจฉริยะ มีต้นทุนการผลิต 220,697 บาทต่อไร่ต่อรอบการผลิต ได้ผลผลิตเฉลี่ย 1,577 กิโลกรัมต่อไร่ต่อรอบการผลิต ผลตอบแทนเฉลี่ย 282,273 บาทต่อไร่ต่อรอบการผลิต  ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 61,575 บาทต่อไร่ต่อรอบการผลิต ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบแล้วจะเห็นได้ว่าเกษตรกรที่ใช้นวัตกรรมระบบควบคุมคุณภาพน้ำอัจฉริยะ มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าร้อยละ 2.95 ได้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าร้อยละ 12.45 และมีผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) มากกว่าร้อยละ 95.23

สำหรับ “ระบบควบคุมคุณภาพน้ำอัจฉริยะ” คือการบริหารจัดการฟาร์มกุ้งที่เกษตรกรสามารถควบคุมและจัดการฟาร์มผ่านระบบ Application “HydroNeo” ซึ่งระบบนี้ช่วยในการตรวจสอบคุณภาพน้ำแบบเรียลไทม์ และควบคุมระบบเติมอากาศแบบอัตโนมัติ ช่วยให้เกษตรกรสามารถทราบค่าคุณภาพน้ำที่เหมาะสมในการเลี้ยงกุ้ง และสามารถควบคุมการทำงานของเครื่องตีน้ำเพื่อเติมอากาศได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้ช่วยประหยัดเวลา ลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ลดความเสี่ยงจากการสูญเสีย และลดแรงงานในการทำงาน สามารถจัดสรรจำนวนคนงานได้อย่างเหมาะสม และจากวิกฤตโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบทางลบต่ออุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไปทั่วทุกมุมโลก จึงเป็นจุดเร่งให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงกุ้ง โดยการลงทุนใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมมากขึ้น เพื่อพัฒนาฟาร์มเลี้ยงกุ้งของตนเองให้เป็นสมาร์ทฟาร์ม ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเกษตรมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรมาใช้

ท่านใดสนใจผลการศึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สศท.6 โทร. 038-351-261 หรืออีเมล [email protected]