เผยแพร่ |
---|
หนี้สินท่วมแทบสิ้นเนื้อประดาตัวกันทุกรายสำหรับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรป่าโมก จำกัด หลังเจอวิกฤตทางการเงินใช้บริการกู้เงินนอกระบบ เหตุกู้ง่ายจ่ายคล่องแต่ตอนส่งคืนกลับมีปัญหา ไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายเจ้าหนี้ เนื่องจากรายได้หดหาย ขายข้าวก็ไม่ได้ราคา ทำนาก็ขาดทุน ดอกเบี้ยหฤโหดทบต้นทบดอก จนบางรายคิดจะฆ่าตัวตาย มีจำนวนไม่น้อยโดนฟ้องร้องถูกดำเนินคดีจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
ทว่าโชคดีที่ทางสหกรณ์การเกษตรป่าโมก จำกัด ได้เข้ามาดูแลสมาชิกกลุ่มนี้ได้ทันท่วงที จึงเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จนในที่สุดทางสหกรณ์ยอมซื้อหนี้ทั้งหมดของลูกหนี้ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์แล้วให้ลูกหนี้มาจ่ายตรงกับสหกรณ์แทนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
“ที่จริงทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เป็นสมาชิกสหกรณ์ด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ลูกหนี้ไม่อยากกู้เงินสหกรณ์ เพราะมีขั้นตอนยุ่งยาก กู้นอกระบบดีกว่ากู้ง่ายได้เงินเร็ว ถึงดอกเบี้ยจะสูงก็ตาม เพราะคิดว่าจ่ายคืนไหว ถ้าขายข้าวได้ราคา ได้ผลผลิตตามที่ต้องการ” นางสาวรุ่งนภา วันสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรป่าโมก จำกัด ชี้เหตุจูงใจให้สมาชิกกู้เงินนอกระบบ พร้อมเผยเทคนิคเจ้าหนี้ก็เดินไปเคาะตามประตูบ้านเพื่อเสนอเงินก้อนให้ลูกหนี้ใช้บริการกู้ยืม พร้อมใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักประกันก็สามารถจ่ายเงินให้ทันที
เธอยอมรับว่าที่ผ่านมาแม้สมาชิกจะกู้นอกระบบก็ไม่มีปัญหา จ่ายหนี้สหกรณ์ก็ยังเป็นไปตามปกติ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาสมาชิกกลับไม่ยอมจ่ายหนี้คืนสหกรณ์ จึงลงพื้นที่เก็บข้อมูลสอบถามเหตุผลก็ปรากฏว่าสมาชิกต้องมาจ่ายหนี้ค้างนอกระบบก่อน เนื่องจากโดนเจ้าหนี้ตามทวงทุกวัน จากนั้นจึงนำข้อมูลมาหารือในคณะกรรมการสหกรณ์เพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาให้กับสมาชิก พร้อมหาทางออกร่วมกัน หลังได้หารือร่วมกัน 3 ฝ่าย ระหว่างเจ้าหนี้ ลูกหนี้ และสหกรณ์ เพื่อขอลดดอกเบี้ยบางส่วน ในที่สุดจึงได้ข้อสรุปโดยสหกรณ์จะเป็นคนซื้อหนี้ของสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระแล้วให้สมาชิกมาจ่ายหนี้กับทางสหกรณ์แทน
“เป็นการเปลี่ยนเจ้าหนี้จากนอกระบบมาเป็นหนี้กับทางสหกรณ์แทน ดอกเบี้ยก็ถูกลงกว่าเยอะ สหกรณ์ก็จะมาส่งเสริมเรื่องอาชีพให้เขามีรายได้เพิ่มจะได้มีเงินมาส่งคืนให้กับสหกรณ์ต่อไป” นางสาวรุ่งนภา กล่าวและยอมรับว่า
การที่สหกรณ์การเกษตรป่าโมก จำกัด นำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาส่งเสริมสมาชิกทำเกษตรผสมผสาน โดยได้รับการแนะนำจาก นายสันติ จันทร์สถานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง ให้สมาชิกปลูกพืชผักสวนครัวในบริเวณบ้านของตัวเอง อย่างน้อยช่วยลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้รายวัน รายเดือน ไม่ต้องหวังพึ่งพาอาชีพหลักจากการทำนาปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว
“ชะอม เป็นอีกพืชที่ได้รับคำแนะนำให้ปลูกจาก ผอ.สันติ จันทร์สถานนท์ เพราะเป็นพืชใช้น้ำน้อย ดูแลง่าย ทนต่อโรค แมลง มีอายุเก็บเกี่ยวนานหลายปี ขายได้ราคาดี มีตลาดรองรับแน่นอน” นายสมเกียรติ สำอางศรี ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรป่าโมก จำกัด กล่าวถึงการส่งเสริมให้สมาชิกปลูกชะอม ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่สามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิก หลังไปศึกษาดูงานความสำเร็จมาแล้วที่สหกรณ์การเกษตรโพธิ์ทอง จำกัด โดยสหกรณ์จัดซื้อต้นพันธุ์ชะอมจากสหกรณ์โพธิ์ทอง จำกัด เพื่อนำมาส่งเสริมให้สมาชิกปลูก พร้อมดูแลจัดหาวัสดุอุปกรณ์การผลิต ทั้งปุ๋ยคอก ตลอดจนการจัดทำแปลงปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว ทั้งยังจัดหาตลาดเพื่อจำหน่ายผลผลิตอีกด้วย
“สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการนี้กับเราจะต้องใช้พื้นที่ว่างบริเวณบ้านของตัวเอง มีเท่าไหร่ใช้แค่นั้น ปลูกชะอมก็ได้ กล้วยก็ได้ มะม่วงก็ได้ มีทั้งแก้วขมิ้นและน้ำดอกไม้ คือแล้วแต่สมาชิกเลยแล้วแต่ความสะดวก บางคนมีที่น้อยปลูกชะอมก็จะสะดวกกว่า เพิ่งจะนำมาส่งเสริมสมาชิกที่มีปัญหาหนี้ปลูกเมื่อต้นปีนี้เอง ตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผลไปยังสมาชิกที่สนใจรายอื่นๆ” ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรป่าโมก จำกัด กล่าวย้ำ
สำหรับผลการดำเนินงานสหกรณ์การเกษตรป่าโมก จำกัด ตำบลบางปลากด อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ปัจจุบัน (ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2566) มีสมาชิกจำนวนทั้งสิ้น 575 คน ทุนเรือนหุ้น 16,067,300 บาท รายได้รวมทั้งสิ้น 4,085,658.64 บาท มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 3,446,027.85 บาท และมีกำไรสุทธิ 639,630.79 บาท
อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจผลผลิตชะอมอินทรีย์ สามารถสอบถามรายละเอียดที่ สหกรณ์การเกษตรป่าโมก จำกัด ตำบลบางปลากด อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โทร. 035-661-492, 086-034-8190