เกษตรกรยุคใหม่ ยกระดับแปรรูป “มะนาวโห่” ผลไม้ในตำนาน ช่วยบำบัดสารพัดโรค สู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

พลิกวิกฤตเป็นโอกาสของคุณพ่อศิริ โดยก่อนหน้านี้คุณพ่อศิริมีปัญหาทางด้านสุขภาพ ป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่ แต่เมื่อคุณพ่อศิริได้ทานสมุนไพรมะม่วงหาว มะนาวโห่เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จนอาการดีขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นรวบรวมสายพันธุ์นำมาปลูกที่สมุทรสงคราม จนกลายเป็นธุรกิจครบวงจรของเกษตรกรยุคใหม่ เป็นศูนย์การเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยงเชิงเกษตร

owner

คุณทสม์ เจริญช่าง เจ้าของสวนมะนาวโห่ลุงศิริ ต่อจากรุ่นคุณพ่อ คุณทสม์ เล่าว่า “ถ้ามองย้อนไปในช่วง 12 ปีก่อน ขณะที่คุณทสม์ยังศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจอยู่นั้น ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จึงใช้สวนมะนาวโห่ของคุณพ่อเป็นกรณีศึกษา จึงได้เริ่มปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันสวนของครอบครัวพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และปลูกมะม่วงหาว มะนาวโห่ แบบเกษตรอินทรีย์ บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

Carissa carandas

ผลไม้ชนิดนี้มีชื่อว่า “มะม่วงหาว มะนาวโห่” เรียกได้ว่ามีหลากหลายชื่อเลยทีเดียว บางคนก็เรียกว่า “หนามแดง” บางก็เรียกว่า “มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่” ซึ่งหลายๆ คนอาจจะได้ยินเรื่องเล่าจากวรรณคดี ปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยเรื่อง “พระรถเมรี” หรือนางสิบสอง ซึ่งกล่าวถึงผลไม้ชนิดหนึ่ง มีรสเปรี้ยวจัด หากกำลังง่วงนอน เมื่อทานเข้าไปแล้วก็จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันที จึงเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ไม้แปลกๆ ชนิดนี้

สายพันธุ์ของมะม่วงหาว มะนาวโห่ มีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ หนามแดง จะมีลักษณะเป็นลูกสีแดง และอีกสายพันธุ์ หนามพรม จะมีลักษณะเป็นลูกสีเขียว แต่เมื่อสุกผลของทั้งสองสายพันธุ์จะมีลักษณะเป็นสีม่วงเข้มถึงดำ รสชาติของผลดิบ มันจะมีความเปรี้ยวนำ แล้วก็มีฝาดเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นผลสุกจะมีความเปรี้ยวอมหวานเหมือนทานพวกลูกหม่อน เป็นผลไม้ที่เรียกได้ว่าเป็นเบอร์รี่ดีๆ ของไทยที่มีสารต้านมะเร็งอีกด้วย

สำหรับต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่ มักนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีดอกและผลที่สวยงาม และออกดอกตลอดปี ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด ฉะนั้นปลูกให้โดนแดดเต็มวันได้ และต้องมีการระบายน้ำที่ดีด้วย เพราะเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อยมาก แต่ถ้าในช่วงฤดูกาลที่ออกผลต้องให้น้ำ ไม่งั้นลูกจะเล็ก ลูกจะไม่สวย ส่วนปุ๋ยที่ใช้เป็นปุ๋ยมูลสัตว์ทั้งหมด เนื่องจากทางสวนจะไม่ใช้สารเคมี หลังจากได้ทดลอง ถ้าใช้เป็นมูลสัตว์จะทำให้ผลไม้มีรสชาติที่ดี แต่ถ้าใช้สารเคมี รสชาติของผลไม้จะออกฝาด ออกขมชัด

ฤดูกาลของมะม่วงหาว มะนาวโห่ จะเริ่มแก่เมื่อมีอายุได้ 100-110 วัน หลังจากติดผล จากนั้นจะเริ่มสุก สังเกตได้ว่าผลจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีม่วงเข้ม รวมเวลาแล้วประมาณ 120 วันหลังติดผล ซึ่งควรเก็บผลไว้ในที่ร่ม โดยสามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 1 สัปดาห์ ข้อจำกัดของมะม่วงหาว มะนาวโห่ที่ไม่เหมือนผลไม้อื่นคือ มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็นผลไม้ที่จะต้องสุกบนต้นเท่านั้น ถ้าเด็ดหรือตัดผลที่สีขาวๆ แดงๆ ออกจากต้น จะไม่สามารถสุกต่อได้ 

คุณทสม์เล่าถึงสาเหตุที่ทำเกษตรเชิงเดี่ยว ที่เลือกปลูกแต่มะม่วงหาว มะนาวโห่เพียงอย่างเดียว ด้วยประโยชน์ของต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนตั้งแต่ ลำต้น ใบ ดอก ผล และที่สำคัญ “เจ้ามะม่วงหาว มะนาวโห่เป็นเหมือนเบอร์รี่ชนิดหนึ่ง” ซึ่งทำให้เพิ่มมูลค่าจากสมุนไพรในวรรณคดีกลายเป็นผลไม้สากลที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกวัย จากการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม แบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ สินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าของฝาก และสินค้าของขวัญ 

สำหรับการตลาดที่สวนมะนาวโห่ลุงศิริ คุณทสม์ทำเป็นโมเดลธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยที่ต้นน้ำมีการปลูกและทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร กลางน้ำทำเรื่องของการแปรรูปที่มีความหลากหลาย ส่วนสุดท้ายปลายน้ำเป็นช่องทางการจัดจำหน่าย พัฒนาหน้าสวนเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีร้านฟาร์มแอนด์คาเฟ่ที่เป็นขนม เครื่องดื่ม แล้วก็เปิดรับนักท่องเที่ยวทั้ง walk in และก็กรุ๊ปทัวร์

สำหรับเกษตรกรมือใหม่ คุณทสม์มองว่าที่จริง ตัวเราเองมีทรัพยากรที่ค่อนข้างดี แนวคิดที่นำมาใช้จะใช้เป็นแนวคิด Key word 3 คำ สั้นๆ คือ ติดตัว ต่อเติม เติบโต ติดตัวก็คือพืชเกษตรที่มีอยู่แล้ว ต่อเติมมาใส่ความคิดสร้างสรรค์เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มสู่การเติบโตแบบยั่งยืน

มะม่วงหาว มะนาวโห่ นับว่าเป็นผลไม้ที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่รักสุขภาพเป็นอย่างมาก ปัจจุบันต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่ นิยมปลูกกันมาก เพราะมีการเผยแพร่สรรพคุณทางยาในการช่วยซ่อมแซมร่างกาย และช่วยรักษาโรคได้แทบทุกชนิด ทำให้หลายๆ คนหาซื้อมาปลูกตามบ้านเรือน เพื่อไว้ทานรักษาสุขภาพให้กับคนในครอบครัวมีสุขภาพที่ดี

หากสนใจศึกษา เรียนรู้กิจกรรมต่างๆ ที่ทำจากมะนาวโห่ และวิธีการปลูก ต่อยอดอาชีพ แปรรูปสร้างรายได้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เฟซบุ๊ก : มะม่วงหาวมะนาวโห่ สวนมะนาวโห่ลุงศิริ เปิดบริการตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็น ร้านหยุดทุกวันพฤหัสบดี ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาเพียงแค่ 9 กิโลเมตร สอบถามเพิ่มเติมด้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 080-566-5124

#สวนมะนาวโห่ลุงศิริ #สมุทรสงคราม #คาเฟ่สมุทรสงคราม #มะม่วงหาวมะนาวโห่ #มะนาวโห่ #เทคโนโลยีชาวบ้าน