นายกฯ เศรษฐา เล็งเปลี่ยนชื่อ “เห็ดเผาะ” เป็น “เห็ด PM 2.5”

นายกรัฐมนตรีเล็งสั่งงดนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเพื่อนบ้านแก้ปัญหา PM 2.5 แนะเปลี่ยนชื่อเห็ดเผาะ เป็นเห็ด PM 2.5 ชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุ่มเทเสียสละ

วันที่ 16 มีนาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับฟังสถานการณ์ปัจจุบันจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยในที่ประชุมรายงานค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมจนถึง 15 มีนาคม 2567 เกินค่ามาตรฐาน รวม 33 วัน ลดลงจาก ปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวน 29 วัน คิดเป็นดีขึ้นร้อยละ 47

 

นายเศรษฐา กล่าวว่า ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่มีรายงานค่าฝุ่น PM 2.5 สูงติดท็อป 10 ของโลก วันนี้มาดูแล้วก็ยอมรับว่ามีปัญหาจริง แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ด้วยเพราะว่าปีนี้พื้นที่เผาป่าในจังหวัดเชียงใหม่ลดลง 74 เปอร์เซ็นต์หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ฮอตสปอต 17 จังหวัดภาคเหนือ ก็ลดลง 1 ใน 3 จากช่วงเดียวกันของของปีที่ผ่านมา แต่เมื่อติดอันดับโลกก็ต้องยอมรับและแก้ปัญหาต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเผาป่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจเป็นหลัก ทั้งการหาเห็ดเผาะและผักหวานเนื่องจากมีราคาแพง เรื่องนี้เป็นเข้าใจได้แต่ยอมรับไม่ได้ ส่วนปัญหา PM 2.5 ไม่ได้เกิดจากในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ส่วนใหญ่เกิดจากนอกประเทศจึงต้องมีมาตรการมาจัดการ ปีก่อนขู่ไว้แล้วว่าหากยังไม่ดีขึ้นก็จะมีการขึ้นภาษีนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่ก็ยังมีการเผากันอยู่ ตรงนี้ทางรัฐบาลจึงพิจารณาใช้มาตรการที่เด็ดขาด อาจจะต้องสั่งงดนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงเวลาไฮซีซั่นของการเผาคือ ช่วงต้นปีถึงสิ้นเดือนเมษายน โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาผลกระทบ ปัญหาที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเราทำดีที่สุดแล้วภายในประเทศของเรา แต่ก็ต้องมีมาตรการเพื่อปกป้องสิทธิพื้นฐานของประชาชนนั่นคืออากาศสะอาด ซึ่งรัฐบาลมองเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ

นอกจากนี้ มีแนวคิดลดการบริโภคเห็ดเผาะในพื้นที่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็นเห็ด PM 2.5 เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงปัญหาฝุ่นละอองและไฟป่าที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ขณะที่จะส่งเสริมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาการเพาะเห็ดเผาะโดยที่ไม่ต้องเผาป่า

ที่มา : เชียงใหม่นิวส์ https://www.chiangmainews.co.th/news/3266399/