ซ่อนกลิ่น ดอกไม้โบราณ หอมรัญจวน ตลาดอุตสาหกรรมน้ำหอมต้องการ

ซ่อนกลิ่นเป็นดอกไม้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความหอมรัญจวนใจ ในตำราอายุรเวชของอินเดียนั้นระบุไว้ว่า กลิ่นหอมของซ่อนกลิ่นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองซีกขวา ซึ่งมีส่วนในเรื่องของจินตนาการหรือการสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย เหมาะกับผู้ที่มีอาการซึมเศร้า หดหู่ เนื่องจากจะช่วยให้รู้สึกมั่นใจและกระตุ้นให้อยากใช้ชีวิตอย่างสุนทรีย์มากขึ้นกว่าเดิม

ดอกซ่อนกลิ่น

ด้วยสรรพคุณอันมากมาย กลิ่นหอมของซ่อนกลิ่นจึงกลายเป็นของล้ำค่าในอุตสาหกรรมน้ำหอม แต่ความที่เป็นดอกไม้ซึ่งช้ำง่ายและไม่อาจสกัดได้ด้วยความร้อน การผลิตหัวน้ำมันหอมของซ่อนกลิ่นจึงต้องใช้กรรมวิธีการสกัดในน้ำมันเย็นแบบโบราณซึ่งใช้เวลานานมาก โดยดอกซ่อนกลิ่นจำนวน 3,600 กิโลกรัม จะผลิตหัวน้ำมันหอมระเหยได้เพียงแค่ 1 กิโลกรัมเท่านั้น น้ำมันหอมจากซ่อนกลิ่นจึงถือเป็นของเลอค่าซึ่งมีแค่ผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์เท่านั้นที่ใช้

แปลงดอกซ่อนกลิ่น

ซ่อนกลิ่นเป็นไม้ดอกพื้นถิ่นอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในเม็กซิโก ที่มาของดอกซ่อนกลิ่นในประเทศไทย ไม่มีบันทึกที่แน่นอนว่าถูกนำเข้ามาเมื่อไหร่ แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นช่วงก่อนสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เนื่องจากปรากฏข้อความในบันทึกประวัติศาสตร์ธรรมชาติและการเมืองแห่งราชอาณาจักรสยาม โดย บาทหลวงนิโกลาส์ แชร์แวส ซึ่งเดินทางเข้ามาในยุคนั้นเป็นผู้บันทึกเอาไว้ มีใจความตอนหนึ่งว่า “ดอกซ่อนกลิ่นที่ปลูกในกรุงศรีอยุธยานี้ มีกลิ่นหอมเย็นกว่าที่ปลูกในฝรั่งเศสมาก”

คุณเบญจวรรณ รัตพลที หรือ คุณเล็ก

คุณเบญจวรรณ รัตพลที หรือ คุณเล็ก อาศัยอยู่หมู่ที่ 3 บ้านหนองหญ้าข้าวนก ตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น ทำอาชีพเป็นเกษตรกรผู้ปลูกไม้ดอกซ่อนกลิ่น ซึ่งทำร่วมกับ คุณศุภมงคล เลขกระโทก (สามี) สวนซ่อนกลิ่นแห่งนี้ เริ่มต้นจากพื้นที่เพียง 180 ตารางวา ลงทุนซื้อต้นพันธุ์จำนวน 20 กอ ในราคากอละ 200 บาท เมื่อในอดีต ปัจจุบันสวนซ่อนกลิ่นแห่งนี้เกิดขึ้นมาแล้วถึง 7 ปี เป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดี ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น และมีลูกสวนถึง 30 คน รวมแล้วประมาณ 100 สวนที่ปลูกดอกซ่อนกลิ่น

คุณเบญจวรรณ กล่าวว่า เริ่มแรกที่ทำให้ก้าวเข้าสู่อาชีพเป็นเกษตรกรปลูกดอกซ่อนกลิ่น เกิดจากที่ตนเองมีโรคประจำตัวเป็นไมเกรน ต้องกินยารักษาทุกวัน และนับวันก็ยิ่งต้องเพิ่มการกินยามากขึ้นเพราะอาการปวดที่เพิ่มขึ้น จากนั้นคุณเบญจวรรณได้รับคำแนะนำจากเพื่อนที่เป็นแพทย์แผนไทย ให้ทดลองใช้วิธีธรรมชาติบำบัดเข้าช่วย โดยแนะนำให้นำดอกซ่อนกลิ่นใส่แจกันวางไว้ข้างเตียง เพราะดอกซ่อนกลิ่นมีกลิ่นที่หอม ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความเครียดได้ การนอนหลับก็จะหลับสนิทยิ่งขึ้น

เตรียมแปลงปลูกซ่อนกลิ่น

เพราะเหตุนี้จึงได้ทดลองปลูกในพื้นที่ 180 ตารางวา จำนวน 20 กอ เพื่อไว้ใช้เอง แต่ต้องบอกเลยว่าดอกซ่อนกลิ่นหาซื้อได้ยากมาก เพราะเป็นไม้ดอกที่เริ่มจะสูญหายไปแล้ว ในตอนแรกผู้ที่แบ่งขายก็ไม่อยากขายให้เพราะเป็นไม้ดอกที่หายากมาก

ดอกซ่อนกลิ่นเป็นไม้ดอกที่ขยายพันธุ์ด้วยหน่อ 1 กอ มีหน่อ 40-50 หน่อ การขยายพันธุ์เพื่อจำหน่ายต้องใช้ระยะเวลาถึง 2 ปี ในการดูแลต้นแม่พันธุ์ เพื่อให้ได้ต้นพันธุ์ที่แข็งแรง

ต้นอ่อนซ่อนกลิ่นกำลังแตกกอ

ดินที่เหมาะแก่การปลูก

ซ่อนกลิ่นเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่ายสามารถเติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน แต่หากอยากให้ซ่อนกลิ่นเจริญเติบโตได้ดี จะชื่นชอบดินร่วนปนเหนียว ดินทรายปนหิน สภาพดินเหล่านี้จะทำให้ซ่อนกลิ่นแตกกอได้เยอะ

การปลูกด้วยหน่อ

แปลงปลูกมีขนาดกว้าง 1 เมตร ความยาวขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ใส่ปุ๋ยคอกรองพื้น (ขี้หมู ขี้วัว) 1 กำมือต่อหลุม ระยะห่างต่อหลุม 30 เซนติเมตร เพื่อเว้นระยะให้พื้นที่แตกกอ จากนั้นนำหน่อที่เตรียมไว้ไปตากลมให้แห้ง และนำหน่อลงดินปลูกโดย 1 หลุม ใช้ 2 หน่อในการปลูก จากนั้นใส่ดินกลบปากหลุมให้เสมอ

ซ่อนกลิ่นสามารถปลูกในกระถางต้นไม้ได้ หรือจะปลูกลงแปลงปลูกก็ได้ แต่ไม่สามารถปลูกลงถาดเพาะได้ เพราะรากซ่อนกลิ่นเดินได้ไวมาก เพียงระยะเวลาไม่กี่วันถาดเพาะก็ไม่สามารถรองรับได้แล้ว

การเติบโตของหน่อจะใช้ระยะเวลาต่างกัน โดยหน่อจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ 1. หน่อเล็ก ใช้ระยะเวลา 8 เดือน ในการแตกกอ 2. หน่อใหญ่ ใช้ระยะเวลา 6 เดือน ในการแตกกอ 3. หน่อจัมโบ้ ใช้ระยะเวลา 3 เดือน ในการแตกกอ เมื่อหน่อแตกกอแล้วไม่เกิน 1 เดือน ก็จะเริ่มออกดอกมาให้เห็น

การให้น้ำ

การรดน้ำระบบน้ำพุ่ง เหมาะสำหรับการให้ความชุ่มชื้นบริเวณโคนต้น อัตราส่วนการรดน้ำ 1 ครั้งต่อวัน ในช่วง 1-15 วัน จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน 1 ครั้ง หลังจากนั้นรดน้ำ 2-3 วัน 1 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และความชุ่มชื่นของหน้าดิน) ซ่อนกลิ่นเป็นไม้ทนแล้ง ต้นที่โตแล้ว ไม่รดน้ำ 2-3 สัปดาห์ ก็สามารถรอดได้ หรือหากถูกน้ำท่วมเป็นเดือน แต่ถ้าท่วมไม่ถึงยอดต้นก็ยังไม่ตาย

ซ่อนกลิ่นกำลังแตกกอใหญ่

การใส่ปุ๋ย

เมื่อลงปลูกอายุครบ 1 เดือน ใส่ปุ๋ยคอก 1 ครั้ง อัตราส่วน 1 กำมือต่อต้น จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกเดือนละ 1 ครั้ง จากนั้นฉีดพ่นยาสูบผสมน้ำ ช่วงบ่ายเพื่อกันแมลงมากัดกิน และหมั่นสังเกตใบซ่อนกลิ่นให้ดี หากใบเริ่มเกิดความผิดปกติ สามารถฉีดพ่นต้นซ่อนกลิ่นด้วยฮอร์โมนไข่เพื่อบำรุงต้นพืช

 

การทำฮอร์โมนไข่

อุปกรณ์และวัสดุ 1. ไข่ไก่ 5 ฟอง 2. นมเปรี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 4. ขวดพลาสติก 5. ชามผสม

วิธีทำ

  1. ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ตีไข่ให้เข้ากัน
  2. ใส่น้ำตาลทราย นมเปรี้ยว คนให้ละลายเข้ากันดี
  3. เทใส่ขวดพลาสติก และเขย่าให้เข้ากัน 1 รอบ
  4. ปิดฝาแบบหลวมๆ เพื่อไม่ให้เกิดแก๊สแรงดันภายในขวด
  5. ตั้งวางไว้ในที่ร่ม หมักทิ้งไว้ 3 วัน โดยทุกๆ 1 วัน ให้เขย่าขวดอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อให้จุลินทรีย์ทำงานได้ทั่วถึง
  6. พอครบเวลา ก็จะได้ฮอร์โมนไข่ที่พร้อมใช้งาน
ตัดดอกซ่อนกลิ่นขาย ปากคลองตลาด

ตลาด

คุณเบญจวรรณ กล่าวว่า ดอกซ่อนกลิ่นมีเกษตรกรผู้ปลูกในประเทศไทยน้อยมาก จากที่ทราบมาคาดว่าไม่เกิน 10 เจ้า ในท้องตลาด ตลาดของทางสวน แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ 1. ตลาดออนไลน์ขายหน่อ ลูกค้ากลุ่มทั่วไปที่ปลูกไว้ในบ้าน 2. ตลาดขายดอก ส่งปากคลองตลาด 3. ตลาดขายหน่อ ให้แก่เกษตรกรในเครือข่าย เพื่อรับซื้อคืนทั้งดอกและหน่อ (ดอกและหน่อต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานที่สวนกำหนดในการรับซื้อคืน) 4. ตลาดต่างประเทศขายหน่อ ญี่ปุ่น มาเลเซีย เวียดนาม ให้แก่พ่อค้าคนกลาง เพื่อปลูกและนำดอกไปสกัดทำน้ำหอม

ช่วงโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน ยอดขายเพิ่มขึ้นหลายเท่าจนน่าตกใจ ผู้คนนิยมซื้อดอกซ่อนกลิ่นไปวางในห้องนอน เพื่อสูดดมกลิ่นหอม ที่ทำให้ผ่อนคลายและช่วยในเรื่องของทางเดินหายใจ การปลูกซ่อนกลิ่น 1 ต้น สามารถให้ผลผลิตในระยะยาวได้ถึง 5 ปี แต่หากได้รับการดูแลที่ไม่ดีนักก็จะสามารถอยู่ได้ 2-3 ปี ถือเป็นการปลูก 1 ครั้งที่สามารถเก็บผลผลิตได้ระยะยาว และซ่อนกลิ่นเป็นไม้ดอกที่ออกดอกตลอดทั้งปี สามารถสร้างรายได้ต่อปีถึงหลักแสนบาท

ซ่อนกลิ่นกับความเชื่อของคนไทยอยู่คู่กันมานาน เป็นไม้ดอกโบราณที่นานวันก็ยิ่งจะหายาก คนไทยมีความเชื่อว่า ดอกซ่อนกลิ่นเป็นสัญลักษณ์ของความเศร้าที่มักพบเจอในงานศพ ถึงแม้ซ่อนกลิ่นจะมีกลิ่นที่หอมรัญจวน แต่ก็กลับถูกมองข้ามเพราะเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่ไม่มงคล แต่ในยุคปัจจุบันดอกซ่อนกลิ่นกลับมีความหมายอีกครั้ง เมื่อได้ขึ้นเวทีเป็นช่อดอกไม้ที่มอบให้แก่นางงาม เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ที่ดี

นอกจากนี้ ซ่อนกลิ่นยังเป็นดอกไม้ที่ชาวตะวันตกนิยมนำมาสกัดทำน้ำหอม ทุกเคาน์เตอร์แบรนด์น้ำหอมดังระดับโลก ต่างมีส่วนผสมสารสกัดจากดอกซ่อนกลิ่นเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย และในประเทศจีนเองก็นิยมนำดอกซ่อนกลิ่นมาผัดน้ำมันเป็นเครื่องเคียงอาหาร ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ชาวจีนนิยมอย่างมาก

สำหรับท่านใดที่สนใจ หน่อซ่อนกลิ่น ดอกซ่อนกลิ่น ต้นพันธุ์ซ่อนกลิ่น ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณเบญจวรรณ รัตพลที หมู่ที่ 3 บ้านหนองหญ้าข้าวนก ตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น โทรศัพท์ 061-926-1795 ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก : ซ่อนกลิ่น ดอกข้าว ดอกพิลา ดอกไม้หอม