| ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ไก่เคเคยูวัน (KKU 1) เป็นไก่พื้นเมืองที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์โดยคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีสายเลือดลูกผสมไก่พื้นเมืองอยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์ สามารถเลี้ยงด้วยระบบเปิดแบบไก่พื้นเมืองแท้ๆ ได้ เพราะมีความต้านทานโรค ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี และที่สำคัญใช้เวลาเลี้ยงระยะสั้นอยู่ที่ 35 วัน ไก่จะได้น้ำหนักต่อตัวอยู่ที่ 1.2 กิโลกรัม
รศ.ดร.วุฒิไกร บุญคุ้ม ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิจัยและพัฒนาด้านการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ (NCAB) มหาวิทยาลัยขอนแก่น เล่าว่า โครงการพัฒนาสายพันธุ์ไก่เคเคยูวันได้รับทุนวิจัยจาก สกว. เพื่อนำมาพัฒนาสายพันธุ์ไก่พื้นเมืองของไทยมีตั้งแต่ไก่ประดูหางดำ ไก่ภาชี ซึ่งการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ไก่พื้นเมืองถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก และต่อมาได้ทำการขยายองค์ความรู้เพื่อที่จะได้นำมาใช้ประโยชน์
จากไก่พื้นเมืองได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของรสชาติและความโดดเด่นที่เป็นไก่บ้าน จึงได้ทำการวิจัยต่อเนื่องมาให้เป็นไก่ลูกผสมพื้นเมืองจนได้เป็นไก่พื้นเมืองลูกผสมเคเคยูวัน
“ประมาณปี 2563 เราได้ประกาศพันธุ์อย่างเป็นทางการต่อสาธารณะ ช่วงนั้นก็มีคนช่วยกันตั้งชื่อว่า ไก่ไร้เกาต์ ไก่โลยูริก นี่คือจุดเริ่มต้นของเขา เพราะฉะนั้นจากการศึกษา การที่ทำให้ไก่ไร้เกาต์ การเลี้ยงเราต้องค่อยๆ ให้ไก่เติบโตไปเอง การเลี้ยงจึงต้องให้ไก่โตช้ากว่าไก่เนื้อลงมาหน่อย จะทำให้ปริมาณการสะสมยูริกมันลดน้อยลง เพราะฉะนั้นการเลี้ยงของต้นทางจึงมีความสำคัญ”
กว่าจะได้มาเป็นไก่สายพันธุ์เคเคยูวัน (KKU 1) รศ.ดร.วุฒิไกร เล่าว่า นำพ่อพันธุ์ของไก่เนื้อทางการค้ามาผสมกับไก่พื้นเมืองระดับเลือด 50 เปอร์เซ็นต์ที่ได้มาจากการพัฒนาไก่พันธุ์ชีของทางศูนย์วิจัย จึงทำให้ไก่เคเคยูวัน มีคุณลักษณะที่ดีคือ เจริญเติบโตได้ไว ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงเพียง 35-40 วันเท่านั้น และเมื่อนำไปประกอบอาหารรสชาติของเนื้อก็ยังมีรสชาติอร่อยคล้ายๆ ไก่พื้นเมือง และมีสารสำคัญที่ทำให้ยูริกต่ำกว่าไก่ทางการค้าทั่วไป
เลี้ยง 35-40 วัน สามารถจับขายได้
รศ.ดร.วุฒิไกร เล่าว่า การพัฒนาไก่สายพันธุ์นี้ไม่เพียงให้มีรสชาติที่อร่อยเท่านั้น ได้มองไปถึงในเรื่องการส่งเสริมเกษตรกรที่สนใจ โดยเพื่อให้ใน 1 ปีเกษตรกรสามารถเลี้ยงไก่ได้หลายรอบหรือประมาณ 9-10 วัน เพื่อที่หลังจากเกษตรกรจำหน่ายไก่แล้ว สามารถมีเงินมาหมุนเวียนใช้ภายในฟาร์มได้
การผสมพันธุ์จะใช้พ่อแม่พันธุ์ไก่ที่มีอายุ 4-5 เดือน ทำการผสมพันธุ์จนได้ไข่ออกมา จากนั้นนำไข่ที่ได้มาทำการฟัก ซึ่งไข่ที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 10-15 ฟองต่อตัว เมื่อได้ลูกไก่ฟักออกมาแล้ว หากเป็นการเลี้ยงแบบชาวบ้านทั่วไปสามารถปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ พร้อมกับเลี้ยงด้วยอาหารจำพวกข้าวเปลือก รำข้าวได้ตามปกติ แต่สำหรับลูกไก่ที่ทางศูนย์หลังจากที่ฟักออกจากไข่แล้วจะทำการส่งขายให้กับเกษตรกรที่สนใจทันที
“ในศูนย์วิจัยแห่งนี้ จะเลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูปพร้อมกับเลี้ยงด้วยอาหารที่เป็นหนอนแมลงวันที่ทางศูนย์วิจัยได้ทำการศึกษาไว้ เพราะฉะนั้นการเลี้ยงสามารถเลี้ยงได้หลากหลายสำหรับอาหาร อยู่ที่ว่าคนเลี้ยงสะดวกแบบไหนมากที่สุด แต่ทางศูนย์การเลี้ยงหากต้องการให้โตภายใน 35-40 วัน จะเลี้ยงด้วยอาหารไก่เนื้อที่มีโปรตีน 32 เปอร์เซ็นต์ ให้กินแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบวันที่กำหนด”
ผู้สนใจเลี้ยงทั่วไป
จะเริ่มอย่างไรกับการเลี้ยงไก่
รศ.ดร.วุฒิไกร กล่าวแนะนำว่า สำหรับชาวบ้านทั่วไปหรือผู้ที่สนใจอยากจะเลี้ยงไก่เคเคยูวัน หากต้องการประหยัดต้นทุน สามารถเลี้ยงด้วยรำข้าวผสมกับปลายข้าว จากนั้นปล่อยไก่ที่เลี้ยงให้หากินเองภายในสวน ก็จะช่วยประหยัตต้นทุนได้ พร้อมทั้งปล่อยให้มีพื้นที่คุ้ยเขี่ย ก็จะช่วยให้ไก่มีความแข็งแรงมากขึ้น
สำหรับผู้สนใจทั่วไปหากในบริเวณบ้านมีพืชสมุนไพรอยู่แล้ว สามารถเลี้ยงด้วยพืชสมุนไพรอย่างบอระเพ็ด มาเสริมเข้ากับการเลี้ยงก็จะช่วยให้ไก่เคเคยูวันเจริญเติบโตและต้านทานโรค และความหนาแน่นในการปล่อยเลี้ยงควรอยู่ที่ 8-10 ตัวต่อตารางเมตร การเลี้ยงไก่สายพันธุ์นี้เลี้ยงได้ง่ายๆ ไม่แตกต่างจากการเลี้ยงไก่พื้นเมืองทั่วไป
ทำตลาดหลายรูปแบบ
รองรับความต้องการลูกค้า
ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายเนื้อไก่เคเคยูวันนั้น รศ.ดร.วุฒิไกร บอกว่า สามารถหาซื้อได้จากตลาดโมเดิร์นเทรดต่างๆ โดยมีจำหน่ายตั้งแต่ไก่ปรุงสุกพร้อมกิน หรือจะนำไปประกอบอาหารเองก็จะมีความอร่อยไปอีกแบบเช่นกัน
“ไก่รุ่นที่พร้อมนำเลี้ยงต่อจะขายอยู่ที่ตัวละ 300 บาท และถ้าเป็นลูกไก่อายุ 1 วัน ราคาอยู่ที่ 23 บาท หากท่านใดสนใจสามารถเข้าไปศึกษาในเรื่องของการเลี้ยง หากมีพื้นที่ห่างไกล ทางเราก็จะจัดส่งทางรถยนต์ขนส่งไปให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างทันเวลาแน่นอนครับ หรือติดต่อได้ที่โทร. 091-362-8660”
