ชาวนาพิมายฝืนปลูกข้าวนาปรัง ไม่สนคำเตือนชลประทาน หลังปริมาณน้ำในเขื่อนเริ่มแห้งขอด

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ชาวนาในตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เร่งสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อส่งเข้านาข้าวที่ฝืนทำการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ส่งผลให้ปริมาณน้ำ ตามคลองน้ำต่างๆ ในพื้นที่ เริ่มแห้งเหือด จนไม่เหลือน้ำอยู่ภายในลำน้ำ ขณะที่ชาวนาบางส่วนได้ทำการสูบน้ำไปเก็บไว้ภายในสระน้ำที่ขุดขึ้นเอง เพื่อกักตุนน้ำไว้ใช้ส่งให้กับนาข้าวของตน เนื่องจากในปีนี้ชาวนาทุกรายทราบดีว่าอ่างเก็บน้ำทุกแห่งมีน้ำไม่เพียงพอที่จะปล่อยให้ทำนาปรังได้เหมือนเช่นทุกๆ ปี โดยเฉพาะน้ำภายในเขื่อนพิมาย มีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยกว่าทุกปี

นายถกล แก้วมะเริง อายุ 50 ปี ชาวนาในตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย รายหนึ่งบอกว่า ตนเอง ได้ลงทุนปลูกข้าวนาปรัง ทั้งหมด 100 ไร่ เนื่องจากการทำนาปลูกข้าว ในช่วงนาปี ที่ผ่านมา ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ตนเองจึงหันมาปลูกข้าวนาปรังทดแทน หลังจะได้ผลผลิตเพิ่ม แต่ก็มาประสบกับปัญหา เริ่มจะขาดแคลนแหล่งน้ำใช้ในการเพราะปลูก โดยจากการสำรวจของทางสำนักงานเกษตรอำเภอพิมาย ล่าสุดพบว่าในพื้นที่อำเภอพิมาย มีเกษตรกรชาวนาฝืนทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ไร่

ซึ่งทางสำนักงานเกษตรอำเภอได้ประกาศเตือนเกษตรกรอย่างชัดเจนแล้วว่าขอให้งดทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังในปีนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำภายในเขื่อนพิมาย ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำมูลมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอที่จะส่งน้ำเพื่อให้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังได้ โดยชาวนาที่ลงทุนปลูกข้าวนาปรังไปแล้ว ต้องเสี่ยงต่อผลผลิตจะได้รับความเสียหาย หลังปริมาณน้ำในพื้นที่ แห้งลงอย่างรวดเร็ว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์