ปูใหญ่ไซซ์เบิ้ม เลี้ยงปูดำอย่างไร ให้ขายได้ราคาดี เป็นที่ต้องการของตลาด

ปูดำหรือปูทะเล สัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญ เกษตรกรผู้เลี้ยงสามารถนำมาทำตลาดได้ ทั้งจำหน่ายเป็นปูไข่และปูเนื้อ ขึ้นอยู่ที่ว่าร้านอาหารจะนำไปปรุงเป็นเมนูอะไร ทำให้อาหารที่ทำขึ้นจากปูดำได้รับความนิยมและตลาดมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง การเลี้ยงให้ได้คุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดทำอย่างไร วันนี้มาไขเคล็ดลับเรื่องนี้กัน

คุณนันทิยา เพ็ชรเกตุ เกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช หันมาเลี้ยงปูดำหลังจากที่ปลดเกษียณจากงานประจำที่ทำ โดยใช้บ่อที่เป็นพื้นที่ว่างของครอบครัวที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาปรับเปลี่ยนเลี้ยงปูดำ เพื่อเป็นอาชีพสร้างรายได้หลังเกษียณ

คุณนันทิยา เพ็ชรเกตุ
คุณนันทิยา เพ็ชรเกตุ

คุณนันทิยา เล่าให้ฟังว่า หลังจากได้กลับมายังบ้านเกิดจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งในขณะนั้นคิดอยู่เสมอว่าแม้เกษียณแล้วก็ต้องหาอาชีพทำเพื่อให้เกิดรายได้ จึงเห็นบ่อที่เคยเลี้ยงกุ้งของครอบครัวยังว่างอยู่ และยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์หลังจากที่เลิกเลี้ยงกุ้งไปแล้ว จึงทำให้เธอตัดสินใจที่อยากจะใช้พื้นที่บ่อนั้นมาเลี้ยงปูดำ

“ช่วงที่เราลงไปดูพื้นที่แรกๆ ก็ดูก่อนว่าคนในพื้นที่นี้เขาทำอะไรกัน ซึ่งการทำประมงของพื้นที่นี้ค่อนข้างหลากหลายมาก มีทั้งเลี้ยงกุ้งกุลาดำและเลี้ยงปูดำ แต่เราเห็นว่าปูดำนาเลี้ยงมากกว่า เพราะตลาดมีความต้องการสูง ก่อนที่จะเกษียณก็ศึกษาหาข้อมูลการเลี้ยงปูดำจากสื่อต่างๆ ว่ามีหลักการเลี้ยงอะไรบ้าง และเมื่อเกษียณเต็มตัวก็กลับมาอยู่บ้านและลงมือทำ พร้อมทั้งเข้าไปศึกษาหาความรู้จากเกษตรกรรายอื่นๆ เพื่อมาเป็นแนวทาง” 

บ่อเลี้ยงปูทะเล
บ่อเลี้ยงปูทะเล

การเลี้ยงปูดำให้ได้คุณภาพ คุณนันทิยา บอกว่า การเตรียมพื้นที่บ่อไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก หากพื้นที่บ่อเป็นบ่อที่เก่าและเลี้ยงมานานจะนำปูนขาวมาโรยให้ทั่วก้นบ่อ ซึ่งบ่อที่เลี้ยงปูดำมีขนาด 5 ไร่ ความลึกของก้นบ่ออยู่ที่ 2 เมตร แต่จะทำพื้นที่ก้นบ่อให้มีระดับของความลึกและตื้นที่สลับกันไป เพื่อที่ปูดำจะได้มีที่เกาะไม่อยู่ในระดับน้ำที่ลึกจนเกินไป 

ปูทะเล หรือ ปูดำ

จากนั้นนำน้ำที่มีค่าความเค็มอยู่ที่ 18 ppt มาใส่ให้เต็มบ่อ และนำลูกปูดำที่ติดต่อซื้อมาจากคนที่นำมาส่งขายให้ ใส่เลี้ยงเข้าไปภายในบ่อ

“ลูกปูดำที่ซื้อมาใส่เลี้ยงในบ่อ จะมีด้วยกัน 2 ไซซ์ อย่างไซซ์แรกอยู่ที่ 14-15 ตัวต่อกิโลกรัม ใช้เวลาเลี้ยงอยู่ที่ 3 เดือน จึงจะโตเต็มที่พร้อมจำหน่ายได้ และไซซ์ที่สองเป็นปูดำที่มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นมาอีกไซซ์อยู่ที่ 7-8 ตัวต่อกิโลกรัม ใช้เวลาเลี้ยงอยู่ที่ 45 วัน ก็จะโตใหญ่สามารถจับขายได้เช่นกัน” 

ตัวใหญ่ไซซ์เบิ้ม

ส่วนอาหารที่ใช้เลี้ยงปูดำ คุณนันทิยา บอกว่า ใช้อาหารปลาเป็ดที่ได้จากทะเลบ้างและแหล่งอื่นๆ มาหั่นให้มีขนาดที่เล็กเพื่อให้ปูดำกิน ซึ่งอาหารที่ใช้เลี้ยงปูดำจะให้กินทีละน้อยๆ แต่ให้บ่อย เพื่ออาหารจะไม่ไปสะสมภายในบ่อมากจนเกินไปจนทำให้น้ำเน่าเสีย

การป้องกันโรคสำหรับปูดำที่เลี้ยงภายในบ่อ จะมีการถ่ายน้ำเก่าออกและนำน้ำใหม่ใส่ลงไป จะช่วยให้ของเสียที่อยู่ในบ่อไหลออกมาด้วย จึงทำให้ภายในบ่อมีความสะอาดมากขึ้น ส่วนสัตว์ศัตรูอื่นๆ ของปูดำที่ต้องระวังคือ นก ปลากะพง ปลาชนิดอื่นๆ ที่จะมากินลูกปูดำได้จึงต้องระวัง

การทำตลาดเพื่อขายปูดำ คุณนันทิยา บอกว่า เนื่องจากปูชนิดนี้เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก พ่อค้าแม่ค้าจึงเข้ามาติดต่อซื้อถึงหน้าฟาร์ม ตัวเมียที่โตเต็มที่และมีไข่จะต้องจับส่งขายทันทีเป็นปูไข่ ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 350-450 บาท ส่วนตัวผู้สำหรับจำหน่ายเป็นปูเนื้อราคาจะถูกกว่าตัวเมียอยู่ที่กิโลกรัมละ 250-350 บาท โดยปูดำที่อยู่ภายในบ่อจะจับขึ้นมาขายทุกสัปดาห์ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายหมุนเวียนภายในฟาร์ม

“ปูดำเมื่อได้รอบที่จับขายได้ต้องขายทันที จะไปรอจับขายในช่วงราคาขึ้นไม่ได้ เพราะช่วงนั้นเราจะไม่รู้ว่าจะมีโรคอะไรมาทำให้ปูดำภายในบ่อตายบ้าง ดังนั้น เมื่อมีโอกาสต้องจับขายทันที พอเห็นปูดำในบ่อเราเริ่มมีจำนวนที่ลดน้อยลงแล้ว เราก็จะมีลูกปูดำชุดใหม่ๆ มาปล่อยลงเลี้ยงหมุนเวียนภายในบ่ออยู่เสมอ และมีปูดำส่งให้พ่อค้าแม่ค้าอยู่ตลอด และรายได้ที่มีก็ไม่ขาดช่วงไปด้วย” 

หากท่านใดสนใจเรื่องการเลี้ยงปูดำ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณนันทิยา เพ็ชรเกตุ ฟาร์มตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช หมายเลขโทรศัพท์ 086-558-1136