เผยแพร่ |
---|
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมว.กษ.) พร้อม Kick off การมอบโฉนดเพื่อการเกษตร เป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 เริ่ม 15 มกราคม 2567 นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ
จากการแถลงนโยบายของรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่นำมาสู่นโยบายสำคัญในการเปลี่ยนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งเป้าหมายในการปรับปรุงและพัฒนาสิทธิในที่ดินของรัฐบาล โดย ส.ป.ก. ได้ชับเคลื่อนงานตามนโยบายดังกล่าวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน
ทั้งนี้ จะมีการ Kick off มอบโฉนดเพื่อการเกษตรให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ในวันที่ 15 มกราคม 2567 จำนวน 25,000 ราย พร้อมกันทั่วประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการมอบโฉนดเพื่อการเกษตรจำนวน 1,000 ฉบับ ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับส่วนภูมิภาคกำหนดจัดงาน ณ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราชในแต่ละจังหวัด
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า การเปลี่ยนเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดิน จาก ส.ป.ก. 4-01 ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อขยายสิทธิการใช้ประโยชน์ให้เป็นที่ยอมรับ เพื่อเพิ่มมูลค่าและใช้ค้ำประกันสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น เรื่องทำโฉนดต้นไม้ในเขต ส.ป.ก. ซึ่งเป็นการออกเอกสารสิทธิสำหรับต้นไม้ที่เป็นพืชเศรษฐกิจ เช่น ต้นยางพาราที่ปลูกบนที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ โดยจะมีการดำเนินโครงการหลังจากเสร็จสิ้นการมอบที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 โดย ส.ป.ก. และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการโครงการส่งความสุขปีใหม่ เพื่อมอบของขวัญให้แก่เกษตรกร อีกทั้งช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ มีเงินทุนหมุนเวียนในระบบเพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้และลดรายจ่ายครัวเรือนให้กับเกษตรกรและประซาชน ตลอดจนเพื่อส่งมอบความสุขจากรัฐสู่ประชาชน
ด้าน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตกรรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า การเปลี่ยนโฉนดเพื่อการเกษตรในครั้งนี้ต้องถูกกฎหมาย ซึ่งการขับเคลื่อนมีการตั้งกฎระเบียบที่ชัดเจน จากการเปิดให้เกษตรกรเข้ามาลงทะเบียนเพื่อคัดกรองการขอโฉนดเพื่อการเกษตร ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ มีทั้งสิ้น 2 แสนราย จากนั้นจะทำการคัดกรองและแยกแยะเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนที่จะมีการดำเนินการแจกโฉนดต่อไป โดยเป้าหมายจะแจกให้ได้ 500,000 ฉบับ
โดยสิทธิประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากโฉนดเพื่อการเกษตร มีดังนี้
- เปลี่ยนมือได้ (โอนสิทธิ) สามารถโอนคืน ส.ป.ก. ได้ โดยโอนคืนให้ ส.ป.ก. ทั้งแปลงหรือบางส่วนได้ โดยได้รับค่าชดเชย หากเกษตรกรไม่ประสงค์ประกอบอาชีพเกษตรกรรม สามารถสละสิทธิให้เกษตรกรอื่นที่มีคุณสมบัติตามกำหนด โดยสามารถเปลี่ยนมือให้แก่เกษตรกรอื่นที่มีคุณสมบัติตาม ส.ป.ก. กำหนด
- เพิ่มวงเงินสินเชื่อ การเข้าถึงแหล่งทุนใหม่ สามารถป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ โดยขยายวงเงินสินเชื่อให้กับเกษตรกรที่ขอกู้กับ ธ.ก.ส. หรือใช้ไม้มีค่าที่ปลูกบนที่ดิน ค้ำประกันสินเชื่อให้เต็มวงเงิน 100% และสามารถขอสินเชื่อนโยบายจากกองทุน ส.ก. เต็มวงเงินตามราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ นอกจากนั้น ยังเพิ่มแหล่งสินเชื่อใหม่ โดยการเจรจากับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ชุมนุมสหกรณ์ สถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินอื่น
- สามารถใช้ค้ำประกันตัวบุคคล โดยเป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่สามารถค้ำประกันตัวบุคคลทั้งในชั้นส อบสวนและชั้นศาล โดยความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- สร้างรายได้ให้เกษตรกร เพิ่มทรัพย์สินโดยส่งสริมการปลูกไม้มีค่า 10 ต้นต่อไร่ ซึ่งสามารถใช้ต้นไม้ค้ำประกันสินเชื่อ (โฉนดต้นไม้) และขาย Carbon Credit โดยความร่วมมือกับ กรมป่าไม้, ธ.ก.ส. และ อบก.
- ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากรัฐในด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค ซึ่งมีการทำ MOU 16 หน่วยงาน ด้านการพัฒนาอาชีพ และรับเงินชดเชยหรือเยียวยาภัยพิบัติ
ทั้งนี้ จะมีการ Kick off มอบโฉนดเพื่อการเกษตรเป็นของขวัญ เพิ่มสุขปีใหม่ให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ในวันที่ 15 มกราคม 2567 จำนวน 25,000 ราย พร้อมกันทั่วประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการมอบโฉนดเพื่อการเกษตรจำนวน 1,000 ฉบับ ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับส่วนภูมิภาคกำหนดจัดงาน ณ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราชในแต่ละจังหวัด