“เกษตรฯ” ดันไทยฮับข้าวอินทรีย์อาเซียน

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมชี้แจงโครงการเชื่อมโยงตลาดสินค้าข้าวอินทรีย์ และข้าวจีเอพีครบวงจร ณ จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ได้ประชุมร่วมกับ

ผู้ว่าราชการจังหวัด เกษตรและสหกรณ์ เกษตรจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด จาก 6 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ ยโสธร และบุรีรัมย์ เพื่อเชื่อมโยงตลาดรองรับผลผลิตข้าวอินทรีย์ของโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์และข้าวจีเอพี ของโครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) เพื่อให้เกษตรกรสามารถขายข้าวซึ่งอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนเป็นอินทรีย์ ข้าวที่ได้การรับรองมาตรฐานออร์แกนิคไทยแลนด์ และข้าวจีเอพี ได้ในราคาสูงขึ้นสอดคล้องกับคุณภาพ โดยมีเป้าหมายให้ปีการผลิต 2560-2564 เกษตรกรสามารถขายข้าวเปลือกของโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ได้ไม่น้อยกว่า 594,000 ตัน และข้าวเปลือกจีเอพีของโครงการนาแปลงใหญ่ ไม่น้อยกว่า 10.30 ล้านตัน

“จะมีการจับคู่กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์และข้าวจีเอพี กับผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการ และลงนามทำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ซื้อขายผลผลิตข้าวจากโครงการ ซึ่งผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการ สามารถไปขอสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) จากธนาคารที่ร่วมโครงการ โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย 3% ต่อปี และธนาคารอาจสมทบชดเชยดอกเบี้ย 1% ต่อปี ขณะที่ผู้ประกอบการค้าข้าวอินทรีย์ จะได้รับการชดเชยดอกเบี้ยระยะเวลา 3 ปี ส่วนผู้ประกอบการค้าข้าวจีเอพี ได้รับการชดเชยดอกเบี้ยระยะเวลา 1 ปี” นางสาวชุติมา กล่าวและว่า

ทั้งนี้ ภายในปีการผลิต 2564 ไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิตข้าวคุณภาพของอาเซียน

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน