เกษตรกรหนุ่มอารมณ์ดี สานต่อพื้นที่รอบบ้าน ปลูกสับปะรดพันธุ์ตราดสีทองขาย ฟาดรายได้หลักแสนต่อปี

เทคโนโลยีชาวบ้านฉบับนี้ ขอนำเสนอรายงานพิเศษในหัวข้อ “เกษตรรอบบ้าน สร้างง่ายและทำเงิน” ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางในการประกอบการตัดสินใจ สำหรับผู้ที่ต้องการทำอาชีพเกษตรกรรมหรือเปลี่ยนพื้นที่รอบบ้านให้มีมูลค่าในยุคปัจจุบัน

ซึ่งเกษตรกรต้นเรื่องที่ต้องการถ่ายทอดประสบการณ์การทำสวนฉบับเกษตรกรหนุ่มอารมณ์ดี วัย 31 ปี ที่หักเหชีวิตจากพนักงานออฟฟิศสู่การเป็นเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดตราดสีทอง ทีเพียงเอ่ยชื่อ ชาวบ้านในพื้นที่ถึงขั้นต้องร้องอ๋อ

นั่นก็คือ คุณปกรณ์ รัตนธรรม หรือ คุณท็อป เจ้าของไร่รัตนธรรม ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลท่ากุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดตราด หลังเรียนจบหันมาสานต่ออาชีพเกษตรอย่างเต็มตัว เพราะที่บ้านทำเกษตรมาก่อนอยู่แล้ว ด้วยการปลูกผลไม้หลายอย่าง โดยเฉพาะสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร

คุณท็อป เจ้าของไร่รัตนธรรม

จากหนุ่มออฟฟิศ

สู่เกษตรกรอารมณ์ดี

คุณท็อป เล่าถึงเส้นทางชีวิตการทำอาชีพเกษตรอย่างเต็มตัวให้เราฟังว่า หลังจากเรียนจบ ในปี 2558 ได้เข้าทำงานเป็นนักวิจัยเกี่ยวกับการดูแลข้อมูลในบริษัทหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งระหว่างการทำงานประจำ ในช่วงต้นปี 2559 จึงทดลองปลูกสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง 7,000-8,000 หน่อ ในพื้นที่ข้างบ้าน

ขณะนั้นคุณท็อปก็พอมีความรู้เรื่องเกษตรเป็นทุนเดิมจากทางครอบครัวอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะลงมือทำ ก่อนจะลงมือหาข้อมูลเกี่ยวกับสับปะรดพันธุ์ตราดสีทองอย่างจริงจัง ลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง เพราะในช่วงของการเริ่มต้นปลูกในช่วงเวลาดังกล่าวราคาการขายสับปะรดอยู่ในระดับที่เกษตรกรสามารถยิ้มได้ จึงลงมือทำและพัฒนาสับปะรดพันธุ์ตราดสีทองมาจนถึงปัจจุบันนี้

แปลงสับปะรดที่ปลูกภายในไร่

สับปะรดตราดสีทอง

พืชทำเงินน้ำดี

สับปะรดตราดพันธุ์สีทองที่เป็นพืชเศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของเกษตรกรจังหวัดตราด เป็นพืชที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรค่อนข้างสูง มีการปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตตลอดปี ผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ

ลักษณะเด่น ภายนอกคือ ขอบใบที่ต้นและขอบใบที่จุกผลมีหนามสั้นๆ แหลมคม ทรงโค้ง สีน้ำตาลแดง ผลเป็นรูปทรงกระบอก ผิวเปลือกเมื่อแก่สุกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้มหรือเหลืองส้ม ตาใหญ่ ร่องตาลึก เปลือกหนา ตาลึก ทนทานต่อการขนย้าย

ลักษณะเด่นภายในมีความหวาน 16-20 องศาบริกซ์ กลิ่นหอมมาก เนื้อสีเหลืองเข้ม เนื้อและไส้กรอบ เนื้อแห้งไม่ฉ่ำน้ำ เนื้อมีเส้นใยอ่อนนุ่ม เคี้ยวไม่ติดฟัน กว่าสับปะรดทุกสายพันธุ์

สับปะรดในไร่รัตนธรรมหลายพันต้น

พ่อแม่พันธุ์ดี ผลผลิตดี

เห็นกำไรชัดเจน

ด้านวิธีการดูแลรักษาหลักๆ ต้องดูในเรื่องของหน่อสับปะรด ตั้งแต่การปลูกเริ่มต้น ถ้าหากเราอยากได้สับปะรดที่ดี ควรหาแม่พันธุ์สับปะรดที่ดีมาปลูก ต้องดูว่าหน่อสับปะรดมีเชื้อรา มีโรคเหี่ยวปะปนมาบ้างหรือไม่ ก่อนที่จะนำหน่อสับปะรดลงปลูก จำเป็นต้องนำรากมาแช่ยาแก้เชื้อรา หรือดึงหน่อสับปะรดที่เสียออก ก่อนที่จะนำลงปลูก

สับปะรดเป็นพืชที่ดูแลไม่ยาก เมื่อเทียบกับไม้ผลจำพวกเงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง หรือลำไย สับปะรดเป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ความต้องการน้ำปานกลาง ไม่มากเท่าไม้ผล โรคและแมลงศัตรูพืชไม่ค่อยรบกวน ที่สำคัญสับปะรดเป็นพืชที่สามารถกำหนดแผนการผลิตได้ค่อนข้างแน่นอน สามารถกำหนดวันปลูก เก็บเกี่ยวได้ กระจายการผลิตได้ตลอดปี มีความแน่นอน แผนการผลิตและเก็บเกี่ยวจึงไม่มีความคลาดเคลื่อนมากนัก

“ระยะเวลาการปลูกสับปะรดพันธุ์ตราดสีทองของไร่รัตนธรรม ตั้งแต่เริ่มปลูก นำหน่อลงดินขึ้นอยู่กับว่าปลูกในช่วงหน้าฝนหรือหน้าแล้ง ถ้าช่วงหน้าฝนก็จะใช้เวลาทั้งหมด 6-7 เดือน ก็สามารถบังคับลูกได้ บังคับลูกต่ออีก 4 เดือน ถึงจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตขายสู้ท้องตลาดได้ครับ ถ้าหน้าแล้งก็จะอยู่ประมาณ 8-9 เดือน ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับขนาดหน่อที่ปลูก ถ้าหน่อเล็กก็จะใช้เวลาประมาณ 10 เดือน ถ้าหน่อใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน”

ราคาสับปะรด 1 หน่อ ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 1 บาท 50 สตางค์ การปลูกสับปะรดที่ดีและเหมาะสมใน 1 ไร่ ควรอยู่ที่ 3,500-4,500 หน่อ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ หลุมที่ปลูกจะใช้จอบขยัน หน้ากว้าง 15 เซนติเมตร ด้านลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ขุด 1 ครั้ง จะนำหน่อลง จากนั้นจึงดันดินกลบลงหลุมทันที

เทคนิคปลูกสับปะรดแนวร่องยาว

วิถีเกษตรกรภาคตะวันออก

สับปะรดทางภาคตะวันออกจะปลูกเป็นแนวร่องยาง 1 แนว จะปลูก 1 คู่ เรียงเป็นแถวลงไปให้ให้มีระยะห่าง 30-40 เซนติเมตร ทั้งด่านคู่และด้านแถว ระหว่างคู่หน่อจะห่างประมาณ 50-60 เซนติเมตร

การปลูกสับปะรดพันธุ์ตราดสีทองในไร่รัตนธรรมนั้น คุณปกรณ์ลงมือทำเองเกือบทั้งหมด ตั้งแต่การดูแลใส่ปุ๋ย พ่นยาบำรุงลูก ทำในลักษณะการใช้ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดหรือปุ๋ยอินทรีย์ธรรมดาจากมูลสัตว์ต่างๆ ควบคู่กับปุ๋ยเคมี ใส่เพียง 2-3 รอบต่อการผลิต ขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่ผลิตครั้งนั้นๆ รอบแรกใช้ปุ๋ยอินทรีย์โรยระหว่างคู่แถวสับปะรด และใช้ปุ๋ยเคมีสูตรหน้าและหลังสูง เช่น 21-4-21 ผสมน้ำฉีดพ่นเข้าทางใบ

“โรคส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นโรคเหี่ยว ทำให้ใบออกแดงและไหม้ และโรคเชื้อรา เมื่อนำหน่อสับปะรดลงดินแล้วจะทำให้ผลผลิตไม่เจริญเติบโต วีธีการดูป้องกันโรคคือนำรากมาแช่ยาแก้เชื้อรา ก่อนนำหน่อสับปะรดลงปลูกทุกครั้ง หรือถ้าเจอก็จะหยิบออกมา รอจนแห้งก็จะทำการเผาทิ้งทันที หากไม่ได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธี อาจจะส่งผลในเรื่องของการเจริญเติบโตของสับปะรด เพราะเนื่องจากโรคที่เกิดขึ้นเหล่านี้ แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว”

สับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง

 

สับปะรดพันธ์ตราดสีทอง

ตลาดยังต้องการ

ส่วนความต้องการทางการตลาดนั้น ถือว่ายังมีความต้องการทางตลาดสูง สับปะรดพันธุ์ตราดสีทองของไร่รัตนธรรมนั้น จะส่งไปให้พ่อค้าแม่ค้าเจ้าประจำที่ตลาดสี่มุมเมือง จังหวัดปทุมธานี เพราะด้วยรสชาติที่หวาน มีกลิ่นหอม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร

คุณปกรณ์ เล่าว่า รายได้ต่อปีอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ เช่น ลดทุน 1 แสนบาท ได้กำไรอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาท ขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคาสับปะรดในขณะนั้น

สับปะรดที่เริ่มผลิดอก

หากใครสนใจที่จะวางแผนหรือลงมือปลูกสับปะรด คุณปกรณ์แนะนำสั้นๆ ว่า ควรศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับการปลูกสับปะรด เพราะเนื่องด้วยสถานการณ์ราคาปุ๋ยที่ผันผวนในปัจจุบัน อาจจะต้องลงทุนเพิ่มมากขึ้น อยากให้เกษตรกรหันกลับมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์กันมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการผลิตลงนั่นเอง

สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อ คุณปกรณ์ รัตนธรรม หรือ คุณท็อป ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : ไร่รัตนธรรม หรือติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 087-543-2392