หนุ่มบุรีรัมย์ เลี้ยงแกะพร้อมตัดแต่งซาก ทำตลาดออนไลน์ มีกำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่า

ปัจจุบันการเลี้ยงแกะถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าจับตามอง เพราะการต่อยอดให้ได้มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงมีกำไรมากขึ้น ซึ่งการขายแบบชั่งกิโลแบบสมัยก่อนอาจยังไม่เพียงพอ จึงทำให้เกษตรในหลายพื้นที่ให้ความใส่ใจการทำตลาด โดยเฉพาะการตัดวงจรพ่อค้าคนกลางนำแกะที่เลี้ยงมาผ่านการแปรรูปเอง ช่วยทำให้ราคาต่อตัวได้ผลกำไรเป็นเท่าตัว

คุณอวิรุทธ์ กาละภักดี

คุณอวิรุทธ์ กาละภักดี เกษตรกรผู้เลี้ยงแกะจังหวัดบุรีรัมย์ มองเห็นถึงช่องทางการเลี้ยงแกะสร้างรายได้ พร้อมทั้งเรียนรู้ในเรื่องของการสร้างมูลค่าด้วยการแปรรูปส่งขาย สามารถทำตลาดได้กว้างขึ้นทุกๆ มิติ ตลอดจนมีการรวมกลุ่มให้มีความเข้มแข็ง ทำให้ไม่เกิดปัญหาเรื่องถูกกดราคา เพราะสามารถทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ไปพร้อมๆ

คุณอวิรุทธ์ เล่าว่า ทำงานประจำคือรับราชการ แต่ด้วยมีความชอบในเรื่องของการเลี้ยงสัตว์ จึงได้นำแกะมาทดลองเลี้ยงรอบบริเวณบ้าน เพราะมองว่าน่าจะทำเป็นอาชีพนอกเหนือจากงานหลักที่ทำอยู่ ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จ จากนั้นทำการขยายพันธุ์และเพิ่มจำนวนการเลี้ยงมากขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้

“ด้วยความที่เรารับราชการ จะมีเวลาว่างวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เลยมองว่าน่าจะหาสัตว์มาเลี้ยงเพื่อเป็นการเสริมรายได้มากขึ้น แกะในช่วงนั้นนำมาทดลองเลี้ยงประมาณ 5 ตัว ถือว่าไม่มีอะไรยุ่งยากใช้เวลาช่วงเช้าเย็นให้อาหาร และช่วงหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ได้มีเวลาดูอย่างเต็มที่ถือว่าประสบผลสำเร็จ ผลิตลูกออกมาสามารถขายได้ จึงตัดสินใจเลี้ยงมาเรื่อยๆ เป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินมาจนถึงทุกวันนี้ พร้อมทั้งต่อยอดในเรื่องของการแปรรูปขายเนื้อส่งขายให้กับร้านสเต๊กด้วย” คุณอวิรุทธ์ บอก

ชิ้นส่วนของเนื้อแกะ ที่ตัดแต่งซากเพิ่มมูลค่า

สายพันธุ์แกะที่เลี้ยงทั้งหมดเน้นเป็นแกะพันธุ์เนื้อ เพราะทำตลาดดูตามความนิยมของผู้บริโภค โดยการเลี้ยงจัดโซนให้เป็นระบบและมีระเบียบ ตั้งแต่การทำโรงเรือนนอนเพื่อหลบแดดและฝน สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือการมีแปลงปลูกหญ้าอาหารสัตว์เองเพราะจะช่วยลดต้นทุนในเรื่องของอาหารได้เป็นอย่างดี การเลี้ยงแกะให้มีคุณภาพที่ดีไม่ยุ่งยากต้องมีการจัดการและทำการเลี้ยงให้มีระบบ โดยในช่วงของวันจะปล่อยแกะเดินออกไปกินหญ้าในแปลงที่ปลูกไว้ และบางช่วงที่อากาศไม่เหมาะสมให้พักอยู่ภายในโรงเรือน การผสมพันธุ์จะเลือกอายุแกะเหมาะสมอยู่ที่ 7 เดือนขึ้นไป

“แกะสามารถผสมพันธุ์ได้ตั้งแต่อายุ 4 เดือน แต่ก็ยังอาจจะเด็กโตไม่เต็มที่ ระบบสืบพันธุ์ยังไม่สมบูรณ์ ผมเน้นที่อายุที่ 7 เดือนขึ้นไปมากกว่า ใช้วิธีการมาทำการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ โดยมีพ่อพันธุ์ที่มีอยู่ในฟาร์มผสมกับแม่พันธุ์ ซึ่งหลักการผสมระวังของเลือดชิด อย่านำสายเลือดเดียวกันมาผสมกัน เมื่อผสมพันธุ์ติดแล้ว รอตั้งท้องประมาณ 4-5 เดือน แม่แกะจะคลอดลูกออกมา จากนั้นดูแลจนกว่าขายได้” คุณอวิรุทธ์ บอก

การดูแลลูกแกะหลังคลอดในช่วง 1 เดือนแรก สามารถปล่อยให้อยู่ในบริเวณคอกที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นปล่อยทั้งแม่แกะและลูกออกมาเดินเล่นอยู่กับฝูง เพื่อหัดกินหญ้าและอยู่กับฝูงตามธรรมชาติ เมื่อลูกแกะเข้าสู่อายุประมาณ 2 เดือนครึ่ง จะให้หย่านมและกินหญ้าเป็นหลัก อาหารที่ใช้เลี้ยงแกะภายในฟาร์มในแต่ละวันให้กินหญ้าที่ปลูกไว้ หรือบางช่วงปล่อยให้เดินกินหญ้าเองเป็นการช่วยให้แกะออกกำลังกาย การมีแปลงหญ้าภายในฟาร์มช่วยในเรื่องของการประหยัดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี

“แกะค่อนข้างที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงง่าย ในเรื่องของการป้องกันโรคหลักๆ จะเน้นทำวัคซีนปากเท้าเปื่อยทุก 6 เดือนครั้ง และให้ยาถ่ายพยาธิทุก 2 เดือนครั้ง ผสมไปกับอาหารจะช่วยให้แกะทุกตัวได้ยาถ่ายพยาธิทั่วถึง ส่วนคอกจะดูแลทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งภายในโรงเรือนนอนต้องให้มีแสงและลมผ่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยให้โรงเรือนสะอาด เมื่อแกะเข้าพักอาศัยก็ทำให้ไม่เกิดโรค มีสุขภาพดี” คุณอวิรุทธ์ บอก

การทำตลาดขายแกะที่เลี้ยงทั้งหมดนั้น คุณอวิรุทธ์ เล่าว่า ไม่มีความกังวลในเรื่องนี้มากนัก เพราะตั้งแต่เลี้ยงมากำลังการผลิตแทบจะไม่พอขายเสียด้วยซ้ำ และยิ่งมีการสร้างกลุ่มที่เข้มแข็ง มีสมาชิกของกลุ่มผู้เลี้ยงแกะที่แลกเปลี่ยนข้อมูลและปัญหากันอยู่เสมอ จึงทำให้มีช่องทางการขายที่กว้างขึ้น พร้อมกับแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที เพราะการเลี้ยงแกะควรมีการสร้างกลุ่มที่ดีเพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

การอบรมต่างๆ ให้กับกลุ่ม

การขายแกะในปัจจุบันจะขายตั้งแต่ตัวโตเต็มวัยไปจนถึงแกะที่หย่านมใหม่ๆ ส่วนในเรื่องของการแปรรูปนั้นถือว่าสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้สามารถทำกำไรได้มากขึ้น โดยจะมีลูกค้าจากร้านสเต๊กติดต่อเข้ามาอยู่เป็นประจำ จึงทำให้สามารถส่งขายชิ้นส่วนเหล่านี้ได้ทันที ช่วยให้เกิดกำไรต่อตัวเพิ่มขึ้นกว่าการขายยกตัวชั่งกิโลกรัม

“ราคาแกะอายุ 3 เดือนหลังหย่านมแล้ว น้ำหนัก 20-25 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 110 บาท ส่วนแม่พันธุ์ที่ลูกค้าสามารถซื้อไปผสมพันธุ์ได้เลย อายุแกะประมาณ 1 ปี ราคาต่อตัวอยู่ที่ 6,500 บาท ส่วนการแปรรูปขายเป็นชิ้นส่วนแบบตัดแต่งซากต่างๆ ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 750-780 บาท ราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดและส่วนชิ้นส่วนของเนื้อนั้น ซึ่งการทำตลาดเดี๋ยวนี้ตลาดออนไลน์ก็ค่อนข้างช่วยได้มาก ทำให้ลูกค้าที่อยู่ไกลออกมาติดต่อเข้ามาซื้ออยู่เสมอ” คุณอวิรุทธ์ บอก

เมื่อเอ่ยถึงความสำเร็จและความสุขที่ได้จากการเลี้ยงแกะเสริมรายได้ คุณอวิรุทธ์ บอกว่า การเลี้ยงแกะสมัยก่อนมองว่าอาจจะเป็นเพียงการเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมเท่านั้น แต่เมื่อได้เลี้ยงมาเรื่อยๆ และมีการจัดการที่ดี ผลตอบแทนสามารถทำเป็นอาชีพหลักได้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นสำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะเลี้ยงแกะ สิ่งที่ต้องมีก่อนนั้นคือใจรัก ต่อมาจะเป็นในเรื่องของการอย่าหยุดที่จะพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อให้การเลี้ยงมีความเข้มแข็งได้มาตรฐานอยู่เสมอก็จะช่วยให้ฟาร์มได้รับความเชื่อถือจากลูกค้า

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะเลี้ยงแกะหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งในเรื่องของการเลือกสายพันธุ์และการเพิ่มมูลค่าจากการตัดแต่งซากเนื้อแกะ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอวิรุทธ์ กาละภักดี ฟาร์มตั้งอยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 7 ตำบลกระสัง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ หมายเลขโทรศัพท์ 093-052-9405, 089-050-1138