เผยแพร่ |
---|
1 เมษายน 2567 – กระทรวงกลาโหม ร่วมกับ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ส่งเสริมด้านการศึกษาและด้านอาชีพแก่ทหารกองประจำการที่ปลดประจำการและบุคลากรในสังกัดกระทรวงกลาโหม โดยมี พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมลงนามกับ นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด โดยได้รับเกียรติจาก นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ ภายในงานมีผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือฯ เข้าร่วมในพิธีลงนาม ณ ห้องพินิตประชานาถ ศาลาว่าการกลาโหม กรุงเทพฯ โดยความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะความสามารถทหารกองประจำการ ให้มีความพร้อมในการประกอบอาชีพหลังปลดประจำการ พร้อมให้ทุนการศึกษาฟรีตั้งแต่ระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ที่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ (PAT) รวมถึงการเปิดตำแหน่งงานให้กับทหารที่จะปลดประจำการและทหารอาสาที่จะครบสัญญา โดยความร่วมมือนี้มีระยะเวลา 3 ปี
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติมาเป็นสักขีพยานในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมและเครือเจริญโภคภัณฑ์ ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมให้บุคลากรของกระทรวงกลาโหม ครอบครัวข้าราชการ และครอบครัวลูกจ้างได้รับโอกาสทางการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น อันจะนำไปสู่การประกอบอาชีพที่มั่นคง สนับสนุนให้บุคลากรของกระทรวงกลาโหมที่มีความพร้อมความเชี่ยวชาญและความเหมาะสมเข้าทำงานภายใต้ธุรกิจเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารกองประจำการและทหารอาสาที่จะปลดประจำการได้นำเอาความรู้ที่ได้รับไปสร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคงหลังจากปลดประจำการต่อไป ผมขอขอบคุณประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ และผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือฯ ที่สนับสนุนและให้โอกาสทางการศึกษาแก่กำลังพลของกระทรวงกลาโหมและสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
ด้านนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี เชื่อมั่นในการศึกษาและการสร้างคน ในการนี้จึงมีความยินดีที่กระทรวงกลาโหมได้เปิดโอกาสให้ซีพีและบริษัทในเครือฯ ได้ใช้ศักยภาพของเครือฯ สร้างประโยชน์ในด้านอาชีพและการศึกษาแก่บุคลากรของกระทรวงกลาโหม ซึ่งถือเป็นรั้วของชาติ ถือเป็นผู้ที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ทั้งด้านอาชีพและการศึกษา จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตคนดีคนเก่งให้กับประเทศ สร้างอาชีพที่มั่นคง สอดคล้องกับค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และสุดท้ายจึงเป็นประโยชน์ต่อองค์กร
พลทหารปรมินทร์ สุประตา อายุ 21 ปี ทหารกองประจำการ กองทัพบก กล่าวว่า รู้สีกภูมิใจที่ได้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ขอบคุณกลาโหมและเครือซีพีทีได้จัดทำโครงการนี้ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ทหารรุ่นใหม่ปลดประจำการได้รับการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ที่ผ่านมาเรียนจบแค่ ม.3 การมีโครงการนี้ทำให้ได้เรียนต่อในระดับวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้นทั้งในระดับ ปวช. และ ปวส. โดยสนใจที่จะศึกษาต่อด้านช่างยนต์ และไฟฟ้า ในการต่อยอดความรู้เอาไปสร้างงาน สร้างอาชีพที่มั่นคงในอนาคตได้
พลทหารพีระวัฒน์ คัดทะนะ อายุ 25 ปี ทหารกองประจำการ กองทัพอากาศ กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่กลาโหมและเครือซีพี ร่วมมือทำโครงการส่งเสริมอาชีพและการศึกษาผ่านการให้ทุนการศึกษา ซึ่งเป็นการมอบโอกาสให้กับทหารที่กำลังจะปลดประจำการได้เรียนต่อ มีงานทำไม่ต้องว่างงานในยุคเศรษฐกิจแบบนี้
สำหรับกรอบแนวทางความร่วมมือในด้านอาชีพ จะมีการพัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ และจัดหาตำแหน่งงานที่เหมาะสม เพื่อรองรับทหารที่จะปลดประจำการ ทหารอาสาที่จะครบสัญญาและครอบครัวเข้าทำงานกับบริษัท ได้แก่ ซีพีเอฟ ซีพีออลล์ กลุ่มทรู แม็คโคร โลตัส ตามทักษะความสามารถและความสนใจได้อย่างสะดวกรวดเร็ว พร้อมจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ พัฒนาทักษะ ฝึกปฏิบัติงานก่อนลงมือทำจริง ใน 3 หมวด 9 หลักสูตร คือ หมวดช่างเทคนิค แบ่งเป็น ช่างเทคนิค ช่างกล ช่างไฟฟ้า ช่างประปา รวมทั้งหมวดปฏิบัติงานในร้านสาขา เติมและจัดเรียงสินค้า ขับรถส่งสินค้า แคชเชียร์ หมวดคลังสินค้าและขนส่ง ขับรถโฟล์คลิฟท์ แพ็กสินค้า ขับรถบรรทุก ทั้งนี้ สามารถเลือกทำงานในภูมิลำเนาใกล้บ้าน ซึ่งนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยแล้วนั้น ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสถาบันครอบครัวที่อบอุ่น และนำไปสู่ชุมชนที่เข้มแข็งได้อีกด้วย เนื่องจากตำแหน่งงานเหล่านี้กระจายอยู่ในครบทุกภาคทั่วประเทศไทย
ส่วนด้านการศึกษา จะมีการจัดการศึกษาให้แก่บุคลากรของกระทรวงกลาโหมในสาขาที่เกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีกของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่มธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่าย ของเครือซีพี บริษัทในเครือฯ โดยการให้ทุนการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปีละ 1,000 ทุน ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ปีละ 500 ทุน และระดับปริญญาตรี ปีละ 500 ทุน โดยสามารถรับการสนับสนุนทุนการศึกษาต่อเนื่องได้ตั้งแต่ระดับ ปวช. จนถึงปริญญาตรี ซึ่งเป็นการเรียนในรูปแบบ Work-based Education คือ การศึกษาที่เน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ในการทำงานจริง เป็นการเรียนทฤษฎีจากสถานศึกษาและเรียนรู้ภาคปฏิบัติจากสถานประกอบการตลอดหลักสูตร