กรมแพทย์แผนไทยฯชู ‘N040’ ยามะเร็งปากมดลูกผ่านทดลองเฟสแรก พบ 50 %ประสิทธิภาพดี

เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก  นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)  เข้าตรวจเยี่ยมกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข  และมอบแนวทางการดำเนินงานโดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ และผู้บริหารกรมฯ ให้การต้อนรับ  โดย นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายให้มีการพัฒนาสมุนไพรไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดยารักษาโรค เน้นการใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบัน      ให้ประชาชนไทยใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพให้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการเกษตรเพาะปลูกสมุนไพรในแต่ละชุมชน ช่วยกระจายโอกาสและสร้างรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งขณะนี้มีการวิจัยพัฒนาเรื่องยามะเร็ง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วย

ภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า  ขณะนี้ทางกรมฯ ได้มีการวิจัยยารักษามะเร็งปากมดลูก หรือยา N040  ซึ่งพบว่าผู้ป่วยมีการตอบสนองต่อยาดังกล่าวได้ดี ถึงร้อยละ 50 และมีร้อยละ 30 ที่ก้อนมะเร็งหายไป โดยจากการเก็บตัวอย่างในกลุ่มผู้ป่วย 32 คน เป็นเวลา 1 ปีไม่พบผลข้างเคียงจากการใช้ยา โดยมี 16 คน ตอบสนองต่อการักษาที่ดี ในจำนวนนี้มี 4 คน ที่ก้อนหายไปแต่เพราะยังไม่มีกลุ่มควบคุมจึงยังไม่สามารถระบุได้ชัดว่าการหายไปของก้อนเกิดขึ้นจากยาหรือไม่ ส่วนอีก 12 คน มีการตอบสนองต่อยาตามลำดับขั้น โดยเป็นการใช้การประเมินตามแผนปัจจุบันที่เป็นการระบุว่าก้อนมีการตอบสนองลักษณะใด ส่วนอีก 16 คนมีความเปลี่ยนแปลงและมีระยะการดำเนินโรคปกติ แต่โดยรวมยาดังกล่าวมีความปลอดภัย กับผู้ป่วยและผู้ป่วยมีผลตอบสนองดี

“ส่วนในการทำวิจัยในระยะ 2 จะเป็นการวิจัยทางคลินิก ซึ่งจะมีกลุ่มควบคุมเพื่อทำให้เราเห็นผลการรักษาที่ชัดเจนขึ้น ดีขึ้น  และมั่นใจว่าการหายของก้อนเนื้อมาจากยา ซึ่งขณะนี้ยังไม่เริ่มเข้าเฟส 2 แต่กำลังดำเนินการ โดยหากเปิดเข้าสู่การทดลองระยะนี้เมื่อใดจะมีการประกาศเพื่อขอรับอาสาสมัครในการทดลอง ซึ่งอาสาสมัครจะเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีตัวเลือกในการรักษาจากการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ หรือจะเป็นการดูแลเฉพาะอาการ อย่างไรก็ตามการจะทำการวิจัยเรื่องยามะเร็งต้องผ่านการจัดทำแนวทางการรักษาโรคมะเร็งหรือโปรโตคอล ให้กับคณะกรรมการจริยธรรมในคนก่อน ซึ่งสิ่งที่ทำจะไม่ผิดหลักจริยธรรม ผู้ป่วยมีความปลอดภัย และอาสาสมัครต้องยินยอมพร้อมใจ โดยยาดังกล่าวเริ่มวิจัยตั้งแต่ปี 2557 และผลเพิ่งออกมาช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมาว่าผู้ป่วยมีผลการตอบสนองต่อยาดี” ผอ.สถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าว

ภญ.มณฑกา กล่าวต่อว่า ยา N040 มีส่วนผสมประมาณ 10 ชนิด ได้แก่ เถามวกขาว หญ้าขัด ตับเต่าใหญ่ ถั่วพู ราชพฤษ์ หนามโค้ง กางหลวง ตับเต่า สานเงิน และค้องเขาเขียว ซึ่งก่อนจะรับประทานได้ต้องผ่านกระบวนการผลิตมาในรูปแบบแคปซูล ไม่ใช่ไปผสมรับประทานเอง สำหรับการบริโภคจะให้บริโภคตามน้ำหนักตัว และในการจะรับประทานต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ด้วยผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตามในการรับประทานยารักษามะเร็งปากมดลูก ผู้ป่วยก็จะต้องได้รับการรักษาที่จำเป็นตามมาตรฐาน ส่วนผลข้างเคียงของ ยาN040 ที่ถือว่าเป็นยาใหม่นั้น ในทดลองในเฟส 1 จากการตรวจผลเลือด และตรวจรายงานผลข้างเคียง ยังไม่พบผลข้างเคียงที่อันตราย จะมีเพียงอาการเวียนศีรษะเล็กน้อย และคาดว่าจะเริ่มเฟส 2 ได้ภายใน 1 ปี และขณะนี้ ยาN040 ได้มีการจดอนุสิทธิบัตรของกองทุนภูมิปัญญา ซึ่งอยู่ในสังกัดของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพราะเป็นคนให้ทุนทำวิจัยที่มีการทำวิจัยมาตั้งแต่ปี 2536 โดยเป็นตำรับของล้านนา ส่วนการเลือกพัฒนาสูตรยารักษามะเร็งปากมดลูกนั้นก็เกิดจากการนำยาดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับยามาตรฐานแล้ว และพบว่ายา N040 มีศักยภาพในการรักษามะเร็งปากมดลูกได้

ภญ.มณฑกา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางกรมฯยังจะมีการรับอาสาสมัครผู้ป่วยมะเร็งตับจำนวน 81 คน เพื่อมาเข้าร่วมโครงการพัฒนายารักษามะเร็งตับหรือสมุนไพรในตำรับเบญจอำมฤตย์ ซึ่งที่ผ่านมามีการเก็บข้อมูลในผู้ป่วยกว่า 300 คน ยังไม่พบรายงานที่น่ากังวลว่ามีผลข้างเคียง จะมีเพียงท้องเสีย ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยสูง ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมโครงการ 12 คนแล้วผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี

 

ที่มา : มติชนออนไลน์