Ford Ranger Raptor 2.0L แข็งแกร่ง เท่ ดุดัน สมรรถนะดี ฟังก์ชั่นเทคโนโลยีสูง

“เดี่ยว บ้านแพ้ว” หรือ ว่าที่ ร.ต. พิทักษ์ พึ่งพเดช เกษตรกรหนุ่มไฟแรง เจ้าของสวนเดี่ยวบ้านแพ้ว COCO STYLE ME ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ผู้ใช้ Ford Ranger Raptor 2.0L และ Ford Everest ลุยไปทุกที่ ทั้งงานขนส่งมะพร้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูป รวมถึงผจญภัยไปในที่ต่างๆ กับครอบครัว

กว่าจะถึงวันนี้ เรียกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย จนกลายเป็น แบรนด์มะพร้าวน้ำหอม “เดี่ยว บ้านแพ้ว” ที่ใช้ผืนดินมรดกจากพ่อแม่ เนรมิตสวนมะพร้าวน้ำหอม ทั้งขายสดและแปรรูป ส่งขายทางช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ มียอดการสั่งซื้อเข้ามาอย่างถล่มทลาย ทำให้ได้รับการยอมรับว่าเป็นเกษตรกรตัวอย่าง ที่ใช้ชีวิตได้อย่างแข็งแกร่ง อึด ถึก ทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทุกรูปแบบ

พี่เดี่ยว บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จ ฟังว่า ตนเองนั้นเป็นลูกหลานชาวสวนผลไม้บ้านแพ้วตั้งแต่เกิด เห็นพ่อแม่ทำสวนมะพร้าวสำหรับทำน้ำตาลมะพร้าว ก็เกิดการซึมซับจากการที่เห็นทุกวัน พ่อแม่ของพี่เดี่ยวเริ่มปลูกปลูกมะพร้าวน้ำหอมไว้ริมตลิ่ง ประมาณ 40-50 ต้น เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ต้นมะพร้าวน้ำหอมที่ปลูกไม่เคยใช้ปุ๋ยเคมี แต่ให้ผลผลิตที่ดี จึงใช้จุดนี้มาใช้ปรับปรุงสวน เป็นสวนมะพร้าวน้ำหอม โดยเริ่มจากปลูกมะพร้าวน้ำหอมแซมระหว่างต้นพุทรา ลดการใช้สารเคมีให้น้อยลง สลับกับใช้น้ำหมักสมุนไพร และผสมฮอร์โมนใช้เองภายในพื้นที่สวนมะพร้าวน้ำหอม

ปัจจุบันพี่เดี่ยวมีมะพร้าวน้ำหอมที่อยู่ในการดูแลทั้งหมดเกือบ 400 ต้น มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว มีลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เพราะปลูกในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสาคร เป็นพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล ได้รับความชื้นในบรรยากาศสม่ำเสมอ เจริญเติบโตได้ดี มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว มีรสชาติหวาน ค่าความหวานในช่วง 6-7.5 บริกซ์ กลิ่นของน้ำมีความหอมคล้ายกลิ่นใบเตย ซึ่งเกิดจากสารให้ความหอมที่เรียกย่อๆ ว่า 2-เอพี (AP) สารให้ความหอมชนิดนี้พบในข้าวหอมมะลิและใบเตยเท่านั้น

ช่วงแรกที่ลงมือทำเอง พี่เดี่ยวยอมรับว่าท้อมาก เจอปัญหาและอุปสรรคทุกรูปแบบ ทั้งในเรื่องคู่แข่งที่หลากหลาย ที่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนเป็นที่ตั้ง ในการพัฒนาตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค

รวมถึงพี่เดี่ยว ได้มีโอกาสได้เข้าอบรมความรู้เรื่องการทำเกษตรให้แก่ลูกหลานเกษตรกรรุ่นใหม่ จัดโดยกรมส่งเสริมการเกษตร และได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือสมาร์ทฟาร์มเมอร์ (YSF-Samutsakhon) อีกทั้งนำความรู้ทางด้านเกษตร จาก วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีราชบุรี ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่พี่เดี่ยวจบการศึกษา นำมาปรับใช้ในการพัฒนาอาชีพครอบครัว เปลี่ยนจากสวนพุทรามาเป็นสวนมะพร้าวน้ำหอม

สำหรับการดูแลจัดการสวนมะพร้าวน้ำหอม พี่เดี่ยวบอกเพิ่มเติมว่า ในช่วงฤดูฝนจะปล่อยให้ต้นมะพร้าวเติบโตไปตามธรรมชาติ ส่วนช่วงหน้าแล้งจะคอยดูแลรดน้ำทุก 3 วัน ตัดหญ้าให้สั้น ไม่รกรุงรัง และรักษาความชื้นบนผิวดินอย่างสม่ำเสมอ

สวนมะพร้าวโดยทั่วไปมักเจอปัญหาหนอนหัวดำระบาดในช่วงฤดูแล้ง เพราะแมลงศัตรูพืชชนิดนี้ ชอบอากาศร้อนแล้ง จึงต้องทำให้พื้นที่มีความชื้นอยู่เสมอ โดยใช้เรือรดน้ำในแปลงปลูกมะพร้าวทุกๆ 3 วัน ครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง วิธีนี้ใช้ได้ผลดี เพราะไม่ค่อยเจอปัญหาหนอนหัวดำระบาดรุนแรงเหมือนกับที่อื่นๆ

ด้านการเก็บผลผลิตภายในสวนของพี่เดี่ยวนั้น จะสามารถเก็บผลผลิตออกขายได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมีนาคม – เมษายน ผลผลิตน้อยลดลงจากปกติ ประมาณ 70 – 80% จึงจำเป็นต้องคอยดูแลจัดการสวนมะพร้าวอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ต้นมะพร้าวขาดคอ ด้วยการให้น้ำและบำรุงต้น และให้ปุ๋ยคอกจากขี้หมูบำรุงต้น เฉลี่ย 4 เดือน 1 ครั้ง เฉลี่ยต้นละ 1 กระสอบ แต่ละปีผมสามารถเก็บผลผลิตออกขายได้ประมาณ 15-18 ทะลาย โดยตัดผลทุกๆ 20 วัน

ในสวนมะพร้าวน้ำหอม แบรนด์ “เดี่ยว บ้านแพ้ว” มีผลผลิตป้อนเข้าสู่ตลาดได้มากกว่า 20,000 ลูกต่อรอบ มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ และมีการจำหน่ายมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้วสด ที่ปลูกดูแลในระบบเกษตรอินทรีย์เต็ม 100% และพัฒนาสินค้าในรูปแบบน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มในขวดใส และมะพร้าวแก้วพร้อมรับประทาน โดยขูดเนื้อและมีน้ำใส่แก้วซีลฝาอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวน้ำหอมทั้งหมด เช่น น้ำตาลมะพร้าว ต้นพันธุ์มะพร้าว

“ตอนนี้ผมก็ลุยทำตลาดออฟไลน์และออนไลน์เต็มตัวแล้วครับ ทำเองทุกอย่าง ปลูกเอง ขายเอง ได้รับผลตอบรับที่ดีทั้งลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่และต่างจังหวัด ต้องมีการขนส่งสินค้ามะพร้าวผลสดให้กับตลาด ครั้งหนึ่งก็จำนวนเป็นร้อย เป็นพันลูก น้ำหนักก็เยอะครับ และทุกวันพฤหัสบดี ผมต้องขนมะพร้าวน้ำหอมอ่อนมาขายที่กรมส่งเสริมการเกษตรในกรุงเทพฯ ครับ ต้องรีบขนส่ง ทำเวลา บรรทุกหนัก ใช้รถกระบะบรรทุกผลผลิตเพื่อส่งขายแล้วก็หลายคัน จนวันนี้ผมมีโอกาสได้ทดลองขับ Ford Ranger Raptor 2.0L คันนี้ครับ ในการพาผมไปส่งสินค้าให้กับลูกค้า จะระยะใกล้ ไกล จะบรรทุกหนักแค่ไหน ผมก็ไม่หวั่นครับ มั่นใจตลอดการเดินทาง เพราะผมมั่นในเรื่องของประสิทธิภาพ รูปลักษณ์ที่ออกแบบมา เท่ ดุดัน หล่อ เลยครับ ตอบโจทย์อาชีพแบบผม และถ้าขับไปเจอฝนตกหนัก ต้องผ่านบ่อหลุมขนาดใหญ่ หรือดินโคลน ผมมั่นใจเลยครับ เพราะเขามีระบบการขับขี่แบบออฟโรด ลุยไปเถอะครับ คุ้มจริงๆ ยิ่งทางแคบนี่ไม่ต้องกลัวเลย กล้องรอบคัน 360 องศา ปลอดภัย สบายใจหายห่วง ตอบโจทย์ชาวไร่ ชาวสวนอย่างผม หรือถ้าขับพาครอบครัวไปเที่ยวหรือพักผ่อน แค่ขับหรือเปิดประตูลงจากรถ ใครก็ต้องมองครับ ด้วยดีไซน์ที่เท่ บึกบึน ดึงดูดทุกสายตา ผมมั่นใจในตัวรถของ Ford ครับ” ก่อนปิดท้ายว่า “กว่าชีวิตผมจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ลุยและลงมือทำเองทุกอย่าง ท้อได้แต่อย่าหยุดพัฒนาในสิ่งที่ตนเองเลือกที่จะทำครับ เราต้องมีความเชื่อ และทุกอย่างจะสำเร็จด้วยหนึ่งสมองและสองมือครับ ชีวิตของผมก็เหมือนกับ Ford Ranger Raptor 2.0L คันนี้ครับ ต้องแกร่ง ดุดัน ไม่เกรงใจใคร เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทั้งตัวเอง ลูกน้อง และครอบครัวครับ”