โละกก.กองทุนเงินพิเศษฯ ช.พ.ค. บอร์ดสกสค.คุมแก้ ‘ออมสิน’ หักบัญชีพลการ โยนแบงก์คืนส่วนต่าง 1% ให้แม่พิมพ์โดยตรง

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นพ. ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่าที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ตามที่ นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ สกสค.เสนอ ซึ่งนายพินิจศักดิ์ชี้แจงว่ากองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ มีสถานะเป็นหน่วยงานในกำกับของสำนักงาน สกสค.ไม่ใช่นิติบุคคล ดังนั้น อำนาจในการใช้เงินกองทุนสนับสนุนพิเศษฯ จึงเป็นของสำนักงาน สกสค. ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติยุบคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนพิเศษฯ และข้อบังคับต่างๆ ที่ออกโดยคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนพิเศษฯ ชุดที่ผ่านมา โดยต่อไปให้คณะกรรมการ สกสค.ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นผู้ดูแล

นพ. ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อยุบคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนฯ และข้อบังคับต่างๆ แล้ว จะต้องจัดทำข้อบังคับ และยกร่างสัญญาข้อตกลงความร่วมมือที่ทำไว้กับธนาคารออมสินใหม่ เบื้องต้นสำนักงาน สกสค.จะไม่รับเงิน 1% ที่ธนาคารออมสินคืนเงินส่วนต่างเข้ากองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ อีกต่อไป โดยจะคืนเงินในส่วนนี้ให้กับครูที่มีวินัยในการชำระหนี้ที่ดี ส่วนแนวทางจะเป็นอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่สำนักงาน สกสค. และธนาคารออมสิน ต้องไปวางแนวทางร่วมกัน คาดว่าจะมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 ทั้งนี้ ยืนยันว่าการยุบคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ชุดเดิม ให้คณะกรรมการ สกสค.มาบริหารกองทุนแทนนั้น จะไม่มีผลต่อการดำเนินงาน เพราะในอนาคตจะต้องตั้งคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อให้คำปรึกษากับคณะกรรมการ สกสค.แต่ไม่มีอำนาจบริหารจัดการกองทุนฯ

“สกสค.จะไม่เป็นตัวกลางเก็บเงิน 1% ให้กับครูอีกต่อไป เพราะเงินจำนวนนี้เป็นของครูตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และเป็นเงินจำนวนมาก หากคิดจากวงเงินกู้ทั้งหมดที่มีประมาณ 5 แสนล้านบาท 1% จะเป็นเงินมากถึง 5,000 ล้านบาท ส่วนจะมีวิธีคืนเงินส่วนนี้ให้ครูอย่างไรนั้น ธนาคารออมสินต้องเป็นผู้บริหารจัดการ เบื้องต้นจะใช้เงินจำนวนนี้ปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ลดหนี้ หรือลดดอกเบี้ยให้ครูที่มีวินัยทางการเงิน เป็นต้น ส่วนการติดตามเงินคืนจากธนาคารออมสินที่หักเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ เพื่อชำระหนี้แทนผู้กู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไปนั้น ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้ธนาคารออมสินยังยืนยันว่าหักเงินตามข้อตกลงที่ทำไว้ ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นข้อถกเถียง โดยจะต้องเจรจาร่วมกันอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อยุติเร็วๆ นี้” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

นพ. ธีระเกียรติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือกรณีการทำประกันชีวิตครู ซึ่งขณะนี้มีครูที่มีกรมธรรม์จะครบ 9 ปี ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีผู้ร้องเรียนเข้ามาจำนวนมากว่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูง จึงให้ สกสค.เข้าไปดูแลเรื่องนี้ โดยได้ศึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันชีวิต ธนาคารออมสิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหลายแห่ง เพื่อดูเงื่อนไขที่ดีที่สุด เป็นธรรมกับครูที่สุด ต้องทำทุกอย่างให้ยุติธรรมที่สุด ส่วนรายละเอียดจะดำเนินการอย่างไรนั้น ยังบอกไม่ได้

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน