ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
---|---|
เผยแพร่ |
แกะ เป็นอีกหนึ่งสัตว์เศรษฐกิจที่กำลังได้รับความนิยมในการสร้างรายได้ เพราะนอกจากทำตลาดเพื่อจำหน่ายเนื้อแล้ว ยังผลิตลูกพันธุ์ดีได้อีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งแกะถือว่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย การดูแลไม่ยุ่งยาก จึงทำให้เป็นที่สนใจของเกษตรกรในหลายพื้นที่ที่ต้องการมีรายได้เสริม โดยสามารถเลี้ยงควบคู่กับการทำงานประจำได้ เหมือนเช่น คุณชญาดล พลายเมือง หรือ คุณบอม ที่ได้สนใจในเรื่องของการเลี้ยงแกะโดยเน้นผลิตลูกพันธุ์จำหน่าย พร้อมทั้งเลี้ยงแบบลดต้นทุนช่วยให้มีผลกำไรมากขึ้น
คุณบอม เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนทำงานเป็นวิศวกร แต่ด้วยเหตุผลที่ว่าคุณพ่อคุณแม่มีอายุมากขึ้น ทำให้ต้องกลับมาอยู่บ้านเพื่อสานต่อในเรื่องงานเกษตรที่ทำอยู่ ซึ่งการทำเกษตรมีตั้งแต่ปลูกพืชที่เป็นของเดิมอยู่แล้ว ต่อมาเขาได้นำแกะเข้ามาเลี้ยงเพราะมองเห็นถึงความมั่นคงทางรายได้ เพราะตลาดมีความต้องการแกะอยู่เสมอ จึงได้ไปเรียนรู้การเลี้ยงจากสมาชิกท่านอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญก่อนที่จะนำมาปฏิบัติจริงในพื้นที่ของเขาเอง
“พอเรียนรู้จนเข้าใจการเลี้ยงแล้ว ผมก็ได้นำเข้ามาทดลองเลี้ยงประมาณ 10 ตัว เพราะมีคนเขาแนะนำมาว่าไม่ควรเลี้ยงเยอะถ้าเริ่มในช่วงแรก ทดลองประมาณ 1 ปี แกะทั้งหมดที่เลี้ยงไม่ตายเลย จากนั้นก็ขยับขยายการเลี้ยงเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งเข้ารวมกลุ่มกับคนเลี้ยงแกะอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้นอกจากการเลี้ยงของเราที่เข้มแข็งแล้ว กลุ่มก็ยังช่วยให้เรามีที่ปรึกษาที่ดี สามารถสอบถามได้ หากการเลี้ยงของเราประสบปัญหาต่างๆ” คุณบอม บอก
โดยการเลี้ยงจะแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ตั้งแต่การสร้างโรงเรือนนอนตลอดไปจนถึงการแบ่งพื้นที่ปลูกหญ้าอาหารสัตว์เองประมาณ 4 ไร่ เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตไปในตัว ซึ่งขนาดของโรงเรือนกว้าง 6×20 เมตร สูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร ก็จะช่วยให้แกะอยู่ได้อย่างสบายขึ้น พร้อมกันนี้ในพื้นที่ยังสร้างโรงเรือนไว้สำหรับคัดแยกแกะที่ซื้อเข้ามาเพื่อกักกันโรคด้วย
การผสมพันธุ์แกะภายในฟาร์มจะใช้แกะที่มีอายุตั้งแต่ 8 เดือน จนถึง 1 ปี โดยใช้ตัวผู้ 1 ตัว คุมฝูงตัวเมียอยู่ที่ 20 ตัว หลังผสมพันธุ์เรียบร้อยแล้วรอแม่พันธุ์ตั้งท้องประมาณ 5 เดือน จากนั้นปล่อยลูกแกะให้อยู่กับแม่ประมาณ 4-5 เดือน ก็จะได้ช่วงหย่านมและสามารถจำหน่ายลูกแกะในระยะนี้
“ช่วงแม่ลูกอ่อนคลอดออกมาใหม่ๆ เราก็จะจับไปแยกไว้ในคอกที่เตรียมไว้ ให้อยู่แบบนี้ 2-4 อาทิตย์ ถ้าลูกแกะที่อยู่กับแม่มีความสมบูรณ์แล้ว ก็จะปล่อยแยกออกมาให้อยู่กับฝูง พร้อมทั้งให้กินอาหารที่เป็นหญ้าที่เราเตรียมไว้ ส่วนอาหารเสริมที่เป็นอาหารข้นจะให้แม่พันธุ์ให้นมลูกกินเท่านั้น ส่วนแกะตัวอื่นๆ ก็จะกินหญ้าและฟางเป็นหลัก เพราะหญ้าเราปลูกไว้เองก็จะช่วยในเรื่องของประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างดี” คุณบอม บอก
สำหรับการป้องกันโรคให้กับแกะภายในฟาร์ม ในเรื่องของการดูแลสุขภาพสัตว์จะมีการทำความสะอาดในโรงเรือนนอนอยู่เสมอ พร้อมทั้งทำวัคซีนป้องกันปากเท้าเปื่อยให้กับแกะปีละ 1 ครั้ง พร้อมกับถ่ายพยาธิให้ปีละ 2 ครั้ง ทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำก็จะช่วยให้แกะทั้งหมดในฟาร์มมีความแข็งแรง
การทำตลาดเพื่อจำหน่ายแกะภายในฟาร์ม คุณบอม บอกว่า จะเน้นผลิตลูกพันธุ์จำหน่ายเป็นหลัก เพราะตลาดค่อนข้างมีความต้องการเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านี้ในเรื่องของการจำหน่ายเป็นแกะขุนก็สามารถทำได้ เพราะแกะที่เลี้ยงหากเจอตัวไหนที่ทรงไม่สวยไม่สามารถนำไปเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ ก็จะจำหน่ายเป็นแกะเนื้อเข้าโรงชำแหละ ซึ่งการหาตลาดที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือการทำตลาดออนไลน์ พร้อมทั้งการที่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มก็ช่วยในเรื่องของการตลาดได้เป็นอย่างดี
ราคาจำหน่ายแกะตัวเมียที่พร้อมเป็นแม่พันธุ์ได้หลังหย่านมแล้ว ราคาต่อตัวอยู่ที่ 4,500-5,000 บาท แต่ถ้าเป็นแม่พันธุ์อุ้มท้องแล้วราคาต่อตัวอยู่ที่ 6,000 บาท ส่วนตัวผู้ที่ไม่จำหน่ายเป็นพ่อพันธุ์หลังหย่านมแล้ว มีอายุอยู่ที่ 5-8 เดือน และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 20-30 กิโลกรัม จะจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-110 บาท
“แกะจากประสบการณ์ที่ผมเลี้ยงมา ถือว่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายที่สุด และราคาการรับซื้อก็ยังดีอยู่ ก็อยากจะแนะนำคนที่อยากเลี้ยงว่า หญ้าอาหารสัตว์เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด ต้องมีการเตรียมปลูกเอาไว้ เพื่อที่จะลดต้นทุนได้ ส่วนการหาซื้อแกะตัวอื่นๆ เข้ามาเลี้ยงภายในฟาร์มต้องดูตัวที่แข็งแรงไม่มีโรคติดมา จากนั้นเริ่มต้นเลี้ยงแต่น้อยก่อน ให้เรามีความชำนาญและหาประสบการณ์จากการเริ่มต้นน้อยๆ นี้ก่อน พอมีผลกำไรก็ค่อยขยับขยายเพื่อพัฒนาการเลี้ยงต่อไปเรื่อยๆ การเลี้ยงแกะก็จะเป็นอาชีพที่มั่นคงได้ไม่ยาก” คุณบอม บอก
สำหรับท่านใดสนใจในเรื่องของการเลี้ยงแกะ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ คุณชญาดล พลายเมือง หรือ คุณบอม อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 11 ตำบลไพศาล อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ หรือทางหมายเลขโทรศัพท์ 063-896-5691