เจียไต๋เปิดฟาร์มโชว์นวัตกรรมอัจฉริยะ ทำเกษตรให้เป็นเรื่องง่าย

บริษัท ดีแอลจี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด และ วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิก ผู้จัดงาน AGRICONNECT Conference & Exhibition 2023 งานเสวนาวิชาการด้านเกษตรระดับโลก นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย แนวปฏิบัติใหม่ๆที่ดีที่สุด ภายในงานมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร ผู้นำในอุตสาหกรรม นักวิจัย  และเกษตรกรกว่า 300 คนเข้าร่วมงานระหว่างวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2566 ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ

บริษัท ดีแอลจี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด และ วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิก ผู้จัดงาน AGRICONNECT Conference and Exhibition 2023  ได้จัดกิจกรรม Farm Visit เยี่ยมชมฟาร์มเจียไต๋ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566 โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร เกษตรกร รวมทั้งสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ  สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก   โดยผู้บริหารบริษัท เจียไต๋ จำกัด นำโดย ดร.วัลลภัช แก้วอำไพ ประธานบริหารด้านกลยุทธ์องค์กร และคุณรตา สุทธิมัณฑนกุล ผู้จัดการทั่วไปธุรกิจเทคโนโลยีการเกษตร  ให้การต้อนรับพร้อมนำเยี่ยมชมฟาร์ม

บริษัทเจียไต๋ จำกัด เป็นผู้บุกเบิกการค้าเมล็ดพันธุ์ผักรายแรกๆ ในประเทศไทยจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 100 ปี เจียไต๋ดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม เที่ยงตรง มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจเมล็ดพันธุ์ ธุรกิจปุ๋ย ธุรกิจผลิตภัณท์อารักขาพืช ธุรกิจผลสดและร้านอาหาร ธุรกิจอุปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่อการเพาะปลูก เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกร และผู้บริโภคทั่วโลก

ฟาร์มอินโน (ไทยแลนด์) เป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของเจียไต๋ในศตวรรษใหม่ ที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อพันธกิจของเจียไต๋ในการคิดค้น เสาะหาเทคโนโลยี และโซลูชั่นทางการเกษตร เพื่อนำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ในการแก้ปัญหาด้านเกษตรกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้เกษตรไทยแข่งขันได้ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตผลทางการเกษตร รวมถึงสร้างความมั่นคงทางอาหารให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

ดร.วัลลภัช แก้วอำไพ ประธานบริหารด้านกลยุทธ์องค์กร บริษัทเจียไต๋

ดร.วัลลภัช แก้วอำไพ ประธานบริหารด้านกลยุทธ์องค์กร บริษัทเจียไต๋ จำกัดกล่าวว่า  ปัจจุบันประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงวัย เกษตรกรส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 58 ปี จำนวนแรงงานภาคเกษตรมีน้อยกว่า 32%  บริษัทเจียไต๋จึงเปิดแบรนด์ธุรกิจใหม่ “ ฟาร์มอินโน (ไทยแลนด์)จำหน่ายและให้บริการโดรนเพื่อการเกษตรประสิทธิภาพสูง อุปกรณ์และเทคโนโลยีการเพาะปลูก อาทิ โรงเรือนอัจฉริยะ อุปกรณ์และระบบโรงเรือน รวมถึงการบริการหว่านปุ๋ยและพ่นของเหลวทางการเกษตร และแพลตฟอร์มชุมชนเกษตร สินค้าและบริการที่ช่วยทำให้การทำเกษตรกลายเป็นเรื่องง่าย ทันสมัย และยกระดับการเพาะปลูกของไทยในอนาคต ได้ผลิตผลที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

ผู้บริหารบริษัท เจียไต๋ จำกัด นำคณะศึกษาดูงาน ไปเยี่ยมชมสูตรสำเร็จการเพาะปลูกด้วยเทคโนโลยีการเกษตรประสิทธิภาพสูง ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรก้าวสู่เกษตรอัจฉริยะอย่างยั่งยืน  อาทิเช่น  โรงเรือนอัจฉริยะ ที่มีจุดเด่นเรื่องระบายอากาศ สูงโปร่ง โล่งสบาย ถ่ายเทความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชมูลค่าสูง (กัญชง-กัญชา) รวมทั้งพืชประเภทเถาเลื้อยที่ต้องการขึ้นค้าง เช่น แตงโม เมล่อน แคนตาลูป

ระบบโรงเรือนอัจฉริยะ สามารถป้องกันฝน แมลง และลดความเสี่ยงการเกิดโรคพืชต่างๆ โครงสร้างหลังคาที่โค้งช่วยเพิ่มพื้นที่ระบายอากาศด้านบน พร้อมติดตั้งระบบปรับอากาศ เช่น ระบบอีแวปโพเรชั่น (Evaporation) ระบบสแลนพรางแสง หรือระบบพัดลมดูดอากาศ เป็นตัวช่วยปรับอุณหภูมิให้กับพืช ส่วนระบบน้ำ ใช้แบบขาปักกระถางหัวน้ำหยด เพื่อให้น้ำเฉพาะจุดในแต่ละกระถาง

ภายในโรงเรือนอัจฉริยะ มีระบบ IOT (Internet of thing) ควบคุมและจัดการอุปกรณ์ภายในโรงเรือนผ่านมือถือ ง่ายๆแค่ปลายนิ้วสัมผัส ที่ผู้ปลูกสามารถกำหนดค่าต่างๆ เพื่อควบคุมความเข้มของแสง การให้ปุ๋ย ให้น้ำ ในระบบทูร ฟาร์ม โกรว์ ( Ture Farm Grow )  ระบบน้ำอัจฉริยะ   ที่ช่วยเกษตรกรใช้น้ำในการเพาะปลูกพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ สะดวกสบาย ควบคุมได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ เซนเซอร์ใหม่ ไม่เพี้ยน ปรับได้ตามชนิดดิน สามารถใช้งานได้ทั้งพืชไร่และพืชสวน  ทั้งแปลงแบบเก่าและแบบใหม่

สรุปข้อดีของการใช้โรงเรือนอัจฉริยะ คือ  ลดการใช้สารเคมี ทำให้ผลผลิตปลอดภัยจากสารตกค้าง  สามารถควบคุมสภาพแวดล้อม เช่น แสง ฝน และลม ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชดีกว่าสถานที่โล่งแจ้ง   ควบคุมแมลงศัตรูพืชรบกวนได้มากขึ้น สามารถใช้เป็นสถานที่เพาะเมล็ด อนุบาลต้นกล้า และขยายพันธุ์พืช

DJISmartFarmWeb เป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถจับคู่กับ Mavic 3 Multispectral เพื่อการตรวจสอบไร่นาและการฉีดพ่นพืชอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การประมวลผลภาพ การวางแผนภารกิจ ไปจนถึงการตรวจสอบ และประเมินจุดที่ปุ๋ยฉีดไม่ทั่วถึง เพื่อวางแผนการดำเนินงานอย่างตรงจุด แพลตฟอร์มแบบครบวงจรนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ฟาร์มอินโน (ไทยแลนด์) ได้นำเสนอโดรนเพื่อการเกษตรไร้คนขับ ประสิทธิภาพสูงจาก 2 บริษัทคือ  DJI และ XAG มุ่งเน้นการพัฒนาโดรนเพื่อการเกษตร หุ่นยนต์ รวมถึงเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับการเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะโดรนอัจฉริยะทั้งสองรุ่นของ XAG คือ โดรน XAG รุ่น P100   และ โดรน XAG รุ่น V40 สามารถบินหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ

คณะศึกษาดูงานได้ชมการสาธิตการบินโดรนเพื่อการเกษตรไร้คนขับ รุ่นโดรน XAG รุ่น V4 สะดวกสบาย ใช้งานง่าย ทรงพลังด้วยขนาดกะทัดรัด บรรจุถังพ่น สูงสุด 16 ลิตร ความเร็วสูงสุดในการทำงาน 29 กม./ชม. ความละเอียดของละอองฉีดพ่น 0.06 – 0.4 มิลลิเมตร รัศมีการฉีดพ่นกว้าง 5-10 เมตร บรรจุแบตเตอรี่ได้ครั้งละ 1 ก้อน ถังชาร์จระบายความร้อนด้วยน้ำ ระยะเรดาร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง 40 เมตร ระบบควบคุมการทำงานอัตโนมัติผ่านโทรศัพท์มือถือ

โดรนเกษตรที่อัพเกรดมาเพื่อเกษตรอัจฉริยะ อย่าง  โดรน XAG รุ่น P100  ตัวจริงเรื่องหว่าน – ฉีดพ่น บรรทุกได้เยอะ มีปริมาณความจุของถังหว่าน 40 กิโลกรัม และปริมาณความจุของถังพ่น 40 ลิตร ทำงานได้ไว 1 นาทีต่อไร่ ด้วยสามารถทำงานได้เร็วถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับการหว่าน อัตโนมัติ 100%  มีความละเอียดของละอองฉีดพ่น 0.06 – 0.4 มิลลิเมตร รัศมีการฉีดพ่นกว้างถึง 10 เมตร บรรจุแบตเตอรี่ได้ครั้งละ 2 ก้อน ถังชาร์จระบายความร้อนด้วยน้ำ ระยะเรดาร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง 0.5 – 100 เมตร ระบบควบคุมการทำงานอัตโนมัติผ่านโทรศัพท์มือถือ  ทั้งนี้ ผู้สนใจสินค้าและบริการ ของ ฟาร์มอินโน (ไทยแลนด์) สามารถเยี่ยมชมตัวอย่างสินค้าได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และสามารถติดตามข่าวสารฟาร์มอินโน เพิ่มเติมได้ทาง Facebook: FarmInno – Thailand www.facebook.com/FarmInnoThailand

ข่าวดี สำหรับกลุ่มคนรักการเกษตรที่รอคอยชมงานเจียไต๋แฟร์  ในปีนี้ บริษัทเจียไต๋ได้จับมือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เตรียมจัดงาน  “Chia Tai Field Day” ณ ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ ไร่สุวรรณ ตำบลกลางดง​ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อแสดงศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์พืช ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจเมล็ดพันธุ์ที่ส่งมอบความยั่งยืนทางอาหารให้กับผู้คนทั่วโลก ภายในงานเตรียมจัดแสดงนวัตกรรมเกษตร แปลงเพาะปลูกพืชไร่ พืชผัก ไม้ดอกนานาชนิดที่เจียไต๋มุ่งมั่นพัฒนาเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีส่งให้เกษตรกรไทยมายาวนานกว่าศตวรรษ คาดว่าจะสามารถเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมงานดังกล่าวได้ภายในปลายปี 2566 หรืออย่างช้า ต้นปี 2567