เกษตรกรโคราชโอด อากาศร้อนจัด ผักขึ้นฉ่ายแห้งตายยกแปลง

เกษตรกรบริเวณชุมชนท่าตะโก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีเกษตรกรทำแปลงผักจำนวนมาก โดยมีการปลูกผักหลายชนิด อาทิ ผักชี ผักขึ้นฉ่าย ผักคะน้า โหระพา และกะเพรา เป็นต้น อากาศร้อนจัด แดดแรงมาก ผักขึ้นฉ่ายแห้งตายยกแปลง เสียหายนับแสนบาท ดันราคาสูงขึ้น กิโลกรัมละ 160 บาท 

โดยพบว่าเกษตรกรได้ทิ้งให้แปลงผักว่างเปล่าเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากช่วงนี้สภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลกระทบทำให้ผักหลายชนิดไม่เติบโต และได้รับความเสียหายถูกแดดเผาตายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผักที่มีใบอ่อน เช่น ผักชี และผักขึ้นฉ่าย ซึ่งพบว่า ถูกแดดเผาต้นและใบเหี่ยวเฉาตายทุกแปลง

จนเกษตรกรหลายรายถอดใจต้องปล่อยทิ้งให้เหี่ยวตายไปหมด เนื่องจากไม่สามารถดูแลรักษาถึงช่วงเก็บเกี่ยวไปขายได้ ยังคงเหลือเพียงผักบางชนิด เช่น กะเพรา และโหระพา ที่มีใบทนแดดได้ดี ที่สามารถเก็บไปขายได้ในช่วงนี้ แม้ว่าโหระพาจะได้ราคาไม่สูงมากนัก ราคาขายกิโลกรัมละ 40 บาทเท่านั้น

นางสำรวย โมมขุนทด อายุ 60 ปี เกษตรกรชาวชุมชนท่าตะโก เปิดเผยว่า ปีนี้แดดแรงมาก อากาศร้อนกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ผักหลายชนิดไม่เติบโต ขณะเดียวกัน ผักชีและผักขึ้นฉ่ายซึ่งเป็นผักใบอ่อน ทนแดดไม่ค่อยได้ ตอนนี้เหี่ยวเฉาตายไปเกือบหมด

ตนเองนั้นปลูกผักขึ้นฉ่ายไว้ 2 แปลง เก็บผลผลิตไปขายได้เพียง 1 แปลงเท่านั้น ส่วนอีก 1 แปลงต้องปล่อยให้เหี่ยวเฉาตายไปทั้งหมด คิดมูลค่าความเสียหายกว่า 1 แสนบาทเลยทีเดียว เนื่องจากแดดร้อนจัด ไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลย ถ้าจะป้องกันไม่ให้ถูกแดดเผาก็ต้องใช้ซาแรนมากั้นแดด ซึ่งก็ต้องใช้เงินลงทุนซื้อซาแรนจำนวนมาก ไม่คุ้มทุน

ดังนั้น จึงทำให้ปีนี้ผักขึ้นฉ่ายเสียหายจำนวนมาก ราคาจึงพุ่งสูงขึ้น โดยถ้าขายส่ง ถุงละ 5 กิโลกรัม ขายในราคา 300 บาท แต่ถ้าขายปลีกกิโลกรัมละ 160 บาท

ทั้งนี้ สำหรับการปลูกผักขึ้นฉ่ายนั้น ต้องใช้เวลาประมาณ 60 วัน ถึงจะเก็บขายได้ และการดูแลรักษาก็ยากมาก ใครที่ไม่เคยทำการปลูกผักชนิดนี้จะไม่เข้าใจเลยว่ายากเพียงใด ดังนั้น จึงอยากให้คนที่บ่นว่าผักขึ้นฉ่ายแพงมากช่วงนี้ รู้สึกเห็นใจและเข้าใจเกษตรกรบ้าง