เผยแพร่ |
---|
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ว่า จากรายงานสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศปี 2560/61 พบว่า คาดการณ์ผลผลิตไว้ที่ 4.7 ล้านตัน แต่ความต้องการใช้ในประเทศ 8 ล้านตัน ทำให้ต้องบริหารจัดการเพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคผลิตและความต้องการใช้ โดยที่ประชุมเห็นชอบใน 3 เรื่องหลัก คือ 1. อนุมัติหลักการให้นำเข้าเพื่อให้เพียงพอกับในอุตสาหกรรมผลิตอาหารเพื่อเลี้ยงกุ้ง 2. เห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการในการกำหนดปริมาณนำเข้าและออกมาตรการดูแลที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย โดยอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เป็นประธาน ซึ่งจะต้องเรียกประชุมหารือผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดในประเทศ ที่อัตรา 1 ต่อ 3 ว่าสมควรจะปรับเปลี่ยนใหม่หรือไม่ และพิจารณามาตรการเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลี ที่ปัจจุบันไม่มีการจัดเก็บ ซึ่งครั้งนี้ให้ศึกษาลึกไปถึงรายละเอียดส่วนผสมและสูตรผลิตอาหารสัตว์ว่า ประกอบไปด้วยอะไรและมีความต้องการแท้จริงแค่ไหน เพื่อให้กำหนดปริมาณนำเข้าที่เหมาะสม ไม่กระทบต่อผู้เลี้ยงภายในประเทศ โดยกำหนดให้ได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน และนำเข้าที่ประชุม นบขพ.พิจารณาในครั้งถัดไป
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า 3. เห็นชอบให้ตั้งอนุกรรมการพิจารณานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะนำเข้าจากกัมพูชา ให้ขยายเวลาอีก 2 เดือน หรือระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม จากเดิมเดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม ตามที่กัมพูชาเรียกร้อง ขณะเดียวกัน ไทยได้เรียกร้องให้กัมพูชาเพิ่มปริมาณการนำเข้าหมูมีชีวิตให้มากขึ้น จากเดิมกัมพูชาอนุญาตให้นำเข้าเพียงเล็กน้อย และให้ 2 ฝ่ายตั้งคณะทำงานพิจารณาร่วม โดยมีอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เป็นประธาน ทั้งนี้ ปัจจุบันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดแห้ง ความชื้น 14% อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 9.30-9.50 บาท ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนที่กิโลกรัมละ 8 กว่าบาท ซึ่งเป็นผลของการใช้มาตรการบริหารจัดการของกระทรวงพาณิชย์
ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน