เผยแพร่ |
---|
สำนักงานเกษตรอำเภอเกาะยาว เตือนเกษตรกรงดการเผาตอซังและหันมาไถกลบร่วมกับการหว่านปุ๋ยพืชสด เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน ช่วยเพิ่มพูนคุณภาพของดินให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน เพิ่มผลผลิตลดต้นทุนการผลิต ทำให้สภาวะแวดล้อมดีขึ้น และเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำนาข้าวอินทรีย์ฤดูกาลผลิต
ปี 2561/62
นางอุษณี เจียมรา เกษตรอำเภอเกาะยาว กล่าวว่า สำนักงานเกษตรอำเภอเกาะยาว ขอเตือนเกษตรกรงดการเผาตอซังและหันมาไถกลบร่วมกับการหว่านปุ๋ยพืชสด เช่น ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า ปอเทือง ฯลฯ เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน ช่วยเพิ่มพูนคุณภาพของดินให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต ทำให้สภาวะแวดล้อมดีขึ้น และเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำนาข้าวอินทรีย์ฤดูกาลผลิตปี 2561/62
เหตุผลที่ต้องหยุดเผาตอซังฟางข้าว เนื่องจากเป็นการทำลายดิน ทำให้ดินเสื่อมโทรม ทำลายจุลินทรีย์ในดิน และแมลงควบคุมศัตรูพืช ทำให้เกิดปัญหาการระบาดของศัตรูพืช ทำลายธาตุอาหารที่พืชต้องการทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ผลผลิตต่ำ ทำให้โลกร้อน เกิดปัญหาฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง น้ำท่วมขัง และผิดกฎหมาย
ประโยชน์ที่ได้จากการไถกลบตอซังฟางข้าว
t ได้ธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการ ประกอบด้วย ไนโตรเจน (N) จำนวน 6.9 กิโลกรัม/ไร่ ฟอสฟอรัส (P) จำนวน 0.8 กิโลกรัม/ไร่ โพแทสเซียม (K) จำนวน 15.6 กิโลกรัม/ไร่
t เพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดิน ช่วยให้โครงสร้างดินดี มีความอุดมสมบูรณ์
t ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิต
t รักษาระดับความเป็นกรดและด่างของดิน ช่วยลดปัญหาดินเปรี้ยวและดินเค็ม
t ลดพิษของเหล็กและแมงกานีสในดิน
t ลดปัญหามลพิษทางอากาศ หมอกควัน และลดปัญหาโลกร้อน
การไถกลบตอซังฟางข้าวและปลูกปุ๋ยพืชพืชสดร่วม ช่วยปรับโครงสร้างของดิน เป็นการหมุนเวียนธาตุอาหารพืชกลับสู่ดิน ส่งผลให้การเจริญเติบโตและผลผลิตข้าวมากขึ้น เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดต้นทุนในการผลิต และขับเคลื่อนการผลิตข้าวอินทรีย์ของอำเภอเกาะยาวต่อไป นางอุษณี กล่าวในที่สุด
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอเกาะยาว
โทรศัพท์ 0 7659 7127