เผยแพร่ |
---|
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำ ในไร่นาของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านม่วง จำกัด จังหวัดสกลนคร ต่อยอดพัฒนาระบบน้ำโดยการขุดบ่อ กักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดแคลนน้ำทำการเกษตร ส่งผลทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ได้ตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสนับสนุนระบบน้ำในไร่ของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านม่วง จำกัด อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร ซึ่งในปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นาของสมาชิกสถาบันเกษตรกร โดยได้รับการจัดสรรเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรนำไปสนับสนุนเงินกู้แก่สมาชิกสำหรับไปลงทุนพัฒนาแหล่งน้ำในแปลงไร่นาของตนเอง โดยการขุดสระกักเก็บน้ำไว้ใช้ในไร่นา หรือขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลไว้ใช้ทดแทนน้ำชลประทานในบางช่วงที่เกิดการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้งสามารถนำระบบน้ำใต้ดินมาใช้ประโยชน์ เพื่อเป็นสร้างโอกาสในการทำเกษตรกรรม ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้งให้กับเกษตรกร ส่งเสริมให้มีการจัดระบบในไร่นา มีแหล่งน้ำภายในแปลงเกษตร ลดการพึ่งพาน้ำจากระบบชลประทานและแหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงจากระบบการทำเกษตรกรรมพึ่งธรรมชาติ เป็นเกษตรแบบบริหารจัดการ
ทั้งนี้ สหกรณ์การเกษตรบ้านม่วง จำกัด จังหวัดสกลนคร เป็นสหกรณ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนเงินปลอดดอกเบี้ยจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร วงเงิน 1,100,000 บาท เพื่อนำไปสนับสนุนการขุดบ่อน้ำในไร่นาให้แก่สมาชิก จำนวน 26 ราย ซึ่งสมาชิกสามารถยื่นขอกู้เงินได้ คนละไม่เกิน 50,000 บาท จากนั้นได้ลงไปติดตามผลความสำเร็จของการสนับสนุนเงินกู้เพื่อขุดบ่อบาดาลในแปลงเกษตรของ นายองอาจ ปะจันทศรี สมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านม่วง จำกัด เป็นหนึ่งในสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบน้ำ เพื่อการเกษตร จากเดิมเกษตรกรรายดังกล่าวมีรายได้เพียงการเพาะต้นไผ่ขายเป็นหลัก ต่อมาเมื่อได้รับเงินสนับสนุนเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยนำไปขุดบ่อบาดาล ส่งผลทำให้มีรายได้จากการทำการเกษตรทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิมมีรายได้ไม่เกิน 300,000 บาท ต่อปี ปัจจุบัน มีรายได้เฉลี่ย 601,960 บาท ต่อปี
พื้นที่ในไร่ของนายองอาจมีประมาณ 6 ไร่ ภายหลังจากขุดบ่อน้ำบาดาล ส่งผลทำให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี เกษตรกรจึงได้ขยายการปลูกพืช เริ่มจากการเพาะปลูกไม้ดอกไม้ประดับเพื่อจำหน่าย ปลูกไผ่เลี้ยง หญ้าหวาน ปลูกผลไม้ เช่น ชมพู่ มะม่วง กล้วยหอมทอง ปลูกผักสวนครัว เน้นผักปลอดภัย และได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตรแล้ว ได้แก่ ผักบุ้ง ชะอม และเลี้ยงเป็ดและไก่ สามารถเก็บผลผลิตจากในไร่ไปขายให้กับชาวบ้านในชุมชนและตลาดนัดของอำเภอทุกวัน ส่งผลทำให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ที่ผ่านมา สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสกลนครได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปติดตามการดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนการประกอบอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์อย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านการจัดการระบบสหกรณ์ รวมถึงสนับสนุนเงินทุนเพื่อให้สมาชิกนำไปพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการประกอบอาชีพการเกษตรและการแปรรูปเพิ่มมูลค่า โดยในกรณีของสหกรณ์การเกษตรบ้านม่วง จำกัด นับได้ว่าเป็นตัวอย่างหนึ่งของการดำเนินงานพัฒนาระบบน้ำเพื่อการเกษตรให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้ประสบความสำเร็จ ช่วยทำให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิต มีแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรตลอดทั้งปี มีรายได้จากการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ส่งผลทำให้เกษตรกรมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพเพิ่มมากขึ้น
“การลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรบ้านม่วง โดยลงไปดูพื้นที่การทำการเกษตรของนายองอาจ ปะจันทศรี ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์และเป็นเกษตรกรยุคใหม่ หรือ Young Smart Farmer ที่เรียนรู้และพัฒนาการทำการเกษตรจนประสบผลสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับครอบครัว ส่วนการเข้าไปส่งเสริมนั้น กรมกำหนดแนวทางในการเข้าไปพัฒนาทั้งด้านการสร้างองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพ การสร้างองค์ความรู้ด้านการพัฒนาการบริหารจัดการสหกรณ์ การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ และการสนับสนุนเงินทุนให้สหกรณ์ไปดำเนินกิจกรรมที่จำเป็น และตรงต่อความต้องการของสมาชิก”
ทั้งนี้ ในระยะต่อไป กรมส่งเสริมสหกรณ์ ยังเตรียมเข้าไปขยายผลความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานในระยะแรก โดยจะสนับสนุนสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรบ้านม่วงเข้ามาร่วมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในไร่นาเพื่อทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปีให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียง 26 ราย พร้อมกันนี้ นอกจากการสนับสนุนสมาชิกสหกรณ์ในเรื่องขององค์ความรู้และเงินทุนแล้ว ยังมีแผนในการส่งเสริมเรื่องการสร้างวินัยทางการเงินและส่งเสริมให้สมาชิกออมเงินฝากไว้กับสหกรณ์ เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันที่มั่นคงในการประกอบอาชีพในอนาคต