“เพิก เลิศวังพง” ประธานบอร์ด กยท. ฟันธง ราคายางปีนี้ทะลุหลักร้อย ชูกลยุทธ์ “EUDR ” นำตลาด

ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อ  26 ธ.ค.66 เห็นชอบแต่งตั้ง “เพิก เลิศวังพง”เป็นประธานบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)  เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจ การตลาด และการบริหารองค์กร และประสบการณ์ทำงานด้านอื่นๆ ที่เคยมีทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

“เพิก เลิศวังพง” ประธานบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า  ” ผมอาจไม่ใช่คนเก่งที่สุด ไม่ใช่คนดีที่สุด แต่ผมเชื่อว่าผมเป็นคนที่มีความตั้งใจดีที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งภารกิจหลักของการยางในปี2567 ภายใต้นโยบาย “อยู่ได้ พอใจ ยั่งยืน” ของผม คือ 1. สร้างตลาดยางมาตรฐานเดียวกัน 500 ตลาดทุกท้องถิ่นทั่วไทย รองรับEU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) 2. บริหารจัดการโรคใบร่วงอย่างจริงจัง 3. เร่งออกโฉนดไม้ยางทุกพื้นที่ทั่วไทย เริ่มต้นจากที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์และมีทะเบียนขึ้นอยู่กับการยางก่อน เพื่อความรวดเร็ว ส่วนที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ คณะทำงานจะเร่งดำเนินการ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรทุกคน ที่มีต้นยาง 4.สร้างปัจจัยการผลิตแบรนด์การยางเพื่อลดต้นทุนให้เกษตรกร 5.ผลิตยางล้อแบรนด์การยางThai tyre 6.สนับสนุนผลิตภัณฑ์ปลายน้ำของสถาบันเกษตรกรเน้นการทำตลาดแบบจริงจัง ”

เป้าหมายผลักดันราคายางทะลุ 100 บาทในปีนี้ 

วันนี้ คนทำสวนยาง 1 ล้านครอบครัว  มีคนเกี่ยวข้องเกือบ 10 ล้านคน  ตั้งแต่ผมมารับตำแหน่ง เดือนกันยายน 2566 ราคายางโดยเฉลี่ย 48.26 บาทต่อกิโลกรัม มาถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ราคายางพาราโดยเฉลี่ย    68.03 บาทต่อกิโลกรัม มีส่วนต่างอยู่ 17.33 บาท ต่อกิโลกรัม หากตีราคากลมๆ ต่างกันอยู่ 20 บาทต่อกิโลกรัม ใครจะดราม่า  ราคาขึ้นเพราะยางไม่มี  ยางใบร่วงก็แล้วแต่นะ

ปี 2566 ที่ผ่านมา ตัวเลขการส่งออกยางพาราของไทยโดยรวมคือ 4.7 ล้านตัน มูลค่า 2 แสนล้าน ซึ่งราคายางพาราโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับวันนี้  (   วันที่  27 ก.พ.2567 ) ราคายางแผ่นรมควัน อยู่ที่ 77 บาทต่อกิโลกรัม

ในกระบวนการของฝ่ายปฎิบัติการ ตาม พรบ.การยาง ฯ คนที่เป็นเบอร์หนึ่ง ก็คือ ผม ซึ่งเป็นประธานบอร์ด กยท.   ผมเข้ามารับตำแหน่งเพราะต้องการสร้างเสถียรภาพของราคายาง ให้พี่น้องชาวสวนยาง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  ตั้งแต่ผมเข้ามารับตำแหน่ง ราคายางก็ขยับขึ้นตลอด  แต่ก็ยังมีคนดราม่าว่า จะขึ้นทำไมตอนปิดหน้ายาง ผมว่า มันจะขึ้นตอนไหน มันก็ดีกว่าเดิม …..ไม่ใช่หรือ ???

ยาง 4.7 ล้านตัน ขายในราคา 50 บาท สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 2แสนล้านบาท แต่ในวันนี้ กยท.ตั้งเป้าหมายผลักดันราคายางให้ได้ ตัวเลข 3 หลัก คือ 100 บาทต่อกิโลกรัม ผมรับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2566 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ราคายางก็ปรับตัวขึ้นมาโดยตลอด  ผมมั่นใจว่า ปีนี้ ชาวสวนยางได้เห็นราคายางไปถึง 100 บาทต่อกิโลกรัมแน่นอน เพราะผมใช้มาตรการตรวจสอบย้อนกลับผลผลิตยางพารา ของ EUDR เป็นหัวข้อหลักในการผลักดันราคายางพาราของไทยให้สูงขึ้นไป

ผลักดันยางไทยสู่่มาตรฐาน EUDR

ในช่วงปลายปี 2567 อียูประกาศใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ ตามกฎระเบียบมาตรการสิ่งแวดล้อมของ EU ว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า (EUDR)  ซึ่งทาง กยท.ได้เตรียมคิกออฟสวนยางพาราของไทยเข้าสู่ระบบ ตรวจสอบย้อนกลับ ของผลผลิตยางทุกกิโลกรัม ให้ผ่านกฎระเบียบมาตรการสิ่งแวดล้อมของ  EUDR พร้อมกันทั้งประเทศในเดือนมีนาคมนี้

แต่สิ่งที่ผมกำลังทำมา กำลังจะสูญสลาย หลังจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ   กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกมาให้ข่าวว่า มี พื้นที่ป่าอุทยานฯ ทับซ้อนกับ สปก.4-01 ประมาณ 2 แสนไร่ โดยไม่มีการระบุว่า ป่าที่ทับซ้อนกับ ที่สปก.4-01 มีกี่แห่ง อยู่ที่ไหนบ้าง การตีข่าวเหมารวมแบบนี้ ทำนอง  “ติเรือทั้งโกลน”  ทุกวันนี้  สวนยาง 20 กว่าล้านไร่ทั่วประเทศนั้น เป็นพื้นที่ปลูกยางพาราที่ให้ผลผลิตแล้วอยู่ในพื้นที่ สปก. จำนวน 9.2 ล้านไร่  กรณีที่มีกระแสข่าวว่า ที่ดิน ส ป ก.รุกพื้นที่ป่า ทำลายภาพพจน์สวนยางให้คนเข้าใจผิดว่า ปลูกทับพื้นที่ป่าไปด้วย ผมอยากให้คุณชัยวัฒน์ออกมาระบุเลยว่า อยู่ตรงไหนบ้าง  ไม่ใช่ตีขลุมว่า เป็นพื้นที่ สปก. ทั้งหมดทำให้คนมองว่า สวนยางในพื้นที่ สปก.เป็นเรื่องเลวร้ายไปด้วย

ตามระเบียบการตรวจสอบย้อนกลับผลผลิตยางพารา ของ EUDR นั้น สวนยางพาราดังกล่าวต้องน่าเชื่อถือ ไม่บุกรุกป่าก่อนปี 2563 ซึ่งสวนยางพาราในพื้นที่ สปก.จำนวน 9.2 ล้านไร่ ผลผลิตก็ไม่มาก เฉลี่ยไร่ละ 250 กิโลกรัม ซึ่ง 47 % ของผลผลิต คือประมาณ 2 ล้านกว่าตัน ทุก 1 บาท ที่ราคาขึ้น คือ 4,700 ล้านบาท  ผมเห็นด้วยและสนับสนุนให้ดำเนินการจับกุมผู้บุกรุกป่า แต่ขอร้องอย่าพูดถึงที่ดิน ส.ป.ก.ในแง่ลบ เพราะสร้างความเสียหายไปทั้งขบวนการ ล่าสุด ผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ของไทยได้เข้ามาปรึกษาหารือผมว่า คู่ค้าทางยุโรป ได้ส่งสัญญาณเตือนมาว่า สวนยางในพื้นที่ สปก. อาจไม่ได้รับความเชื่อถือ ไม่สามารถเข้าสู่ระบบ EUDR ได้

ผมกำลังเตรียมข้อมูลอยู่ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้เป้าหมายจะทำราคายางให้เป็นเลข 3 หลักคงไม่ถึงแน่นอน คนไม่เข้าใจไม่รู้หรอกครับว่าคำว่าจิตวิทยาตลาดและความน่าเชื่อถือของข้อมูล มันประกอบด้วยอะไรบ้าง คนบางคนมันเล่นใหญ่เกิน ความเสียหายจากยุโรปที่เขากำลังจะเล่นเราเรื่องการตรวจสอบย้อนกลับของผลผลิต เป็นเรื่องใหญ่มากครับ ตอนนี้เขาส่งสัญญาณมาแล้ว หากปล่อยให้ตีข่าวแบบนี้ต่อไป ความฝันที่ปีนี้จะเป็นปีทองของชาวสวนยางเห็นเลข 3 หลัก อาจจะพังพินาศอีกรอบ ทั้งๆที่เราวางฐานมาดีมากแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆเทวดาหน้าไหนก็มาช่วยไม่ได้แล้ว ผมก็พร้อมกลับบ้านนอนครับ