ชาวนาแห่ปลูกข้าวนาปรังลุ่มเจ้าพระยาทะลุแผน กรมชลฯ ย้ำน้ำยังพอ ไม่กระทบทำประปา

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ว่า ณ วันที่ 2 ก.พ. 2561 มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกัน 59,153 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 78% ของความจุเก็บกักรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 35,232 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 68% ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน ปริมาณน้ำมากกว่าปี 2560 จำนวน 8,602 ล้านลบ.ม. โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 18,530 ล้านลบ.ม. หรือ 75% ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวม 11,834 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 65% ของปริมาณน้ำใช้การได้

กรมชลประทาน วางแผนจัดสรรน้ำและเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2560/61 โดยใช้น้ำต้นทุนจาก 4 เขื่อนหลักรวมกันทั้งสิ้น 14,187 ล้านลบ.ม. แบ่งเป็นการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้ง (1 พ.ย. 2560-30 เม.ย. 2560) จำนวน 7,700 ล้านลบ.ม. เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำ สำหรับอุปโภคบริโภค 1,140 ล้านลบ.ม., รักษาระบบนิเวศและอื่นๆ 1,450 ล้านลบ.ม. และการเกษตร 5,110 ล้านลบ.ม. ส่วนที่เหลืออีก 6,487 ล้านลบ.ม. จะสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนเดือนพ.ค.-ก.ค. 2561

ผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งลุ่มน้ำเจ้าพระยาปี 2560/61 ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2560-2 ก.พ. 2561 ได้มีการระบายน้ำ ตามแผนฯ ไปแล้วจำนวน 3,758 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็น 49% ของแผนจัดสรรน้ำฯ และเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ โดยในวันที่ 2 ก.พ. 2561 การระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ยังคงอยู่ในอัตรา 90 ลบ.ม.ต่อวินาที ปี 2560 มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพียง 70 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อรักษาระบบนิเวศด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมาจนถึงปากอ่าวไทย และควบคุมค่าความเค็มที่สถานีสูบน้ำสำแลไม่ให้เกินเกณฑ์เฝ้าระวังที่กำหนดไว้ 0.25 กรัมต่อลิตร ปัจจุบัน (2 ก.พ. 2561) วัดค่าความเค็มได้ 0.18 กรัมต่อลิตร ไม่มีผลต่อน้ำดิบที่การประปานครหลวงใช้ในการผลิตประปาได้ตามปกติส่วนการส่งน้ำเพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทาน กรมชลประทานยังสามารถสนับสนุนได้อย่างเพียงพอ ไม่เกิดความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกแต่อย่างใด

สำหรับผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2560/2561 ของทั้งประเทศ ณ วันที่ 31 ม.ค. 2561 มีการเพาะปลูกไปแล้ว 8.03 ล้านไร่ คิดเป็น 89% ของแผน 9.05 ล้านไร่ เฉพาะข้าวนาปรัง มีการเพาะปลูกไปแล้ว 7.55 ล้านไร่ คิดเป็น 90% ของแผน 8.35 ล้านไร่ เฉพาะส่วนในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกไปแล้ว 5.51 ล้านไร่ คิดเป็น 105% ของแผน 5.23 ล้านไร่ เฉพาะข้าวนาปรัง มีการเพาะปลูกไปแล้ว 5.45 ล้านไร่ คิดเป็น 105% ของแผน 5.17 ล้านไร่ซึ่งการส่งน้ำเพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทานกรมชลประทานยังสามารถสนับสนุนได้อย่างเพียงพอ ไม่เกิดความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าพื้นที่เพาะปลูกในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการเพาะปลูกเต็มพื้นที่และเกินแผนไปแล้วจึงขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ร่วมกันเพาะปลูกพืชให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เพื่อไม่ให้กระทบต่อแผนการจัดสรรน้ำที่ได้กำหนดไว้ที่สำคัญเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำครอบคลุมทุกภาคส่วนอย่างเพียงพอจึงต้องขอความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้ในอนาคตได้อย่างไม่ขาดแคลนด้วย

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์