“ซีพี” สานต่อโครงการ “ข้าวชาวนาไทย ปี 2”

เมื่อปี 2559 ชาวนาไทยทั่วประเทศประสบความเดือดร้อน จากปัญหาข้าวเปลือกล้นตลาด และมีราคาตกต่ำ บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจข้าวในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จึงเปิดจุดรับซื้อข้าวตรงจากชาวนา รวม 18 จุด ทั่วประเทศ และนำข้าวเปลือกมาแปรรูปก่อนจำหน่าย ในชื่อ “ข้าวชาวนาไทย” ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิใหม่ 100% บรรจุถุง น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ขายในราคาต้นทุน และจำหน่ายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคผ่านช่องทางต่างๆ ในเครือ ซีพี เช่น ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น, ห้างค้าส่งแม็คโคร, ร้านซีพี เฟรชมาร์ท ฯลฯ ปรากฏว่า โครงการดังกล่าวประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม สามารถบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวนา ช่วยให้ชาวนาสามารถขายข้าวได้ในราคายุติธรรม

สำหรับ ปี 2560 ซี.พี. อินเตอร์เทรด และพันธมิตร ยังคงสานต่อโครงการ “ข้าวชาวนาไทย ปี 2” โดยเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกตรงจากชาวนา รวม 29 จุด ทั่วประเทศ เพิ่มจากปี 2559 ที่มี 18 จุด ทั่วประเทศ โดยประกาศรับซื้อข้าวจากชาวนา ในราคานำตลาด ให้ราคารับซื้อบวกเพิ่มกับเกษตรกรชาวนาจากราคาทั่วๆ ไปอีก ตันละ 300 บาท และวางแผนจำหน่าย “ข้าวชาวนาไทย” ผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 10,200 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้ร่วมสนับสนุนข้าวจากเกษตรกร

สินค้า “ข้าวชาวนาไทย” ตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอนผลิตข้าว เพราะเป็นผลผลิตจากโครงการนาแปลงใหญ่ประชารัฐ ที่มีการบริหารจัดการระบบการผลิตข้าวในแปลงนาแบบครบวงจร เริ่มจากการประชุมรับสมัครสมาชิกเกษตรกรในพื้นที่ มีภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว และมีทีมผู้เชี่ยวชาญของบริษัทร่วมกันให้ความรู้ ความเข้าใจกับเกษตรกรเรื่องการปลูกข้าวที่ถูกวิธี ด้วยระบบ GAP พร้อมให้การดูแลอย่างต่อเนื่องทั้งกระบวนการผลิตข้าว

ในปี 2561 ซี.พี. อินเตอร์เทรด ตั้งเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่โครงการนาแปลงใหญ่ประชารัฐ ในแถบภาคอีสาน ปีการผลิต 2561/62 เป็นจำนวน 100,000 ไร่ โดยคาดว่าจะมีเกษตรกรเข้ามาเป็นสมาชิก จำนวน 5,000 ราย (จากเดิม ปี 2560 จำนวน 73,614 ไร่ เกษตรกรสมาชิก จำนวน 3,508 ราย) เพื่อรองรับปริมาณข้าวขาวหอมมะลิเพิ่มจากเกษตรกรอีก และจะพัฒนาจุดรับซื้อข้าวเปลือกตรงจากชาวนา ให้กลายเป็นจุดพัฒนาวัตถุดิบข้าวเปลือกครบวงจร มีการขึ้นทะเบียนสมาชิกกับเกษตรกรผู้นำข้าวเปลือกมาขายทุกคน เพื่อร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ระบบการผลิตข้าว ให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบข้าวเปลือกที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางและสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับชาวนาไทย ให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืน

นายฐิติ ลุจินตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด หรือ ข้าวตราฉัตร กล่าวว่า ในอนาคต ทางบริษัทจะพัฒนาโครงการข้าวชาวนาไทยไปสู่ “วิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคม (Social Enterprise)” เพื่อส่งเสริมให้สังคมและชุมชนมีส่วนร่วมมากขึ้น สร้างผลลัพธ์ทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรม แก้ไขปัญหาสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน โดยผ่านโครงการข้าวชาวนาไทย