| ที่มา | รายงานพิเศษ 7 สายพันธุ์ ไก่เศรษฐกิจ ทำเงิน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ดาหวัน |
| เผยแพร่ |
ไก่เบตง เป็นไก่พันธุ์เนื้อพื้นเมือง ที่นำพันธุ์มาจากมณฑลกวางไส ประเทศจีน ในอดีตที่ชาวจีนได้อพยพมาปักหลักถิ่นฐานที่อำเภอเบตง และได้นำไก่พันธุ์นี้มาเลี้ยงจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายมาถึงปัจจุบัน ไก่เบตงถือว่าเป็นไก่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอเบตง
จนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเบตง หากใครก็ตามที่ได้มาเป็นต้องมาแวะลิ้มลองความอร่อยของเมนูจากไก่เบตงพันธุ์แท้ อย่างข้าวมันไก่เบตง ไก่สับเบตง ไก่เบตงตุ๋นยาจีน ไก่เบตงคั่วเค็ม ฯลฯ ที่มีเนื้อเหนียวนุ่ม หนังกรอบ และที่สำคัญไก่เบตงเป็นไก่ที่ไร้ไขมัน จึงเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักชิมจากทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมไก่เบตงถึงมีราคาสูงกว่าไก่ชนิดอื่นๆ แต่ถึงแม้ไก่เบตงจะมีราคาที่สูง แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดเสมอมา เนื่องจากการเลี้ยงไก่เบตงยังไม่เป็นที่นิยมของเกษตรกร เพราะด้วยระยะเวลาในการเลี้ยงไก่เบตง ต้องใช้ระยะเวลามากกว่าการเลี้ยงไก่ปกติ ไก่เบตงที่สามารถขายได้ต้องมีอายุ 5-6 เดือน ทำให้ระยะเวลาการเลี้ยงนานกว่าไก่ปกติ แต่ก็ได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า เพราะไก่เบตงสามารถจำหน่ายได้ถึง 370 บาทต่อกิโลกรัม
คุณธนวัฒน์ รัศมีพิไล หรือ คุณสมบัติ อยู่บ้านเลขที่ 35/1 ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรเพาะเลี้ยงไก่เบตงระบบฟาร์ม อาศัยอยู่ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา คุณธนวัฒน์ กล่าวว่า เริ่มแรกนั้นตนเองเคยเลี้ยงไก่เบตงเมื่อปี พ.ศ. 2544 แต่ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทำให้ฟาร์มไก่เบตงแห่งนี้ต้องปิดตัวลง เพราะด้วยในตอนนั้น ตลาดของไก่เบตงไม่ดี ทำให้ขายผลผลิตไม่ได้
แต่คุณธนวัฒน์ไม่ยอมแพ้ความตั้งใจนี้ ในปี พ.ศ. 2560 ได้มีโครงการทำฟาร์มไก่เบตงของทางปศุสัตว์ จังหวัดยะลา มานำเสนอคุณธนวัฒน์ให้เข้าร่วมกลุ่มในโครงการนี้ เนื่องด้วยคุณธนวัฒน์มีความสนใจและความตั้งใจการทำฟาร์มไก่เบตงอยู่แล้ว จึงได้ตอบตกลงและเข้าร่วมโครงการนี้
คุณธนวัฒน์ ให้เหตุผลว่า ที่ตนเองอยากเลี้ยงไก่เบตงมาจากความคิดที่เพียงต้องการปุ๋ยคอกจากขี้ไก่ จนกลายเป็นการศึกษาหาข้อมูลแล้วมาเจอไก่เบตง ที่ทำให้ชื่นชอบด้วยจุดเด่นและความเป็นเอกลักษณ์ของไก่เบตง ทำให้ความตั้งใจยังแน่วแน่ ถึงแม้เมื่อปี พ.ศ. 2544 จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่การกลับมาทำอีกครั้งในปี พ.ศ. 2560 ทำให้นำข้อผิดพลาดในอดีตมาปรับแก้ไขให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ปัจจุบันคุณธนวัฒน์เพาะเลี้ยงไก่เบตงระบบฟาร์มที่สามารถเพาะพันธุ์ได้เอง จำหน่ายเอง และยังมีการขยายฟาร์มให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
ไก่เบตงพันธุ์แท้ต้องมีหงอนสีแดงสด ขนสีเหลืองทอง บั้นท้ายตัด คอและขาแข็งแรง ไก่ตัวเล็กมีขนน้อย ไก่ตัวโตเต็มที่ตัวผู้น้ำหนักโดยประมาณอยู่ที่ 2.5-4 กิโลกรัม ตัวเมียน้ำหนักโดยประมาณอยู่ที่ 2-3 กิโลกรัม ปัจจุบันราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 370-390 บาท
ฟาร์มไก่เบตงของคุณธนวัฒน์ได้ถูกเลือกให้เป็นวัตถุดิบขึ้นเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารของการประชุมเอเปค 2022 โดยนำเสนอในเมนูไก่กอและจากร้านครัวคุณชาย ภายใต้มาตรฐานที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง และวิธีการเลี้ยงอย่างพิถีพิถัน ที่ใส่ใจทุกขั้นตอน และระบบการเลี้ยงแบบอินทรีย์ จึงทำให้ฟาร์มไก่เบตงแห่งนี้มีชื่อเสียงที่และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค
โรงเรือน
โรงเรือนฟาร์มไก่เบตงของเราจะเลี้ยงระบบขึ้นกรง โดยใช้กรงตับเลี้ยงไก่จะมีขนาดอยู่ที่ช่องละ 60x60 เซนติเมตร สามารถเลี้ยงไก่ได้ 4-5 ตัว ข้อดีของการเลี้ยงระบบขึ้นกรง โรงเรือนสะอาด มูลสัตว์ตกลงพื้น ง่ายต่อการทำความสะอาดในทุกๆ วัน จำนวนไม่หนาแน่น ทำให้ไก่ไม่เครียด ไม่จิกหรือตีกัน ส่งผลให้ผิวไก่มีความสวยและขายได้ราคาดี นอกจากนี้ การเลี้ยงระบบขึ้นกรงยังสามารถควบคุมปริมาณอาหารได้อีกด้วย
การผสมพันธุ์
โดยปกติแล้วพ่อแม่พันธุ์สามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี เพราะทางฟาร์มเลี้ยงด้วยวิถีธรรมชาติ ตัวผู้และตัวเมียสามารถอยู่รวมกันได้ ไก่เบตงจะออกไข่ในทุกๆ วัน ดังนั้น ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องเก็บไข่ออกจากกรงในทุกวัน
การฟักไข่
เมื่อเก็บไข่แล้ว จำเป็นต้องเอาไข่เข้าตู้ฟักภายใน 5 วัน หรือไม่เกิน 7 วัน เพราะหากนานกว่านี้จะทำให้เชื้อตายได้ ตู้ฟักจะมีอุณหภูมิ 37-38 องศาเซลเซียส ไข่จะใช้ระยะเวลาการฟักเป็นตัวออกมาประมาณ 21 วัน เมื่อฟักออกจากไข่แล้ว จำเป็นต้องอยู่ในตู้ฟักอีก 1 วัน เมื่อครบ 22 วัน ก็สามารถนำออกจากตู้ฟักมาอนุบาลต่อได้
อาหาร
อาหารสำหรับลูกไก่แรกเกิด จะให้เป็นอาหารไก่สำเร็จรูปโปรตีนสูง ให้ตั้งแต่แรกเกิดจนอายุครบ 2 เดือน เมื่อไก่มีอายุ 2 เดือนขึ้นไป จะให้ปลายข้าวหุงสุก ข้าวโพดป่น พืชผักในท้องถิ่นที่หาได้ และหญ้า นำมาผสมกับอาหารไก่สำเร็จรูป นอกจากนี้ ยังมีการให้อาหารเสริมด้วยจุลินทรีย์ที่สามารถหาได้จาก นมเปรี้ยว น้ำมะพร้าว ข้าวหมาก เป็นต้น จุลินทรีย์เหล่านี้ไร้สารเคมีไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายผู้บริโภค เมื่อไก่ได้กินจุลินทรีย์เหล่านี้ ส่งผลให้แข็งแรง บำรุงเนื้อหนัง ทำให้เนื้อหวานหอม
โรคและข้อควรระวัง
ไก่เบตงค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคฝีดาษ เพราะขนแท้จะขึ้นช้ามากกว่าไก่ปกติ โดยประมาณแล้วขนแท้จะขึ้นใน 2-4 เดือน ทำให้โดนยุงกัดได้ง่าย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมุ้งกันยุงและแมลงภายในกรงหรือภายในโรงเรือน เพื่อป้องกันการเกิดโรคฝีดาษ
ในปัจจุบันต้องบอกว่าตลาดไก่เบตงแท้เป็นที่ต้องการอย่างมาก เนื่องด้วยยังมีเกษตรกรผู้เลี้ยงน้อย ทำให้ไม่เพียงพอต่อผู้บริโภคมากนัก สิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคต่างก็หลงใหลในรสชาติของไก่เบตงนั้น เพราะเนื้อสัมผัสที่แตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์ รสชาติหวาน และความหอม ที่แม้จะนำไปแปรรูปเป็นอาหารชนิดไหนก็ยังคงคุณค่าทางรสชาติไว้ได้อย่างเป็นเอกลักษณ์
ราคาไก่เบตงเกษตรกรผู้เลี้ยงสามารถปรับราคาขายได้ตามราคาซื้ออาหารไก่ รับรองว่าคุ้มทุนและได้กำไรอย่างแน่นอน ปัจจุบันตลาดของทางฟาร์มมีทั้งตลาดอำเภอเบตง และจัดส่งทั่วประเทศ โดยราคาตอนนี้สำหรับไก่เบตงที่ชำแหละแล้วพร้อมประกอบอาหาร อยู่ที่กิโลกรัละ 370 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง)
“การทำเพาะเลี้ยงไก่เบตงระบบฟาร์ม ถือเป็นการลงทุนที่สูง ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรศึกษาหาข้อมูลให้ครบรอบด้านเพื่อลดความเสี่ยง หากชื่นชอบและสนใจจริงแล้ว ทดลองเลี้ยงแบบพอเพียงเพื่อบริโภคภายในครัวเรือนก่อน หากการเลี้ยงในครัวเรือนเพียงพอแล้ว ผลผลิตที่เหลือสามารถนำไปขายได้ แต่หากจะเลี้ยงเป็นระบบฟาร์มควรศึกษาหาตลาดรองรับได้อย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต”
สำหรับท่านใดที่สนใจ เนื้อไก่เบตงแท้ ไข่เชื้อไก่เบตงแท้ ลูกไก่เบตงแท้ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณธนวัฒน์ รัศมีพิไล หรือ คุณสมบัติ บ้านเลขที่ 35/1 ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โทรศัพท์ 088-388-0668 สามารถติดตามการเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก : ไก่เบตงแท้ ฟาร์มบ่อน้ำร้อนไก่เบตง
